‘รังสิมันต์ โรม’ ยื่นศาล รธน. วินิจฉัยประกาศคณะปฏิวัติปี 49 ขัดรัฐธรรมนูญ

‘โรม’ ยื่นศาล รธน. วินิจฉัยประกาศคณะปฏิวัติปี 49 ขัดรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องขอฝากขัง คดีชุมนุมหน้า ทบ. ขับไล่ คสช. เหตุ พนง.สอบสวนยื่นหลังเวลาทำการของศาล นัดใหม่พรุ่งนี้ ด้าน คสช.สั่งจับตา มือที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวาย 

การชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง (แฟ้มภาพ)

30 เม.ย.2561 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลแขวงปทุมวันนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีที่ รังสิมันต์ โรม สมาชิกกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) และกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ถูกฟ้องข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปก.) ฉบับที่ 25 เรื่อง การดําเนินการเกี่ยวกับการยุติธรรมทางอาญา จากการไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนในคดีคนอยากเลือกตั้งบริเวณสกายวอล์กห้างเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ หรือคดี MBK39 โดยในนัดนี้ รังสิมันต์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงปทุมวันขอให้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยว่า ประกาศ คปก. ฉบับที่ 25 ไม่มีสถานะเป็นกฎหมาย และขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 3, มาตรา 26, มาตรา 28, และมาตรา 29 หรือไม่

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานถึงคำร้องดังกล่าว ระบุว่า ประกาศ คปก. ฉบับที่ 25 ไม่มีสถานะเป็นกฎหมายและใช้บังคับไม่ได้อีก เนื่องจากประกาศของคณะรัฐประหารที่ออกมาในช่วงสภาวการณ์ไร้กฎหมาย จะมีผลบังคับใช้ต่อไปได้ก็ต่อเมื่อรัฐธรรมนูญเขียนรับรองไว้ ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เขียนรับรองให้ประกาศ คปก. มีผลบังคับใช้ แต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ไม่ได้รับรองประกาศ คปก. ให้ชอบด้วยกฎหมายและมีผลบังคับใช้อีกต่อไป

และแม้ ประกาศ คปก. ฉบับที่ 25 จะมีสถานะเป็นกฎหมายก็ยังขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560 เนื่องจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นคณะบุคคลที่ได้อำนาจในการปกครองประเทศโดยการใช้กองกำลังทหารและอาวุธสงครามเข้ายึดอำนาจการปกครองแผ่นดินหรือทำรัฐประหาร ซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ ขัดต่อมาตรา 3 ในรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า “อํานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อํานาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ…”

นอกจากนี้ รังสิมันต์ ยังระบุในคำร้องอีกว่า ประกาศ คปก. ฉบับที่ 25 ยังขัดต่อรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560 มาตรา 26, มาตรา 28, และมาตรา 29 การที่พนักงานสอบสวนจะบังคับให้บุคคลต้องพิมพ์ลายนิ้วมือของตนให้กับพนักงานสอบสวนเพียงเพราะถูกกล่าวหาในคดีอาญา ซึ่งพนักงานอัยการก็ยังไม่มีคำสั่งฟ้องคดี และศาลก็ยังไม่ได้พิพากษาลงโทษ ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา และย่อมถือได้ว่าเป็นการบังคับให้บุคคลให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง เพราะว่าการมอบหลักฐานส่วนตนไม่ว่าจะเป็นคำให้การ พยานวัตถุ หรือพยานเอกสาร อันรวมทั้งลายพิมพ์นิ้วมือของตนให้แก่พนักงานสอบสวนนั้นย่อมถือเป็นการให้การของผู้ถูกกล่าวหา ดังนั้น หากผู้ถูกกล่าวหาไม่ยินยอมให้การหรือมอบพยานหลักฐานดังกล่าวกับพนักงานสอบสวน ย่อมถือเป็นสิทธิเด็ดขาดของผู้ถูกกล่าวหา การออกกฎหมายบังคับให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องมอบลายพิมพ์นิ้วมือของตนให้กับพนักงานสอบสวนตามประกาศดังกล่าวจึงเป็นการบังคับให้บุคคลต้องให้การอันเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง

อย่างไรตาม ศาลแขวงปทุมมีคำสั่งให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่ว่า ประกาศ คปก. ฉบับที่ 25 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560 หรือไม่ แต่ไม่ส่งในประเด็นโต้แย้งที่ว่า ประกาศ คปก. ฉบับที่ 25 ไม่มีสถานะเป็นกฎหมายและไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากศาลแขวงปทุมวันเห็นว่า การยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต้องเป็นกรณีที่ศาลหรือคู่ความโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่ได้หมายความรวมถึงสภาพการบังคับใช้กฎหมายด้วย ทั้งนี้ ทนายความแถลงต่อศาลว่าต้องการคัดค้านคำสั่งศาลที่ไม่ส่งประเด็นโต้แย้งเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของประกาศ คปก. ฉบับที่ 25 ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ศาลแขวงปทุมวันให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อรอฟังผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 31 ก.ค. 2561 เวลา 09.00 น.

ยกคำร้องขอฝากขัง คดีชุมนุมหน้า ทบ. ขับไล่ คสช.

วันเดียวกัน เฟสบุ๊คแฟนเพจ 'Banrasdr Photo' รายงานด้วยว่า ศาลอาญา ยกคำร้องฝากขัง  4 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง หลังตำรวจ สน.ชนะสงคราม ยื่นคำร้องขอฝากขังทั้ง 4 ในความผิดมาตรา 116, ขัดคำสั่ง คสช. พ.ร.บ.ชุมนุม จากกรณีเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ไปกองทัพบก เพื่อเรียกร้องการเลือกตั้งและ ขับไล่ คสช. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา
 
อย่างไรก็ตาม ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอฝากขัง เนื่องจากการยื่นคำร้องของพนักงานสอบสวนนั้นยื่นหลังเวลาทำการของศาล ทางด้านพนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องใหม่ในวันพรุ่งนี้ในเวลา 13.00 น.
 

คสช.สั่งจับตา มือที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวาย 

ด้าน คสช. โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงคนอยากเลือกตั้งจะมีการเคลื่อนไหวในวันที่ 5 พ.ค.นี้ ว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกฐานะเลขาธิการ คสช. ได้ให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและทำความเข้าใจกับประชาชนว่า บ้านเมืองกำลังปกติสุข ซึ่งการสนับสนุนงานรัฐบาลของ คสช.คือให้รัฐบาลบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีอุปสรรค ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมพ การเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้น แต่ต้องเป็นไปตามกรอบกฏหมายที่วางไว้ ส่วนมาตรการดูแลผู้ชุมนุมนั้นมีหลายมาตรการ ทั้งมาตรการด้านการข่าว มาตรการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน การทำความเข้าใจกับผู้ที่ออกมาชุมนุม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่จุดที่มีการชุมนุม จะต้องดูเรื่องการจราจร การอำนวยความสะดวกให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น ไม่ให้มีภาพการกระทบกระทั่ง หรือยื้อยุดฉุดกระชากลากดึงกันไปมา ไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น และดูแลติดตามบุคคลที่สามที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวาย
 
เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะยกระดับการชุมนุมขึ้นเรื่อยๆเจ้าหน้าที่จะยกระดับการดูแลด้วยหรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ว่าเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย การจะยกระดับจะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ แต่หากยังมีคนที่คิดจะทำกิจกรรมอยู่ ก็ต้องทำความเข้าใจในฐานะคนไทยด้วยกัน โดยเน้นการพูดคุยซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด 
 
เมื่อถามว่าจะเชิญแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมมาพูดคุยทำความเข้าใจหรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ไม่มีการเชิญมาพูดคุย ทั้งนี้ส่วนตัวขอความร่วมมือว่า บ้านเมืองกำลังเดินไปด้วยดี อะไรที่เป็นปัญหาควรมานั่งคุยกันน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด
 
เมื่อถามว่าเลขาธิการ คสช.ห่วงเรื่องมือที่สามและมีรายงานข่าวมีหรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นหลักสำคัญ สำหรับมือที่สามที่อาจจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มบุคคลหรือคนที่อาจจะมีรายชื่อ ที่เคยก่อเหตุหรือสร้างสถานการณ์ จะดูว่ามีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือไม่
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท