Skip to main content
sharethis

ตามนโยบายรัฐบาลและการปฏิบัติการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาลและเศรษฐกิจของประเทศ กรณีมีการโพสต์บทความลงในอินเตอร์เน็ต พาดหัวข่าวว่า “บิ๊กตู่” ฟิวขาด ด่ากราดปปช. ไล่ให้เติม “น้ำเปล่า” แทนดีเซล อย่าโง่ วอนประชาชนอย่าเรื่องมาก” ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ นายรัตนะ เฮง (Mr.Ratanak Heng) สัญชาติกัมพูชา ในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” อันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชาวไทยจำนวน 6 ราย ซึ่งเป็นผู้แชร์ต่อข้อมูลข่าวอันเป็นเท็จดังกล่าว

ต่อมา 31 พ.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. หัวหน้าชุดปฏิบัติการพร้อมด้วยพร้อมทีมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อเข้าพบ นาย เซา ซก คา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการหน่วยรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนของกัมพูชา เพื่อร่วมหารือแนวทางการทำงาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้เชิญตัวนายรัตนะ เฮง มาพูดคุย และทำความเข้าใจ โดยนายรัตนะ เฮง ยินยอมเดินทางพร้อมกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ไปยังประเทศไทยเพื่อเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ปอท. ต่อไป

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านายรัตนะ จบการศึกษาด้านไอที และทำงานด้านการค้าอัญมณี รวมถึงบิทคอยด์ ซึ่งเป็นสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยพบว่าได้มีการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับรัฐบาลไทย และนายกรัฐมนตรี ถึงสามครั้ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนว่านายรัตนะ เฮงมีส่วนพัวพันกับการยุยงปลุกปั่นให้เกิดปัญหาความมั่นคงในประเทศไทยหรือไม่ และมีใครอยู่เบื้องหลังในการจ้างวานให้โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่

 

 

ที่มา: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net