Skip to main content
sharethis

หารือประวัติศาสตร์ที่เกาะเซ็นโตซาระหว่าง 2 ผู้นำสหรัฐอเมริกา-เกาหลีเหนือเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมออกแถลงการณ์ร่วมมุ่งสร้างความสัมพันธ์หน้าใหม่ของสหรัฐอเมริกา-เกาหลีเหนือ เริ่มต้นกระบวนการปลอดอาวุธนิวเคลียร์ "อย่างรวดเร็ว" เพื่อสร้างคาบสมุทรเกาหลี "ที่มีสันติภาพอย่างมั่นคงสถาพร" ขณะที่เย็นนี้ นสพ.เกาหลีใต้พาดหัวใหญ่ "จับมือแห่งศตวรรษ" ด้านทรัมป์แถลงอีกรอบจะคงกำลังทหาร 32,000 นายไว้ที่คาบสมุทรเกาหลี และรอบนี้ไม่ได้หารือสิทธิมนุษยชน ขอพูดรอบหน้า

คิมจองอึน และโดนัลด์ ทรัมป์ ในการประชุมสุดยอดสหรัฐอเมริกา-เกาหลีเหนือ ที่เกาะเซ็นโตซา สิงคโปร์ เมื่อ 11 มิถุนายน 2561 (ที่มา: Facebook/Donald J. Trump)

(ซ้าย) ภาพโดนัลด์ ทรัมป์-คิมจองอึน จับมือกัน จากหนังสือพิมพ์ "มุนฮวาอิลโบ" ฉบับเย็นวันที่ 12 มิถุนายน (ขวา) ส่วนหนึ่งของลายมือชื่อ 2 ผู้นำหลังหารือกันที่เกาะเซ็นโตซา สิงคโปร์

หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้ "มุนฮวาอิลโบ" ฉบับเย็นวันที่ 12 มิถุนายน ตีพิมพ์ภาพเต็มหน้าแรกเป็นภาพคิมจองอึนยิ้มและจับมือกับโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อหน้าธงชาติของทั้ง 2 คู่เจรจา พร้อมโปรยพาดหัวว่า "จับมือแห่งศตวรรษ: จากสงครามสู่สันติภาพ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เริ่มต้น" (ที่มา: Yonhap/Munhwa)

การประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และคิมจองอึน ประธานคณะกรรมาธิการกิจการแห่งรัฐ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ในฐานะผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เริ่มต้นขึ้นวันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์รัฐบาลเปียงยาง ท่ามกลางการจับตามองของสื่อทั่วโลก โดยการประชุมที่รีสอร์ทบนเกาะเซ็นโตซานั้น ในช่วงเช้าโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางมาถึงก่อน จากนั้นคิม จอง อึน เดินทางตามมา โดยการประชุมรอบแรกเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีการหารือกันเฉพาะ 2 ผู้นำผ่านล่าม การหารือใช้เวลา 30 นาที จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายหารือแบบเต็มคณะฝ่ายละ 3 คน กินเวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที

หลังการหารือเต็มคณะ ทั้ง 2 ฝ่ายรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันโดยก่อนนั่งรับประทานอาหาร ในคลิปของ NowThis Politics รายงานว่า ทรัมป์พูดกับช่างภาพว่าขอให้ถ่ายรูปให้พวกเขาดูดี ดูเท่ ดูผอม โดยล่ามภาษาเกาหลีได้แปลให้คิมจองอึนฟังด้วย [ชมคลิป]

อนึ่งทรัมป์ ส่งทวีตตอนเช้าก่อนเดินทางมาที่เกาะเซ็นโตซาว่า "การพบกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยดีและเดินหน้ารวดเร็ว .... แต่ในที่สุดนั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ อีกไม่นานคงจะรู้ว่าจะตกลงกับเกาหลีเหนือได้หรือไม่"

ในวิดีโอที่เผยแพร่โดย VOA ตอนหนึ่งระหว่างการประชุมเต็มคณะ ทรัมป์ สนทนากับคิมจองอึนว่า "ท่านประธาน (คิมจองอึน) ผมเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาอยู่กับท่านที่นี่ในวันนี้ ผมมองไปข้างหน้าเพื่อที่ทำงานร่วมกับท่าน" ส่วนคิมจองอึนตอบว่า "ผมเชื่อว่า นี่คือบทเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ที่จะนำไปสู่สันติภาพ ผมได้เตรียมตัวที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับท่านประธานาธิบดี"

อนึ่งภายหลังการประชุมทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และคิมจองอึน ได้ลงนามแถลงการณ์ร่วมกัน ที่มีข้อตกลง "รอบด้าน" เริ่มต้นกระบวนการปลอดอาวุธนิวเคลียร์ "อย่างรวดเร็ว" เพื่อสร้างระบอบ "ที่มีสันติภาพอย่างมั่นคงสถาพรบนคาบสมุทรเกาหลี"

ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในเทเลกราฟร่วมตอนหนึ่งระบุว่าทั้ง 2 ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างรอบด้าน เจาะลึก และจริงใจ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการสถาปนาความสัมพันธ์หน้าใหม่ของสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือ และสร้างระบอบที่มีสันติภาพอย่างสถาพรและมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี ประธานาธิบดีทรัมป์ให้ให้คำมั่นว่าจะมอบหลักประกันความมั่นคงปลอดภัยให้กับเกาหลีเหนือ และประธานคิมจองอึนเน้นย้ำว่าเขาจะมีพันธะที่มุ่งมั่นและแน่วแน่เพื่อทำให้กระบวนการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีเป็นไปอย่างสมบูรณ์

เพื่อทำให้แน่ใจว่าการสถาปนาความสัมพันธ์หน้าใหม่ของสหรัฐอเมริกา-เกาหลีเหนือ จะนำไปสู่สันติภาพและความสำเร็จของคาบสมุทรเกาหลีและโลก รวมทั้งรับรองว่าการเสริมสร้างความมั่นใจร่วมกันนี้ จะส่งเสริมกระบวนการปลอดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานคิมจองอึน จะเริ่มต้นในกระบวนการต่อไปนี้

สหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือมุ่งสถาปนาความสัมพันธ์ใหม่ของสหรัฐอเมริกา-เกาหลีเหนือ ตามความปรารถนาของประชาชน 2 ประเทศที่ต้องการสันติภาพและความสำเร็จ

สหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือจะร่วมกันในความพยายามสร้างระบอบที่มีสันติภาพอย่างมั่นคงสถาพรบนคาบสมุทรเกาหลี

เพื่อยืนยันอีกครั้งถึงปฏิญญาปันมุนจอม 27 เมษายน 2018, เกาหลีเหนือมุ่งมั่นทำงานเพื่อสร้างภาวะปลอดอาวุธนิวเคลียร์สมบูรณ์บนคาบสมุทรเกาหลี

สหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือร่วมกันค้นหาเชลยศึกและผู้หายสาบสูญ (POW/MIA) รวมทั้งกระบวนการส่งกลับกรณีที่ได้รับการยืนยันอัตลักษณ์แล้ว

ในแถลงการณ์ร่วมระบุด้วยว่าทั้งสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือจะจัดการหารือรอบใหม่ นำโดย ไมค์ พอมเพโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือที่เกี่ยวข้อง โดยจะรีบจัดอย่างเร็วที่สุด เพื่อทำให้การประชุมสุดยอดสหรัฐอเมริกา-เกาหลีเหนือเกิดผลในทางปฏิบัติ

ในตอนท้ายระบุว่าทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และคิมจองอึน มีพันธะในการร่วมมือกันเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์หน้าใหม่ของสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความสำเร็จ และความมั่นคงปลอดภัยของคาบสมุทรเกาหลีและโลก

ทั้งนี้ตามรายงานของ Yonhap โดยทรัมป์แถลงว่าทั้งเขาและคิมได้ร่วมกันสร้าง "ข้อผูกมัดพิเศษ" และความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจะต่างไปจากที่เคยเป็นในอดีต ทรัมป์กล่าวด้วยว่ากระบวนการปลอดอาวุธนิวเคลียร์จะเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมแสดงความปรารถนาว่าต้องการพบคิมจองอึนอีกครั้งที่ทำเนียบขาว

นอกจากนี้หลังการพบปะ 2 ฝ่าย ทรัมป์ได้แถลงข่าวแยกอีกครั้งหนึ่ง โดยตอนหนึ่งทรัมป์กล่าวว่าทุกคนสร้างสงครามได้ แต่มีเพียงคนกล้าหาญที่สุดเท่านั้นที่เป็นผู้สร้างสันติภาพ ทั้งนี้เขากล่าวด้วยว่า หวังว่าผู้คนบนคาบสมุทรเกาหลีจะมีสันติภาพ ครอบครัวที่พลัดพรากจะได้กลับมาพร้อมหน้ากัน อย่างไรก็ตามในการตอบคำถามสื่อมวลชน เขาปฏิเสธแผนการถอนทหารออกจากคาบสมุทรเกาหลี ทั้งนี้เขากล่าวด้วยว่าแม้ในช่วงการหาเสียงเขาพูดถึงการนำทหารที่ประจำการที่คาบสมุทรเกาหลีกลับบ้าน แต่การการถอนทหาร 32,000 คนบนคาบสมุทรเกาหลีจะยังไม่ใช่ในเวลานี้ แต่เขาก็เห็นว่าสหรัฐอเมริกาควรยุตินโยบายเกมสงคราม ที่ทำให้เกิดการผลาญงบประมาณประเทศ

ทั้งนี้เขายอมรับต่อสื่อมวลชนว่าไม่ได้หารือเรื่องสิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหนือ การหารือรอบนี้เป็นการหารือเรื่องยุติอาวุธนิวเคลียร์ แต่เรื่องสิทธิมนุษยชนจะต้องพูดในครั้งหน้า เขาตอบสื่อมวลชนด้วยว่าจะไปเยือนเปียงยางในช่วงเวลาที่เหมาะสม

อนึ่งในรายงานของ VOA รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ระบุก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐฯ จะไม่ทำข้อตกลงใดๆ ที่ใช้ไม่ได้ในการเจรจาครั้งนี้ และสิ่งเดียวที่สหรัฐฯ จะยอมรับคือการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนืออย่างสมบูรณ์และตรวจสอบได้ เขากล่าวว่า มาตรการลงโทษเกาหลีเหนือจะมีอยู่ต่อไปจนกล่าวรัฐบาลเปียงยางจะล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธทั้งหมด

VOA ซึ่งอ้างรายงานจากเอพีระบุด้วยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดเดินทางออกจากสิงคโปร์อย่างรวดเร็วหลังจากการประชุมสุดยอด ซึ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า เขายังมีความตั้งใจที่จะให้เกิดความตกลงด้วยเป้าหมายที่สูง หรือลดทอนสิ่งที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นจากการหารือกับนายคิมจองอึน ในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าทำเนียบขาวกล่าวว่า การเตรียมเดินทางออกจากสิงคโปร์อย่างรวดเร็วมีเหตุผลมาจากที่การเจรจาที่ผ่านมาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดหมาย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net