Skip to main content
sharethis

หลัง ผบ.ทบ.ออกมาแสดงความกังวลกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ด้าน กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย โต้ข้อเรียกร้องไม่เลื่อนลอย ยุบ คสช. เปลี่ยนเป็นรัฐบาลรักษาการ เป็นรูปธรรมอย่างยิ่ง 

29 มี.ค.2561 จากกรณีวานนี้ (28 มี.ค.61) ที่ กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมากล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนขบวนชุมนุมมาหน้ากองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.)ในช่วงที่ผ่าน โดยกังวลว่าจะกลายเป็นน้ำผึ่งหยดเดียว พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังดูแล รวมทั้งเปิดเผยด้วยว่าขณะได้ให้หน่วยงานความมั่นคงตรวจสอบว่ามีกลุ่มการเมืองหนุนหลังการเคลื่อนไหว กลุ่มคนอยากเลือกตั้งหรือไม่ รวมถึงการสนับสนุนเส้นทางการเงิน รวมถึงชี้ว่าข้อเรียกร้องของกลุ่มเหล่านี้เลื่อนลอย หวังแค่เคลื่อนขบวน นั้น

วันเดียวกัน กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group - DRG) ซึ่งเป็นองค์กรจัดกิจกรรม คนอยากเลือกตั้ง เรียกร้องจัดเลือกตั้งปีนี้ตามที่หัวหน้า คสช. เคยรับปาก โพสต์ข้อโต้แย้งของ พล.อ.เฉลิมชัย ผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจ ดังนี้ 

ตอบข้อโต้แย้งของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท

ผบ.ทบ. : ความต้องการจริงๆ คือการเคลื่อนย้ายมวลชนไปตามสถานที่ต่างๆ

กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย : ตอบ ไม่ใช่ ความต้องการจริงๆ ของพวกเราที่เคยบอกไปหลายครั้งหลายหนแล้วก็คือต้องการเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงๆ และไม่ต้องการเห็น คสช. หาช่องทางสืบทอดอำนาจอีกต่อไป การมารวมตัวเคลื่อนไหวเป็นเพียงวิธีการที่เราเห็นว่าเหมาะสมที่สุดที่จะนำเสนอข้อเรียกร้องของพวกเราให้สังคมและผู้มีอำนาจได้ยิน (ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันได้ผล) ดังนั้นขอยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นพวกออกมาเดินขบวนเล่นๆ ไร้สาระก่อหวอดไปวันๆ แบบที่ พล.อ.เฉลิมชัย พยายามสร้างภาพให้กับเรา

ผู้ที่ตามขบวนมา ที่ไม่ใช่แกนนำ บุคคลเหล่านี้น่าเห็นใจ เพราะไม่ได้มีอุดมการณ์ แค่แห่ตามสถานการณ์ ไปช่วยเพื่อน ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย ถูกจำคุกหลายปี เมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่มีใครดูแล ครอบครัวแตกแยก พล.อ.ประยุทธ์ก็สั่งการให้ศูนย์ปรองดอง ทบ. ไปดูแลจนได้พักโทษแล้วหลายราย

ตอบ ไม่คิดบ้างหรือว่าผู้ที่ตามขบวนของพวกเรามานั้น เขาอาจเคยพยายามอยู่นิ่งๆ เคยพยายามอดทนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เคยพยายามให้โอกาส คสช. มาหลายครั้งแล้ว แต่เพราะ คสช. หักหลังพวกเขาตลอดมา พวกเขาจึงไม่ขอยอมอดทนเงียบเสียงอีกต่อไป และออกมาร่วมแสดงพลังกับพวกเราด้วยความเต็มใจ ฉะนั้นขอให้ คสช. หยุดพูดจาราวกับว่าประชาชนเป็นสิ่งที่ถูกจูงจมูกได้ง่ายๆ และกลับไปทบทวนตัวเองด้วยว่าทำอะไรลงไปบ้างเรื่องราวถึงได้ดำเนินมาถึงจุดนี้

พวกเราช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด แกนนำช่วยเหลือผู้เข้าร่วม ผู้เข้าร่วมก็ช่วยเหลือแกนนำ เวลามีใครถูกดำเนินคดีก็มีการระดมทุนเพื่อเป็นเงินประกันช่วยเหลือให้ผู้ต้องคดีได้รับการปล่อยตัวอยู่เสมอ

และในส่วนของประชาชนที่ต้องคดีต่างๆ หลายคดีก็มาจากกฎหมายหรือคำสั่งที่ คสช. เขียนขึ้นมาเอง เช่น คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 หรือ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ดังนั้นอย่ามาทำตัวราวกับเป็นพ่อพระผู้โปรดสัตว์ เพราะ คสช. เองนั่นแหละที่ยัดเยียดโทษทัณฑ์ให้พวกเขาตั้งแต่แรก

ทุกอย่างดูแบบเลื่อนลอย ข้อเรียกร้องก็เลื่อนลอยและไม่มีเงื่อนไขอะไร

ตอบ อยากถามว่าท่านได้ฟังหรืออ่านข้อเรียกร้องของพวกเราจริงๆ หรือเปล่า? เพราะสิ่งที่เราเรียกร้องไปนั้นชัดเจนเป็นรูปธรรมอย่างยิ่ง ทั้งที่เรียกร้องให้ยุบ คสช. ให้เปลี่ยนสถานะรัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการ ให้ยกเลิกประกาศคำสั่งที่จำกัดสิทธิประชาชนและพรรคการเมือง รวมถึงให้กองทัพเลิกสนับสนุน คสช. เพื่อนำไปสู่การจัดการเลือกตั้ง ต่อคำถามว่าใครจะดูแลความสงบ หรือรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ (ให้ คสช. อยู่ต่อ) จะให้ทำยังไง เราก็ตอบไปหมดแล้วว่าก็ให้รัฐบาล-หน่วยงานราชการทำหน้าที่รักษาความสงบได้ และรัฐธรรมนูญก็แก้ไขได้เช่นกัน

เราเชื่อว่าข้อเรียกร้องของเราชัดเจนกว่า “โรดแมป” ของ คสช. อย่างแน่นอน

หวั่นจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว

เกรงว่าน้ำผึ้งหยดนั้นจะไม่ได้มาจากพวกเราหรือฝ่ายที่อยากเลือกตั้งหรอกนะครับ พวกเราพยายามควบคุมการจัดกิจกรรมให้อยู่ในความสงบมาโดยตลอด และไม่อยากให้เกิดเหตุความรุนแรงแน่ๆ เพราะจะกลายเป็นข้ออ้างให้ คสช. ไม่ยอมออกไปอีก

อย่าลืมว่าฝ่ายที่ไม่อยากให้มีเลือกตั้งเองก็มีแรงจูงใจที่จะก่อเหตุน้ำผึ้งหยดเดียวเช่นกัน ซึ่งรวมถึงตัวละครที่มีอำนาจมากที่สุดของฝ่ายนี้อย่าง คสช. ด้วย ดังนั้นหากคิดจะใช้น้ำผึ้งหยดเล็กๆ (ที่ คสช. อาจเป็นคนหยดไว้เองก็ได้) มาเป็นข้ออ้างให้ คสช. ครองอำนาจต่อไปแล้ว พวกเราคงไม่สามารถยอมได้ง่ายๆ แน่

สำหรับรายละเอียดที่ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนั้น มติชนออนไลน์ รายงานไว้ว่า พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวมีการชุมนุมมาอย่างต่อเนื่อง ในทุกสัปดาห์ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน และล่าสุดก็มีการเคลื่อนมวลชน มา บก.ทบ. เข้าใจดีว่าเงื่อนไขที่เรียกร้องให้กองทัพแยกออกมาจาก คสช. คงเป็นเงื่อนไขที่เสนอขึ้นมา แต่ความต้องการจริงๆ คือการเคลื่อนย้ายมวลชนไปตามสถานที่ต่างๆ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ในด้านความมั่นคงดูแลอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย ในห้วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สิ่งที่ห่วงใย อยากฝากเป็นข้อคิด ผู้ที่ตามขบวนมา ที่ไม่ใช่แกนนำ เพราะเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้ ศูนย์ปรองดองกองทัพบก ไปดูแลผู้ต้องหา ที่ต้องคดีทางการเมือง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่ไม่ใช่แกนนำ ซึ่งบุคคลเหล่านี้แห่ตามสถานการณ์ ไปช่วยเหลือเพื่อนในบางเรื่อง ที่ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย มีการตัดสินจำคุกหลายปี ครอบครัวเดือดร้อน ท่านก็สั่งการให้ศูนย์ปรองดองลงไปแก้ไปัญหา จนได้รับการพักโทษมาแล้วหลายราย

"ขณะได้ให้หน่วยงานความมั่นคงตรวจสอบว่ามีกลุ่มการเมืองหนุนหลังการเคลื่อนไหว กลุ่มคนอยากเลือกตั้งหรือไม่ รวมถึงการสนับสนุนเส้นทางการเงิน แต่ปัจจุบัน ทุกอย่าง ดูแบบเลื่อนลอย ข้อเรียกร้องก็เลื่อนลอย และไม่มีเงื่อนไขอะไร เพียงแต่ต้องการเคลื่อนขบวน ซึ่งปัญหาก็คือความเดือดร้อนของประชาชน และจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งเราก็ระมัดระวัง แล้วฝ่ายความมั่นคงพยายามยืดหยุ่นในทุกเรื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อส่วนรวม" ผบ.ทบ.กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net