Skip to main content
sharethis
ในขณะที่เฟสบุ๊คกำลังถูกจับจ้องตรวจสอบจากรัฐสภาสหรัฐฯ ทางการฟิลิปปินส์ซึ่งมีคณะกรรมการด้านสิทธิความเป็นส่วนตัวแห่งชาติ (NPC) ได้ออกจดหมายเปิดผนึกเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2561 ระบุว่าจะขอรับทราบวิธีการที่เฟสบุ๊คเก็บข้อมูลและนำข้อมูลผู้คนไปใช้เช่นกัน โดยอ้างเรื่องความโปร่งใสและความกังวลว่าเป็นไปได้ที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คมากกว่าหนึ่งล้านคนอาจจะถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปแชร์ให้กับบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเคมบริดจ์อนาไลติกาตามที่เป็นข่าวอื้อฉาวในช่วงนี้
 
 
 
14 เม.ย. 2561 ในจดหมายเปิดหนึกของ คณะกรรมการด้านสิทธิความเป็นส่วนตัวแห่งชาติฟิลิปปินส์ (NPC) ระบุให้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟสบุ๊คส่งเอกสารที่เปิดเผยข้อมูลว่ากรณีการขายข้อมูลให้เคมบริดจ์อนาไลติกานั้นส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานในฟิลิปปินส์อย่างไรและเป็นวงกว้างขนาดไหน
 
"พวกเราเขียนจดหมายนี้ด้วยความเป็นห่วงว่าเกี่ยวกับการที่คุณยอมรับว่าเฟสบุ๊คละเลยหน้าที่คุ้มครองผู้มูลของผู้ใช้ ข้อมูลตัวตนของผู้ใช้งานชาวฟิลิปปินส์ 1.18 ล้านคนอาจจะได้รับผลกระทบจากกรณีเคมบริดจ์อนาไลติกาถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกและอาจจะเป็นอาการของปัญหาที่ลึกกว่านี้ เป็นปัญหาที่มีโอกาสสร้างความเสี่ยงให้กับผู้ใช้เฟสบุ๊คชาวฟิลิปปินส์ได้" NPC ระบุในจดหมายเปิดผนึก
 
จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวมีการลงรายชื่อของเรย์มุนด์ ลิโบโร กรรมาธิการของ NPC และไอวี ปัตดู กับลีแอนโดร อากีเร รองกรรมาธิการ NPC โดยพวกเขาต้องการไต่สวนเฟสบุ๊คในครั้งนี้เพื่อที่จะตรวจสอบว่า "มีการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของชาวฟิลิปปินส์และมีความเป็นไปได้ที่จะละเมิดกฎหมายสิทธิความเป็นส่วนตัวของข้อมูลปี 2555 หรือไม่"
 
ทาง NPC ยอมรับว่ามีความเข้าใจเรื่องที่เฟสบุ๊คทำธุรกิจบนพื้นฐานการขายโฆษณาที่ต้องอาศัยข้อมูลของผู้ใช้งานในการตอบสนองด้านเนื้อหา แต่พวกเขาก็อ้างถึงความโปร่งใสในการใช้ข้อมูลของผู้คน โดยระบุในจดหมายว่า "เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะรับรู้ว่ามีการนำข้อมูลของพวกเขาไปใช้ประมวลผลอย่างไรบ้าง"
 
NPC ระบุอีกว่าเฟสบุ๊คมีเวลาภายใน 15 วันในการตอบกลับหลังจากได้รับจดหมายเปิดผนึก มิเช่นนั้นทาง NPC จะมีมาตรการบางอย่างในการ "ปกป้องผลประโยชน์ด้านข้อมูลของชาวฟิลิปปินส์"
 
กรณีล่าสุดที่ทำให้เฟสบุ๊คต้องให้การกับสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เป็นเวลา 2 วัน คือข้อกล่าวหาเรื่องการขายข้อมูลผู้ใช้ที่เก็บจากแอพพลิเคชั่นควิซของเฟสบุ๊คส่งให้กับเคมบริดจ์อนาไลติกาเพื่อวิเคราะห์บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยมีเป้าหมายในการนำเสนอเนื้อหาที่พวกเขาประเมินว่าจะส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ปัญหาคือเคมบริดจ์อนาไลติกาเป็นบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าทำงานช่วยเหลือการหาเสียงเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการให้การของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟสบุ๊คเขาขอโทษในเรื่องที่คุ้มครองข้อมูลไม่ดีพอแต่ก็กล่าวปกป้องโมเดลทางธุรกิจของตัวเอง
 
 
เรียบเรียงจาก
 
PH privacy commission to probe Facebook after data scandal, Rappler, 14-04-2017
 
จดหมายเปิดผนึกของคณะกรรมการด้านสิทธิความเป็นส่วนตัวแห่งชาติฟิลิปปินส์ (NPC), 13-04-2017

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net