Skip to main content
sharethis
รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เผยไม่มีกฎหมายควบคุม 'ชาเขียว-น้ำอัดลม' ห้ามทำการตลาดชิงโชค มีแต่ประกาศคุม 'เครื่องดื่มกาเฟอีน' ที่ห้ามโฆษณาชักจูงโน้มน้าวให้บริโภค 
 
 
MGR Online รายงานเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมาว่า นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงการควบคุมการชิงโชคเครื่องดื่มประเภทชาเขียว หรือน้ำอัดลม ว่าตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 แล้ว เราไม่มีการควบคุมเรื่องของการชิงโชค แต่จะเป็น พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ที่ต้องยื่นขออนุญาตกับกระทรวงมหาดไทย และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ที่กำกับดูแล ส่วนของ อย.จะมีเพียงประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องหลักเกณฑ์การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน พ.ศ. 2555 เท่านั้น ซึ่งห้ามเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น ห้ามโฆษณาโน้มน้าวชักจูงให้บริโภค
 
นพ.พูลลาภกล่าวว่า ประกาศดังกล่าวกำหนดว่า การโฆษณาดังต่อไปนี้ถือว่าเข้าข่ายเชิญชวนให้บริโภคหรืออวดอ้างสรรพคุณของเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน โดยทางตรงหรือทางอ้อม คือ 1. โฆษณาทำให้เกิดทัศนคติว่า การดื่มเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนจะทำให้เพิ่มกำลังงาน มีพลังทำงานได้มากขึ้นโดยไม่รู้จักเหนื่อย ตื่นทันที ไม่ง่วงนอน ตื่นอยู่ตลอดเวลา หรือทำให้ประสบความสำเร็จทางสังคมและทางเพศ 2. โฆษณาที่ใช้นักกีฬา ผู้ใช้แรงงาน เป็นผู้แสดงแบบโฆษณา 3. โฆษณาที่ใช้ดารา นักร้อง นักแสดง ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นผู้แสดงแบบโษณา และ 4. โฆษณาที่ชักจูงหรือโน้มน้าวให้ซื้อหรือบริโภค เพื่อนำรายได้ไปบริจาคเป็นสาธารณกุศล ทั้งนี้ การโฆษณาต้องแสดงคำเตือน คือ ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 ขวด เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม หากผิดจากนี้จะมีโทษตามมาตรา 40 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
“ส่วนชาเขียว และน้ำอัดลม แม้บางส่วนจะมีกาเฟอีน แต่ก็เป็นส่วนผสมที่น้อยมาก และไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องดื่มประเภทกาเฟอีน จึงไม่เข้าเกณฑ์ของประกาศดังกล่าว หากจะควบคุมเรื่องของการชิงโชค ควรเป็นเรื่องของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือมหาดไทยมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ต้องควบคุมเรื่องของกาเฟอีนเพราะมีเครื่องดื่มผสมกาเฟอีนออกมามากขึ้น มีการผสมกาเฟอีนที่มากไปกว่าปกติ และโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการดื่ม จึงมีการควบคุมให้เครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนซึ่งจำหน่ายมีส่วนผสมปริมาณไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อหน่วยบรรจุ และคุมเรื่องของการโฆษณา ดื่มได้ไม่เกินวันละเท่าไร ต้องมีการออกคำเตือนให้ชัดเจน แต่ชาเขียว น้ำอัดลม มีกาเฟอีนโดยธรรมชาติ ไม่ได้เป็นการเติมเข้าไป” นพ.พูลลาภกล่าว
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการควบคุมโฆษณาน้ำอัดลม หรือชาเขียว แบบเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เพราะมีปริมาณน้ำตาลมาก ส่งผลต่อสุขภาพเช่นกัน นพ.พูลลาภกล่าวว่า ตอนนี้ พ.ร.บ.อาหาร ไม่มีกฎหมายที่เขียนไว้ หากจะควบคุมก็ต้องผ่านคณะกรรมการอาหารในการพิจารณา ซึ่งก็ต้องพิจารณาว่าสถานการณ์มีมากน้อยแค่ไหน จำเป็นที่ต้องมีการควบคุมการโฆษณาหรือไม่ แต่เราพยายามเน้นในเชิงบวกมากกว่า ในการให้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มมีน้ำตาลน้อยลง ซึ่ง อย.จะโปรโมตในเรื่องเหล่านี้มากกว่า ให้เขาผลิตเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อยๆ ออกมาจำนวนมากจะดีกว่า ซึ่งก็ยอมรับว่ามีเยอะขึ้น โดยขณะนี้ก็มีเครื่องดื่มที่มาขอและได้สัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)” ซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์ โดยมีส่วนผสมของน้ำตาลน้อยกว่า 6 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร หรือ 6% ก็มีมากกว่า 400 ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแล้ว และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างชาเขียวก็มีจำนวนมากที่ได้ฉลากทางเลือกสุขภาพ
 
“ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการเครื่องดื่มที่มาขอสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพนั้น จะยื่นปริมาณรวมของเครื่องดื่มอยู่ที่ประมาณ 300 มิลลิลิตร ซึ่งเมื่อน้ำตาลน้อยกว่า 6% ก็ส่งผลให้การดื่มเครื่องดื่มนั้นได้รับน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ถือเป็นการส่งเสริมการบริโภคเพื่อสุขภาพ” นพ.พูลลาภกล่าว
 
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุขกล่าวว่า ในช่วงราวปี 2546 ที่ อย.มีการออกประกาศควบคุมไม่ให้เครื่องดื่มชูกำลังมีการชิงโชค แจกของรางวัลต่างๆ เป็นการขอความร่วมมือและออกประกาศโดยที่ อย.ไม่มีฐานอำนาจ ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่า อย.ก็ไม่มีอำนาจที่จะไปควบคุมเรื่องของการชิงโชค ส่วนที่ว่าการโฆษณาชิงโชคเข้าข่ายเป็นการโฆษณาโน้มน้าวชักจูงตามประกาศ อย.หลักเกณฑ์การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน พ.ศ. 2555 ที่ควบคุมเรื่องกาเฟอีนหรือไม่นั้น ก็เคยมีการตีความแล้วว่าค่อนข้างก้ำกึ่งและไม่ได้อยู่ในฐานอำนาจของ อย. จึงทำให้ปัจจุบันยังคงมีการโฆษณาชิงโชคกันได้ เพราะผู้ที่อนุมัติเป็นส่วนของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net