Skip to main content
sharethis

เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เผยเข็มมุ่ง "รวมพลังประชาชาติไทย" จะปฏิรูป ไม่ปฏิวัติ ไม่โค่นล้มอะไร ไม่มีความชิงชังอะไรทั้งสิ้น "มีแต่จะทำการเมืองแห่งความรู้รักสามัคคี" จะเป็นพรรคของพลเมืองผู้เป็นพสกนิกรที่รักภักดีและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะต้องปกป้องสิ่งที่ดีงามทั้งหมดที่บรรพชนไทยได้ทำเอาไว้

ส่วนหนึ่งของการปราศรัยโดย "เอนก เหล่าธรรมทัศน์" (ที่มา: FacebookLive พรรครวมพลังประชาชาติไทย)

ในการประชุมผู้ก่อตั้งพรรคและผู้สนับสนุนพรรค "รวมพลังประชาชาติไทย" เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่ศาลาดนตรีสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต ตอนหนึ่ง ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ หนึ่งในแกนนำผู้ก่อตั้งพรรค ได้กล่าวถึงอุดมการณ์และเหตุผลที่มีการจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยว่า ในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยมีพรรคการเมืองสามรูปแบบ คือ พรรคการเมืองทหาร พรรคการเมืองนายทุน และพรรคที่นักการเมืองอยากเล่นการเมือง โดยพรรคทั้งสามแบบเป็นแบบสั่งการโดยเจ้าของพรรค

"การมาทำพรรคการเมืองครั้งนี้เราอยากเห็นพรรคที่ทุกคนมีความหมาย ตัวเองขอยืนยันว่าการมาทำพรรคครั้งนี้ ไม่ได้อยากเป็นหัวหน้าพรรค และไม่ได้อยากเป็นรัฐมนตรี แต่สิ่งที่ตัวเองเข้ามาเพราะได้ไปพบกับผู้ร่วมก่อตั้งพรรคที่เคยต่อสู้ทางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2516 2519 2535 และ 2548 เห็นตรงกันว่าคนไทยต้องการประชาธิปไตยแบบธรรมาธิปไตย ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบแสวงหาอำนาจหรือฉ้อฉล เรากำลังทำการเมืองใหม่ รูปแบบใหม่ เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน"

"ผมไม่ใช่ กปปส.หรือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยอมรับว่ามีลูกศิษย์กังวลว่าการที่ผมมายุ่งเกี่ยวการเมือง จะทำให้ชื่อเสียงมัวหมอง ไม่เป็นที่รักของคนทุกกลุ่มอีกต่อไป ซึ่งก็ขอยืนยันว่าจะทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ พรรคต้องเป็นของประชาชน และประชาธิปไตยต้องเริ่มจากในพรรค"

"เราจะทำการเมืองแบบรู้รักสามัคคี เพื่อให้แผ่นดินไทย สงบ สันติและก้าวต่อไปข้างหน้า แผ่นดินนี้มีปัญหามากมายและยุ่งเหยิง เราจึงต้องมาร่วมกันแก้ไข"

เขาย้ำด้วยว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย จะเป็นพรรคของประชาชาติไทยจริงๆ จะมีบุคคลที่ไม่เป็นที่รู้จักแต่มีหัวใจเพื่อบ้านเมือง รวมทั้งคนชายขอบ มาอยู่ในตำแหน่งปาร์ตี้ลิสต์ลำดับต้นๆ และจะมีความเท่าเทียมระหว่างชายหญิง พร้อมย้ำว่าไม่กลัวแพ้ การทำการเมืองครั้งนี้ไม่มีแพ้ เพราะการทำการเมืองเที่ยวนี้เป็นการทำเพื่อแผ่นดิน ทำเพื่อบ้านเมือง ทำเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดินไทยนี้

"เราจะปฏิรูป เราจะไม่ปฏิวัติ เราจะไม่โค่นล้มอะไร เราไม่มีความชิงชังอะไรทั้งสิ้น เรามีแต่จะทำการเมืองแห่งความรู้รักสามัคคี" เอนกกล่าวตอนหนึ่ง

เขากล่าวต่อไปว่า "เราเชื่อว่าแผ่นดินไทยต้องสงบ สันติ และจะต้องก้าวไปข้างหน้า และจะต้องมีอนาคตสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป ผมทำการเมืองเที่ยวนี้ผมทำเพื่อลูกเพื่อหลาน อายุผมก็อยู่ในวัยที่เป็นผู้ใหญ่ ผมไม่ได้คิดแต่ในวัยผม ไม่ได้คิดแต่คนรุ่นผม ผมคิดถึงคนรุ่นก่อน ผมคิดถึงบรรพชน ขณะเดียวกันผมก็คิดถึงลูกหลาน และลูกของลูกหลานที่จะเกิดมาอีก แผ่นดินนี้มีปัญหามากมาย เราต้องเข้ามาแก้ไข บ้านเมืองนี้ยุ่งเหยิง เราต้องเข้ามาแก้ไข บ้านเมืองนี้เต็มไปด้วยปัญหา เรามีความรู้ต้องเอามาใช้ ความรู้ที่ดีที่สุดก็คือความรู้ที่ใช้แก้ปัญหา สร้างโอกาส หาโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศ"

โดยตอนท้ายเขากล่าวเชิญชวนประชาชนมาร่วมกับพรรคที่เขาก่อตั้งว่า "ผมมีความมั่นใจกับพรรคนี้ ผมขอเชิญชวนพวกเราให้มาร่วมกับพรรคนี้ เรายังต้องการผู้ก่อตั้งพรรค เรายังต้องการผู้แสดงเจตจำนง ที่จะมาช่วยกันสร้างพรรคนี้ขึ้นมา เราต้องการสมาชิกอีกมากมาย แล้วภายใน 3 เดือนข้างหน้า เราจะเคลื่อนไปทั่วประเทศ เราจะไปเตือนประชาชน อันมากมายมหาศาลให้รำลึกถึงคืนวันที่ผ่านไปไม่นานนี้ ที่พวกเราออกมากันเต็มถนน ที่พวกเราไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น พวกเรายอมตาย ยอมเจ็บ ยอมติดคุก และกำลังจะติดคุก ซึ่งขอให้ไม่ติดนะครับ (เสียงปรบมือ) แต่นั่นแหละครับ คือตัวอย่างของพวกเรา"

"แต่วันนี้นะครับ พวกเรามาช่วยกันทำพรรครวมพลังประชาชาติไทย อนาคตอยู่กับเรา บ้านเมืองเป็นของเรา เราต้องก้าวเข้ามาข้างหน้า ร่วมกันนำพาประเทศ เราจะไม่เป็นลูกน้องใครทั้งสิ้น เราจะเป็นพลเมือง เราจะเป็นพรรคของพลเมือง แต่พลเมืองนี้จะต้องเป็นพสกนิกรที่รักภักดีและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะต้องปกป้องสิ่งที่ดีงามทั้งหมดที่บรรพชนไทยได้ทำเอาไว้ อย่าให้ใครมากวาดมันทิ้ง ข้ามศพพวกเราไป ข้ามศพพวกเราไป"

"ผมมีแค่นี้แหละครับ ออกมาจากหัวใจ ที่เตรียมไว้ไม่ได้พูดตามที่เตรียมเลย" เอนกกล่าวในที่สุด

วินาทีร่ำไห้ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ประชุมพรรครวมพลังประชาชาติไทย

สุเทพ-เอนก เปิดตัวพรรค ‘รวมพลังประชาชาติไทย’ ชูธรรมาธิปไตย ไม่แก้ รธน.

จากสองนคราประชาธิปไตย ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง
ถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย

สำหรับเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้เป็นแกนนำสำคัญของพรรค "รวมพลังประชาชาติไทย" นั้นเป็นผู้เขียนหนังสือที่สำคัญคือ "สองนคราประชาธิปไตย" เจ้าของทฤษฎีคนชนบทตั้งรัฐบาล คนกรุงเทพฯ ไล่รัฐบาล ปัจจุบันเป็นคณบดีวิทยาลัยบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต

เขาเกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม ปี 2497 ที่ จ.ลำปาง เคยเรียนคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และร่วมก่อตั้งพรรคจุฬาประชาชน ในปี 2519 เคยเป็นนายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนลี้ภัยไปอยู่ในเขตป่าภาคใต้หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หลังจากนั้นเขาเปลี่ยนมาศึกษาด้านรัฐศาสตร์ ที่สหรัฐอเมริกา เคยเป็นอดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บนเส้นทางการเมืองเขาเคยร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ จนเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาได้ลาออกมาร่วมงานกับ "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ตั้งพรรคมหาชนซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากพรรคราษฎร และลงเลือกตั้งทั่วไปในปี 2548 โดยเอนกเป็นหัวหน้าพรรคมหาชน แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตเพียง 2 ที่นั่ง ส่วนเอนกและ พล.ต.สนั่น สอบตกไม่ได้ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ

โดยในสมัยนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สมญานามไว้ด้วย โดยเรียกเอนกว่า "ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง"

ในช่วงรัฐบาล คสช. เขาเป็นอดีตที่ปรึกษาและกรรมการคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) อดีตประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง อดีตประธานคณะกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ

ด้านชีวิตครอบครัว เขาสมรสกับ รศ.พญ.จิรพร เหล่าธรรมทัศน์ เป็น หัวหน้าศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ มีบุตรทั้งสิ้น 4 คน คือ อิศรา เหล่าธรรมทัศน์, เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์, อินทิรา เหล่าธรรมทัศน์ และเขมรัฐ เหล่าธรรมทัศน์

โดยในวันประชุมพรรครวมพลังประชาชาติไทย ลูกชายของเอนกคือ เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ และหลานสาวของเอนกคือ จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ มาเป็นพิธีกรด้วย โดยกรณีของจุฑาฑัตตนั้น เป็นผู้มีบทบาทในแวดวงนักธุรกิจเพื่อสังคม และเมื่อ 17 มีนาคม 2560 เคยเดินทางไปพร้อมกับแกนนำ กปปส. เพื่อให้ข้อมูลกับคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองช่วงรัฐบาล คสช. ด้วย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net