Skip to main content
sharethis

คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญลงมติผ่าน 2 ประเด็น เรื่องการยืนยันสมาชิกพรรค ใน 30 วัน และให้มีสาขาและตัวแทนจังหวัดของพรรคหลังปลอดล็อค โดยระบุเหตุผลว่า ไม่เพิ่มภาระ ไม่เกินสมควร ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ

5 มิ.ย. 61 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ว่าร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 140 และมาตรา 141 วรรคหนึ่ง (5) และวรรคสอง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 25, 26, 27 และมาตรา 45 หรือไม่

ข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า พลตํารวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร้องเรียนต่อผู้ร้องว่าคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 เรื่อง การดําเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ร้องพิจารณาแล้วมีความเห็นว่าคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าวมีสถานะเป็น “บทบัญญัติแห่งกฎหมาย” ที่ไม่ได้รับรองและคุ้มครองการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 ประกอบมาตรา 45 อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นการเพิ่ม ภาระหรือจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ซึ่งขัดกับหลักความเสมอภาคตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 27 ได้รับรองและคุ้มครองไว้ ผู้ร้องจึงเสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1)

โดยผลการพิจารณา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนได้ทําความเห็นส่วนตน เป็นหนังสือ พร้อมทั้งแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุม และที่ประชุมได้ปรึกษาหารือร่วมกันแล้วลงมติในสองประเด็น ดังนี้

ประเด็นที่หนึ่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 140 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 เรื่อง การดําเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 27 และมาตรา 45 หรือไม่ ซึ่งผลการลงมติปรากฏว่า ศาลโดยมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 27 และมาตรา 45

ประเด็นที่สอง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 มาตรา 141 วรรคหนึ่ง (5) และวรรคสอง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 เรื่อง การดําเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 27 และมาตรา 45 หรือไม่ ซึ่งผลการลงมติปรากฏว่าศาลโดยมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 27 และ มาตรา 45

โดยทั้งสองประเด็นดังกล่าวไม่เป็นการเพิ่มภาระหรือจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ และไม่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล

ทั้งนี้ มาตรา 140 ตามคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 กำหนดให้สมาชิกของพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นหรือเป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 และยังคงดำเนินกิจการอยู่ หากประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นต่อไปต้องมีหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิกต่อหัวหน้าพรรคการเมืองนั้น พร้อมแสดงหลักฐานการมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และให้ชำระค่าบำรุงพรรคการเมือง 100 บาท ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เมื่อพ้นกำหนดดังกล่าว หากสมาชิกผู้ใดมิได้มีหนังสือแจ้งยืนยันการเป็นสมาชิก ให้ถือว่าพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นและให้พรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายใน 30 วัน นับแต่พ้นกำหนดดังกล่าว

ส่วนมาตรา 141 วรรคหนึ่ง (5) กำหนดให้จัดสาขาพรรคการเมืองให้และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ยกเลิกประกาศ คสช.ฉบับที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ส่วนมาตรา 141 วรรคสอง กำหนดว่าในกรณีที่ กกต.เห็นว่าพรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินการตามวรรคหนึ่งได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด กกต.อาจมีมติให้ขยายระยะเวลาตามวรรคหนึ่งออกไปได้อีก 1 เท่าของระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละเรื่อง เมื่อครบระยะเวลาตามวรรคหนึ่งหรือครบระยะเวลาที่ กกต.มีมติให้ขยายแล้วแต่กรณี ให้พรรคการเมืองที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จสิ้นสภาพลง ทั้งนี้ ในระหว่างเวลาที่พรรคการเมืองยังปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง (1) (2) (4) และ (5) ไม่ครบถ้วนจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net