Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และผู้เจริญรอยตามท่าน

จากกรณีที่ กำลังคอมมานโด ทำการเข้าจับกุม “พระพุทธอิสระ” หรือ “นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ” ที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา คดีอั้งยี่ซ่องโจร และคดีปลอมพระปรมาภิไธย 2 สำนวน มาฝากขังผัดแรกต่อศาลอาญา เป็นเวลา12วัน ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระพุทธะอิสระ ลาสิกขาบท จากการเป็นพระ เนื่องจากศาลไม่ให้ประกันตัว โดยพระพุทธะอิสระได้ยอมถอดจีวรและเปลี่ยนมาใส่ชุดขาวแทน จากนั้นถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

มีการแสดงความคิดเห็นมากมายของหลายฝ่าย เกี่ยวกับการจับกุมพระพุทธอิสระอย่างเร่งด่วนในครั้งนี้ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีการยกเหตุผลมากมายมาประกอบรวมทั้งกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายมีการใช้คำคำหยาบคายผ่านโลกโซเซี่ยล เช่น นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชน เป็นผู้ที่รู้จักกันดีในชื่อ “เจ๊ปอง” เป็นผู้มีบทบาทสำคัญทั้งในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 และเมื่อปี พ.ศ. 2549 เมื่อปี พ.ศ. 2551 เป็นผู้จัดรายการเล่าข่าวยามเช้าบนเวทีปราศรัย รวมถึงในช่วงปี พ.ศ. 2556–2557 เป็นพิธีกรประจำเวทีการชุมนุมของกปปส. โดยโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ก พร้อมภาพที่แคปข้อความให้กำลังใจ พุทธอิสระ ของ “ชัย ราชวัตร” นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง โดยระบุว่า “อ่านนะคะ. เห็นด้วยคะ. ตำรวจกองปราบทำเกินเลย หยาบคาย. เลวทราม ต่ำช้า สถุล กับพระรูปหนึ่ง นายกรัฐมนตรีต้องมีคำตอบคะ”

“กนก รัตน์วงค์สกุล” ก็อีกคนหนึ่ง ได้โพสต์คลิปช่วงเช้า ที่มีการบุกรวบตัวนายสุวิทย์ ที่วัดอ้อน้อย โดยระบุว่า “ตอนแรก พี่ปองส่งคลิปมาให้ดู นึกว่าตำรวจกองปราบ จู่โจมเข้าจับ มหาโจรวายร้าย ฆาตกรที่ไหน.. ที่แท้มาจับหลวงปู่ โธ่ถัง! ท่านอายุ 62 แล้ว และไม่ว่าจะโดนคดีอะไร ท่านก็ไม่เคยคิดหลบหนี ตลอดทางที่เข้ามา ก็ไม่เห็นตำรวจถูกขัดขวางจากลูกศิษย์วัดคนใด ต้องกระโชกโฮกฮาก ขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่ารู้กำลังถ่ายคลิป ก็เลยเล่นใหญ่ไว้ให้นายดู? ทำไมนายตำรวจที่คุมไป ไม่ประเมินสถานการณ์แวดล้อม แล้วปรับท่าทีชุดจับกุม ให้เหมาะสม .. ไม่เข้าท่าเลย !!!” และอีกหลายคนออกมาโวย จนกระทั่งท้ายสุดนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาขอโทษ กล่าวคือ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ เข้าจับกุมพระพุทธอิสระ ในขณะที่ยังเป็นพระ ที่กุฏิในวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ว่า ขอโทษแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเสียความรู้สึก โดยได้ว่ากล่าวตักเตือนและกำชับไปแล้ว ว่าต้องไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก รวมทั้งยังได้ฝากขอโทษ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
(โปรดดู)

1. https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1129617
2. https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1129251
3. https://www.sanook.com/news/6572134/

อย่างไรก็แล้วแต่มีหลายคอมเม้นต์เสนอว่าปฏิบัติการครั้งนี้ น่าจะนำไปใช้กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการทวิตเตอร์ออกสื่อ ของดร.สุริยะใส กตะศิลา ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าจะปฏิรูปประเทศ (โปรดดู facebook.com/RSUWisdomTV/videos/2084619688219007/) รวมทั้งเสนอต่อประชาชนในการบริหารประเทศผ่านพรรคประชาชาติไทย (โปรดดู  matichon.co.th/social/news_973191)

ผลของทวิตเตอร์ท่าน มีอีกหลาย คนเห็นดีเห็นงามในสื่อโลกออนไลน์ (โดยเฉพาะเครือข่ายแนวร่วมของท่าน) คำถามสำหรับคนจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ท่านขัดแย้งการเมืองส่วนกลางทำไมต้องเอาคนจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กำลังทุกข์เป็นเหยื่อ เป็นตัวประกัน ท่านมองว่าตำรวจไม่ดีทำไมต้องส่งลงไปใต้ และทุกครั้งคนบ้านนี้เมืองนี้ต้องระบาย ขับใล่ไสส่งคนไม่ดีไปใต้ แม้แต่ความขัดแย้งระหว่างรัฐกับวัดธรรมกายครั้งที่แล้วก็เช่นกัน (ดูบทความผู้เขียน https://www.matichonweekly.com/column/article_28075 หรือที่เฟสบุ๊คของผู้เขียน https://www.facebook.com/shukur.dina)

สำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วพวกเขา ได้มีประสบการณ์ด้านมืดมากกว่าพระพุทธอิสระมากด้วยการถูก ปิด ล้อม ตรวจค้น จากหน่วยความมั่นคงทั้งจำนวนคนเป็นร้อยและอาวุธครบมือ รวมทั้งละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอด 14 ปีย่อมทราบดี ว่าสิ่งที่รัฐทำกับพระพุทธอิสระสมควรหรือไม่ และทราบดีว่า จะขยายความรุนแรงเพิ่มขึ้น ในประเทศไทย การทะเลาะและความรุนแรงจะไม่จบ

ถึงแม้เราทราบดีว่า ข้อกล่าวหาต่อพระพุทธอิสระจะหนัก แต่เราก็แยกแยะระหว่างข้อกล่าวหากับการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต้องมีอารยะ นิติรัฐ นิติธรรม  การยึดหลักให้สิทธิแก่ผู้ต้องหาเป็นสิ่งสำคัญ และเจ้าหน้าที่ต้องเรียนรู้ให้ทันกับกฎหมายที่เปลี่ยนแปลง 

เราชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ไม่อยากเห็นโต๊ะครูผู้นำจิตวิญญาณชาวบ้าน ถูก ปิดล้อม ตรวจ ค้นด้วยอาวุธครบมือด้วยเช่นกัน 

ท้ายนี้ หากท่านหรือใครดูถูกคนสามจังหวัด แล้วรู้สึกผิด พร้อม มีจิตสำนึกก็ต้องขอโทษคนสามจังหวัด ด้วยการ เเถลงข่าวออกสื่อเพื่อไม่เป็นเยี่ยงอย่างต่อคนอื่น เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่คนมีชื่อในประเทศนี้ดูถูกคนสามจังหวัด

 

 

เกี่ยวกับผู้เขียน: อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) เป็นคณะกรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้ Shukur2003@yahoo.co.uk, http://www.oknation.net/blog/shukur

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net