สิทธิมนุษยชนต้องอยู่ใต้กฎหมาย ปล่อยชุมนุมเสรีเป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย ย้อนถามผู้ชุมนุมกรณีสร้างความรำคาญให้สาธารณะ
ต่อคำถามว่าประชาธิปไตยของไทยจะออกมาเป็นแบบไหน ประยุทธ์ตอบกับไทม์ว่า สิ่งที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยคือการสร้างการร่วมมือ และการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านกระบวนการที่เหมาะสม เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ละเมิดกฎหมายและสิทธิของผู้อื่น แม้ว่าการมีเสรีภาพเป็นสิทธิที่พึงมีตามหลักประชาธิปไตย เสรีภาพก็ไม่ควรจะถูกใช้เพื่อละเมิดสิทธิผู้อื่น สิ่งที่สำคัญมากก็คือเส้นแบ่งระหว่างสิทธิมนุษยชนและการฝ่าฝืนกฎหมาย พวกเราไม่สามารถดูแลคนส่วนใหญ่แต่เพิกเฉยกับเสียงส่วนน้อยเหมือนประชาธิปไตยไทยในอดีต
ต่อคำถามว่า คนไทยควรได้รับอนุญาตให้มีการชุมนุมประท้วงโดยสันติหรือไม่ หัวหน้ารัฐบาลทหารกล่าวว่า รัฐบาล คสช. จัดให้มีช่องทางให้พวกเขาขออนุญาต ในการชุมนุมประท้วง รวมถึงยังรับฟังและพิจารณาข้อเรียกร้องของพวกเขา แต่ถ้าอนุญาตให้มีการชุมนุมอย่างเสรี การเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยก็อาจจะเป็นเรื่องยากเกินไป สิ่งที่ต้องการทำให้สำเร็จคือการเลือกตั้ง
“คุณรู้ไหม พวกเราต้องพิจารณาการเคลื่อนไหวของเด็กๆ เหล่านี้อย่างถี่ถ้วน และถ้าพวกเราเข้าใจพวกเขาอย่างแท้จริง พวกเราไม่เคยต้องการจะใช้มาตรการทางกฎหมายกับพวกเขา พวกเราค่อนข้างจะใช้มาตรการผ่อนคลาย มีหลายครั้งหลายหนที่พวกเราไม่ได้จับกุมพวกเขาและได้ปล่อยตัวเสียด้วยซ้ำ และผมคิดว่าพวกเขารู้ว่าเราไม่ได้เคร่งครัดกับพวกเขาเท่าที่ควรจะเป็น ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าพวกเรามองพวกเขาในฐานะของผู้เป็นเด็ก” ประยุทธ์กล่าวกับไทม์
ต่อคำถามว่าเขาเป็นผู้มีความเชื่อในสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ประยุทธ์ตอบว่า ต้องเข้าใจว่ามีคนบางกลุ่มที่พวกเขาก็รู้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่พยายามจะยกประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อบิดเบือนภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาชาวโลก ดังนั้นจึงควรจะโฟกัสไปที่การให้คำนิยามว่าอะไรคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน คือการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ คือการใช้ความรุนแรงโดยไม่จำเป็น ไปทำร้ายร่างกายประชาชน และยังตั้งคำถามถึงพฤติการณ์ของผู้ชุมนุม
“รัฐบาลของผมไม่เคยเห็นชอบกับเรื่องเหล่านี้ และได้ลงโทษเจ้าหน้าที่ [ที่กระทำผิด] เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิด ในทางกลับกัน แล้วพวกนักกิจกรรมที่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไปสร้างความรำคาญให้กับสาธารณชน ไปปิดถนนและทำให้ประชาชนมีความลำบากในการดำเนินชีวิตหรือกิจวัตรประจำวันล่ะ”
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)