Skip to main content
sharethis

โจ๊กเจ้าเก่า ตำรวจท่องเที่ยวออกหมายเรียกอีกสิบผู้ต้องหาแชร์เพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ”จากสเตตัสดูด สส.และเรื่องตำรวจทหารมีผลประโยชน์จากยาเสพติด ขอออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแอดมินแฟนเพจพร้อมระบุว่าอาศัยอยู่ในประเทษกัมพูชา

25 มิถุนายน 2561 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวพล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปอท. ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

​พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตามที่มีบุคคลนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยมีการโพสต์บทความบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาลในเพจเฟสบุ๊ค “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” จำนวน 2 โพสต์ ได้แก่ข้อความ

“ยาเสพติดระบาดหนักในหลายชุมชน จนท.ทหารหลายพื้นที่ ทำงานเป็นคนดูแลความสงบให้แก่พวกขายยา (กล่าวลอยๆ) โดยทำงานร่วมกับตำรวจท้องที่ ลองดูสิ เยอะจริงๆ ยกตัวอย่างแถวบ่อนไก่ก็ตำรวจ-ทหารเป็นหูเป็นตาให้ผู้ค้าเองด้วย ป.ป.ส.มาสืบเองก็คงมีข้อมูลแล้ว แต่ก็ไม่ทำอะไร ประชาชนในชุมชนอยู่กันอย่างหวาดระแวง ลักเล็กขโมยน้อยเกิดขึ้นประจำ นี่หรือคือยุคที่ คสช.อ้างว่าสงบสุข แต่ยาเสพติดกลับทะลักเข้ามาทำลายอนาคตของประเทศ”

และ

“คสช. ตั้งเป้าดูด 300 หัว เพื่อมาสนับสนุนตนเอง และไม่ใช่ดูดธรรมดามีการจ่ายเงินค่าดูดและเจรจาพักคดีด้วยทีนี้ ท่านคิดกันเล่นๆ ดูว่าเงินค่าดูด มาจากไหน? ส่วนเท่าไหร่ จากไหน จากใครบ้าง ไว้จะเปิดเผยภายหน้า อิอิ”
 

เพื่อนำมาเป็นสื่อกระจายแก่บุคคลต่างๆ ซึ่งการดัดแปลงดังกล่าว อาจส่งผลทำให้ประชาชนที่ได้รับสื่อเกิดความตื่นตระหนก และหลงเชื่อได้ว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง

รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวยังกล่าวอีกว่า จากการสืบสวนทราบว่าแฟนเพจเฟสบุ๊ค “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” ได้ลงทะเบียนใช้ในชื่อบัญชี “Wanchalearm Satsaksit” มี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 35 ปี มีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านปรากฏในจังหวัดอุบลราชธานี จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่าหลบหนีพักอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวในความผิดฐาน “นำสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และยังมีการดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเผยแพร่หรือส่งต่อข้อความข่าวสารอันเป็นเท็จในเฟสบุ๊ค อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ จำนวนทั้งสิ้น 10 ราย ออกหมายเรียกแล้วทั้ง 10 วันนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา 6 ราย เหลือ 4 ราย อยู่ระหว่างติดตามตัว ​โดยมีความผิดฐาน “เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศหรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” โทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

แม้ว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือที่มีชื่อเรียกในวงการว่ารองโจ๊ก จะมีตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) แต่ก่อนหน้านี้กลับมีบทบาทในการจับกุมผู้ใช้เฟสบุ๊คที่แชร์ภาพจากแฟนเพจ Konthai UK และถูกนายเอกชัย หงส์กังวานระบุว่าเป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการควบคุมตัวนอกกฎหมายนายเอกชัยและนายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 16 เมษายน 2561 ขณะทั้งคู่จะเดินทางไปทำกิจกรรมรดน้ำดำหัวที่บ้านของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net