Skip to main content
sharethis
ตำรวจนำ พริษฐ์ และธนวัฒน์ ไป สน.ปทุมวัน ลงบันทึกประจำวัน หลังยืนกินมาม่าซ้อมอดอยากรอเลือกตั้ง ที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน เจ้าตัวโพสต์การยืนกินมาม่าไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ แต่ว่าคณะรัฐประหารจะมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในเก้าอี้ของพวกท่านเอง
 
ภาพซ้าย ตำรวจนำ พริษฐ์ และธนวัฒน์ ไป สน.ปทุมวัน ลงบันทึกประจำวัน (ที่มาภาพ เฟสบุ๊ค Parit Chiwarak), ภาพขวา ขณะจัดกิจกรรม ที่สกายวอร์คแยกปทุมวัน (ที่มาภาพ เพจ Banrasdr Photo)
 
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 พ.ค.61) ที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ธนวัฒน์ วงค์ไชย ประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยประชาชน  และแนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ทำกิจกรรม 'ซ้อมอดอยากรอเลือกตั้ง' เพื่อสื่อถึงการปรับตัวตามสถานการณ์เศรษฐกิจเพราะไม่รู้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไร หลังจากจบกิจกรรมแล้ว ตำรวจ สน.ปทุมวันได้เชิญตัวพริษฐ์และธนวัฒน์มาที่ สน.ปทุมวัน โดยทางตำรวจแจ้งว่าให้มาเพื่อสอบถามถึงความหมายของกิจกรรมพร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้
 
พริษฐ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนัดมาสอบถามรายละเอียดเพื่อลงบันทึกประจำวัน จึงให้ลงไปว่า "มายืนกินมาม่าสองคน" จะโดนฟ้องหรือไม่รอรับชมตอนต่อไป
 
ขณะที่ ธนวัฒน์ โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ค 'Tanawat Wongchai' ว่า การยืนกินมาม่าของเราในวันนี้ เป็นการยืนกินมาม่าโดยบริสุทธิ์ใจ เพื่อฝึกซ้อมความอดอยากระหว่างรอการเลือกตั้ง หากเรายังคงอยู่ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลทหารที่บริหารเศรษฐกิจของเราอย่างล้มเหลวต่อไปเรื่อยๆ และการเลือกตั้งก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกกำหนดเสียทีเช่นนี้ ทางออกเดียวของเรา คือ ต้องมีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นคือ เราต้องมีการเลือกตั้งภายในปีนี้
 
เศรษฐกิจของประเทศไทยดูเหมือนว่าจะเติบโตไปได้ดีที่ระดับ 3-4% แต่นั่นก็เป็นระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านของเราที่เติบโตในระดับ 5-8% อีกทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของเรานั้น กระจุกผลประโยชน์ให้กับคนรวย ชนชั้นนำ และภาคธุรกิจรายใหญ่แต่เพียงเท่านั้น หากแต่การเติบโตนั้นไม่ได้กระจายไปสู่คนส่วนใหญ่ของประเทศ ดังเห็นได้จากความเหลื่อมล้ำของไทยที่เหลื่อมล้ำสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากรัสเซียและอินเดีย นอกจากนี้ ยังมีระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น การขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จาก 2.5 แสนล้านบาทในปี พ.ศ.2557 สู่ 5.5 แสนล้านบาทในปี พ.ศ.2560 และยังมีปัญหาเชิงตัวเลขทางเศรษฐกิจอีกมากมายที่รัฐบาลไม่เคยพูดถึง
 
"เราขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าเรามาเพื่อยืนกินมาม่าเฉยๆ ครับ นี่ไม่ใช่กิจกรรมทางการเมือง นี่ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง และการยืนกินมาม่าไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด เว้นเสียแต่ว่าคณะรัฐประหารจะมองว่าการยืนกินมาม่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในเก้าอี้ของพวกท่านเอง" ธนวัฒน์ โพสต์
 
ธนวัฒน์ ระบุว่า ทางตำรวจ สน.ปทุมวัน แจ้งว่าในวันนี้จะไม่มีการตั้งข้อหากับพวกเราทั้ง 2 คน แต่อย่างใด แต่หากฝ่ายกฎหมายของ คสช. และทาง สน. พบว่าการกระทำของเรา “เข้าข่าย” มีความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ หรือขัดต่อคำสั่งของหัวหน้า คสช. ก็จะแจ้งความดำเนินคดี ในภายหลัง
 
"สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว นั่นคือ การกินมาม่าได้กลายเป็นภัยต่อความมั่นคงของคณะรัฐประหารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" ธนวัฒน์ โพสต์ทิ้งท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net