Skip to main content
sharethis

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่สุรินทร์-บุรีรัมย์ ท่ามกลางกระแสข่าวดูดนักการเมือง "เนวิน ชิดชอบ" เปิดสนามช้าง อารีน่าเชียร์ "ลุงตู่สู้ๆ" แต่ปฏิเสธไม่มีวาระการเมือง ส่วนอนุทินบอกคนมาเยอะเพราะบุรีรัมย์ต้องไม่ธรรมดา ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยากผลักดันบุรีรัมย์เป็นเมืองกีฬา มีมหาวิทยาลัยการกีฬาและศูนย์การแพทย์

คลิปประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ และสนามช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ (ที่มา: NBT/ทำเนียบรัฐบาล)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบปะประชาชนที่สนามช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ (ที่มา: เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

จากซ้ายไปขวา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, เนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล

เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก สนามที่ 15 รายการ PTT Thailand Grand Prix ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หรือ บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต  (ที่มา: เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

7 พ.ค. 2561 ภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในการตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรระหว่าง 7-8 พ.ค. ที่ จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภารกิจช่วงเช้านายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง หมู่ 1 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์

ส่วนไฮไลท์อยู่ที่เวลา 15.30 น. ที่สนามช้าง อารีน่า อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ พบปะประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ประมาณ 30,000 คน โดยมีนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่นให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ก่อนการพบปะประชาชน นายกรัฐมนตรีเป็นสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พร้อมมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน ตามนโยบายที่ให้ชุมชนร่วมกับภาคภาครัฐบริหารจัดการดูแล เพื่อให้ป่าเกิดความยั่งยืน ให้แก่ ผู้แทนจังหวัดบุรีรัมย์  จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดชัยภูมิ

สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นจังหวัดศูนย์กลางการท่องเที่ยวอารยธรรมขอม และกีฬามาตรฐานโลก มีสนามฟุตบอล และสนามแข่งรถที่ได้มาตรฐานโลก ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก (MOTO GP) ติดต่อกัน 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2561 - 2563 โดยจังหวัดมีนโยบายส่งเสริมให้เป็นเมืองกีฬา และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา รวมถึงส่งเสริมให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ เพื่อการเติบโตอย่างมีทิศทางรองรับด้านกีฬา

เมื่อนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางมาถึงสนามช้าง ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ต่างพากันปรบมือต้อนรับ พร้อมเปล่งเสียงเรียก “ลุงตู่” ดังกึกก้องไปทั่วสนาม โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายประชาชน พร้อมทำมือสัญลักษณ์ I Love You สร้างความประทับใจให้กับชาวบุรีรัมย์ที่มาให้การต้อนรับภายในสนามเป็นอย่างมาก

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ตอนหนึ่งความว่า จังหวัดบุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม เป็นจังหวัดที่มีความสงบสุข อยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคี ไม่มีการทะเลาะ และแบ่งแยกสี เป็นตัวอย่างที่ดีของประชาชนที่รักใคร่กัน โดยขอให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศแบบนี้ตลอดไป

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเมื่อย้อนกลับมาดูรายได้ต่อหัวของประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์พบว่าค่อนข้างต่ำ เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ประชาชนต้องเรียนรู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะการทำเกษตรต้องคำนึงถึงหลักการตลาดนำการผลิต มีการปลูกพืชแบบผสมผสาน พร้อมกับใช้เทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการตลาด ทำการค้าขายแบบออนไลน์ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อย้อนไปอดีตที่ผ่านมา ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และทางด้านการกีฬา จึงขอให้ชาวบุรีรัมย์ร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองให้น่าอยู่ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับแขกต่างบ้าน และชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาจังหวัดบุรีรัมย์ในโอกาสต่าง ๆ พร้อมกับหวังยกระดับพัฒนาให้จังหวัดบุรีรัมย์เป็นเมืองกีฬาหรือสปอร์ตซิตี้ และจัดตั้งมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ รวมถึงการสร้างศูนย์ทางการแพทย์

ในส่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และประเทศชาติให้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยต้องสร้างความเข้มแข็งภายในให้กับคนในพื้นที่ก่อน จึงค่อยพัฒนาเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาค และประเทศต่อไป

ตอนหนึ่งในระหว่างต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ท่านผูกเสี่ยวผมมาถึงคอแล้ว ถือว่าเป็นเพื่อนและครอบครัวเดียวกัน นอกจากนี้พูดด้วยว่า "บ้านเมืองจะอยู่ได้เพราะคนไทยทั้งประเทศ ใครจะอยู่ต่างประเทศก็ให้อยู่ไป

อนึ่งรายงานในข่าวสดออนไลน์ ระบุว่า เนวิน ชิดชอบ ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่องการเมือง ระบุว่า " วันนี้ไม่มีวาระเรื่องการเมือง มีแต่วาระประชาชน" ส่วนอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าคนมาเยอะไม่ได้เป็นการเกณฑ์ แต่เป็นการประชาสัมพันธ์ ที่มาเยอะเพราะ จ.บุรีรัมย์ ต้องไม่ธรรมดา คณะรัฐมนตรีเดินทางมาถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่ต้องให้การต้อนรับ และไม่ว่าจะเป็นใครมาก็ต้องต้อนรับตามความเหมาะสม ส่วนตัวเขามาร่วมวันนี้ไม่มีเรื่องการเมือง แต่มาอำนวยความสะดวกในฐานะคนที่อยู่ในพื้นที่นี้ และยังไม่ได้พูดคุยหรือพบเจอใครทั้งสิ้น แม้แต่นายกฯ

เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลรายงานด้วยว่า จากนั้นเวลา 16.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก สนามที่ 15 รายการ PTT Thailand Grand Prix ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หรือ บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมีนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ให้การต้อนรับ และนำเสนอการเตรียมพร้อมของจังหวัดบุรีรัมย์ในทุกด้าน โดยได้เยี่ยมชมห้องควบคุมการแข่งขัน หรือเรซคอนโทรลที่ทันสมัยที่สุดในโลก รวมถึงส่วนต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการจัดการแข่งขัน

พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความพึงพอใจในศักยภาพและการเตรียมความพร้อมที่มีมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นการสร้างชื่อเสียงและเม็ดเงินเข้าประเทศ นอกจากนี้ ยังช่วยกระจายรายได้ให้ประชาชน จากการนำนักท่องเที่ยวมาสู่ประเทศไทย และยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้คนทั่วโลกได้เห็นศักยภาพและความพร้อมในการเป็นเมืองท่องเที่ยวด้านกีฬาอีกด้วย

อนึ่งเนวิน ได้มอบหมวกกันน็อกลายไทยให้กับ พล.อ. ประยุทธ์ ด้วย โดยอวยพรว่า “ขอให้ท่านนายกฯ ปลอดภัยจากสื่อและนักการเมือง สำหรับหมวกของผมไม่แข็งแรงเท่านี้เพราะไม่ต้องไปยุ่งกับสื่อและนักการเมือง"

นอกจากนี้่ช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปเยี่ยมชมถนนคนเดินเซาะกราว เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ (Sroew Ground Walking Street) ถนนสายวัฒนธรรมที่ได้รับรางวัลการบริหารจัดการชุมชนและสิ่งแวดล้อมด้วย

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net