Skip to main content
sharethis

พบผู้สูงอายุในไทย 11 ล้านคน สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ จับมือ รพ.ราชวิถี พม.ชวนผู้สูงอายุถ่ายทอดเคล็ดลับ อยู่ 100 ปีอย่างมีความสุข 80 ปีไม่มีโรค สร้างความเข้าใจให้คนสองวัยทั้งผู้สูงอายุ และผู้ดูแลได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ปลอดภัยจากภาวะเจ็บป่วย เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์และมีคุณภาพ

8 เม.ย.2561 รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ร่วมกับ โรงพยาบาลราชวิถี และกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) จัดกิจกรรมส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดีมีอายุยืนยาวสมบูรณ์ ภายใต้แนวคิด“สองวัยใส่ใจสุขภาพ” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับช่วงเทศกาลประเพณีไทยวันสงกรานต์ หรือวันผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุ และผู้ดูแล สามารถดูแลตนเองได้ไม่เจ็บป่วยฉุกเฉิน  

ภายในงานมีวิทยากรผู้สูงอายุที่เป็นทั้งปูชนียบุคคลและเป็นผู้มีสุขภาพดี เช่น ศ.ดร.ประเสริฐ  ณ นคร นพ.บรรลุ ศิริพานิช และ นพ.เฉก ธนะศิริ มาร่วมแลกเปลี่ยน  และผู้สูงอายุสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 คู่ ทั้งนี้ภายในงานได้มีการทำพิธีขอพรจากผู้สูงอายุ เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันผู้สูงอายุและเทศกาลวันสงกรานต์ซึ่งถือว่าเป็นวันปีใหม่ของไทย

ธนาภรณ์  พรมสุวรรณ  อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง พม. กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงาน ว่า ปี 2560 มีผู้สูงอายุสูงถึง11ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียง1.5% และเป็นผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อยประมาณ2ล้านกว่าคน ขณะที่ผู้สูงอายุ 8 ล้านคนเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งนี้จากการสำรวจทั่วประเทศ พบว่า ขณะนี้มีผู้สูงอายุเกิน100ปี จำนวน 300 คน และคาดการณ์ว่าในปี2574จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ คือจะมีผู้สูงอายุมากถึง 28% ของจำนวนประชากร สำหรับสิ่งที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีความสุขได้คือ การไม่มีโรค มีกิจกรรมทำ ซึ่งทางกรมได้สนองนโยบายภาครัฐด้วยการส่งเสริมการจ้างงานและกองทุนเงินออมแห่งชาติให้กับผู้สูงอายุด้วย

“ผู้สูงอายุจะมีความสุขได้ จะต้องมี่สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ด้วยการเริ่มรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดหวาน มัน เค็ม ส่วนเรื่องการออมนั้นควรเริ่มตั้งแต่วัยทำงาน และกระทรวงแรงงานกำลังผลักดันแก้ไข กฎหมายการจ้างงานผู้สูงอายุให้เป็นการจ้างงานแบบรายชั่วโมง เพื่อให้เหมาะสมกับวัยของผู้สูงอายุ” ธนาภรณ์ กล่าว

ศ.เกียรติคุณ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดประชุมเชิงเสวนา “สองวัยใส่ใจสุขภาพ” ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการส่งเสริมและป้องกันคนไทยไม่ให้เจ็บป่วยฉุกเฉิน โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสขุภาพ(สสส.)ที่ทางสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯต้องการส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงวัยมีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยฉุกเฉิน ที่ผ่านมาปัญหาผู้ป่วยฉุกเฉินมีมากขึ้น ขณะที่ประชากรของประเทศมีอายุขัยเฉลี่ยสูงขึ้น แต่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักมีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง นอกจากนี้แนวโน้มของผู้ที่อายุน้อยแต่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังมีมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์ผู้ป่วยฉุกเฉินในห้องฉุกเฉินมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยฉุกเฉินที่แม้ได้รับการพิจารณาให้เข้ารักษาภายในโรงพยาบาล กลับต้องนอนพักรักษาในห้องฉุกเฉินเพื่อรอเตียง ซึ่งส่งผลเสียในด้านต่างๆทั้งด้านครอบครัว และบุคลากรที่ทำงานในห้องฉุกเฉิ

ศ.เกียรติคุณ นพ.สันต์ กล่าวว่า การถ่ายทอดประสบการณ์จริงจากวิทยากรที่เป็นปูชนียบุคคลที่ทรงคุณภาพมาให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพตนเอง และการป้องกันจุดเสี่ยงภายในบ้าน จะช่วยให้ผู้สูงอายุและครอบครัว หรือผู้ดูแล นำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการดูแลให้เหมาะสม และหวังว่าจะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดความสนใจดูแลสุขภาพของตนเองในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อย เพื่อที่จะได้เริ่มดูแลให้ตนเองมีสุขภาพดีเหมาะสมตามวัย ไปจนถึงการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุยืน มีคุณภาพ ไม่เป็นภาระต่อครอบครัวและประเทศในอนาคต การประชุมกึ่งเสวนานี้จึงเป็นการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

ดร.ประเสริฐ ณ นคร  อดีตนายกราชบัณฑิตยสภา ปัจจุบันอายุ 99 ปี  กล่าวถึงวิธีกิน-อยู่อย่างไร.? ให้อายุยืนเกิน100 ปี พร้อมเคล็ดลับหลักความคิด ที่ว่า การที่จะทำให้อายุยืนนั้น เป็นเพราะเมื่อได้อ่านหนังสือของหลวงวิจิตรวาทการ จำนวน3เล่ม จากนั้นได้ฝึกตนเองในเรื่องการจดจำ ฝึกสมาธิ รักษาสุขภาพอนามัย และเมื่อ3-4ปีมาแล้วได้ไปเดินขึ้นเขา620ขั้น ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เพราะว่าใจมุ่งมั่น และท่องคล้ายๆยุบหนอพองหนอไปเรื่อยๆ มันทำให้จิตใจสงบนิ่ง มันก็ไม่เหนื่อย จนสุดท้ายสามารถขึ้นเขาไปได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังสามารถที่จะบังคับการหลับ การตื่นของตนเองได้ อย่างเวลานอน ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดหลับอดนอน   

ดร.ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับวิธีเลือกอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ตนเองเป็นคนทานง่าย เน้นทานผัก หรือทานอะไรก็ได้ที่ไม่เผ็ดมาก ไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม งดอาหารดิบๆสุขๆ ที่สำคัญไม่ดื่มสุราของมึนเมา และผลจากการปฏิบัติตามหนังสือของหลวงวิจิตรวาทการ ทั้ง3เล่ม ช่วยทำให้ตนเองมีความสะบายใจ ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ปฏิบัติดี คิดเพียงแต่ว่า เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าหรือก่อนจะเข้านอน ให้ระลึกว่าวันนี้จะทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและประเทศชาติมากที่สุดได้อย่างไร และวันนี้ได้ทำดีที่สุดแล้ว ก็รู้สึกดีใจ ภาคภูมิใจ ทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคตองในวันผู้สูงอายุและเทศกาลวันสงกรานต์ซึ่งถือว่าเป็นวันปีใหม่ของคนไทย

อนัญญา อัคชู ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้งอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง พม. กล่าวว่า ทางกรมฯที่ต้องการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดี มีภาวะเศรษฐกิจที่ดี มีสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับความรู้ว่าจะป้องกันอย่างไรไม่ให้ตนเองเจ็บป่วยและเตรียมตัวเพื่อเป็นผู้สูงอายุ ถึง 100 ปีหรือมากกว่าที่ยังคงมีสุขภาพดี 

ขณะที่ คุณหญิงเดือนเพ็ญ  พึ่งพระเกียรติ  คณะกรรมการด้านยุทธศาสตร์ โครงการส่งเสริมและป้องกันคนไทยไม่ให้เจ็บป่วยฉุกเฉิน กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้มีการถ่ายทอดประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้สูงวัย อย่าง ศ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร นพ.บรรลุ ศิริพานิช และนพ.เฉก ธนะศิริ ที่มีอายุเกิน 90 ปีขึ้นไป โดยทั้ง 2 ท่านหลังจากนี้ได้เคยกล่าวว่าจะขอมีอายุยืนถึง 120 ปี ประสบการณ์และข้อมูลที่จะได้รับจากวิทยากรครั้งนี้ จะเป็นแนวทางที่ดีให้กับทั้งผู้ที่ดูแลหรือผู้ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุ เกิดแนวทางให้ผู้สูงอายุได้ปฏิบัติไม่ให้ตนเองเจ็บป่วยฉุกเฉินซึ่งจะสอดคล้องกับบริบทในสังคมไทยที่ในอนาคตจะเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ หากสามารถดูแลตนเองได้ดี เข้าใจวิธีป้องกันลดการเจ็บป่วยฉุกเฉินได้ โดยการปรับลดพฤติกรรมที่เสี่ยงต่างๆ จะช่วยลดการเกิดปัญหาและภาระให้แก่ครอบครัว สังคมและรัฐบาลได้ อีกทั้งจะลดการเข้าโรงพยาบาลแบบฉุกเฉินได้เช่นกัน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net