Skip to main content
sharethis

สื่อ 'เดอะแคปปิทัลกาเซตต์' ยังคงออกหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ต่อไปในวันถัดจากที่เกิดเหตุการณ์กราดยิงสำนักงานจนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดยปล่อยหน้า 'ความคิดเห็น' ของพวกเขาให้เป็นหน้าว่างพร้อมข้อความ "วันนี้ พวกเราถูกทำให้พูดไม่ออก" นอกจากนี้ยังมีประชาชนในท้องถิ่นสำนักงานของสื่อนี้ออกมาร่วมชุมนุมแสดงความไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต

 
 
 
หลังจากที่เกิดเหตุคนร้ายบุกยิงนักข่าวและคณะทำงานในสำนักงานของสื่อแคปปิทัลกาเซตต์ สื่อเก่าแก่ในเมืองแอนนาโพลิส รัฐแมรีแลนด์ จนมีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย ในช่วงบ่ายของวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา สื่อแคปปิทัลกาเซตต์ก็ยังคงออกหนังสือพิมพ์ของตัวเองในฉบับวันศุกร์ต่อไป แม้จะเกิดเหตุรุนแรงดังกล่าวที่ตำรวจบอกว่าเป็น "การโจมตีแบบตั้งเป้าหมายไว้ก่อน"
 
ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันศุกร์ (29 มิ.ย. 2561) ของแคปปิทัลมีการแสดงความไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตที่เป็นนักข่าว 4 ราย และเป็นเจ้าหน้าที่ 1 ราย โดยการปล่อยให้หน้าแรกของส่วนแสดงความคิดเห็นกลายเป็นหน้าว่างพร้อมกับข้อความว่า "วันนี้ พวกเราถูกทำให้พูดไม่ออก" พร้อมข้อความไว้อาลัยตามด้วยชื่อชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย
 
"ในวันพรุ่งนี้หน้านี้ของแคปปิทัลจะกลับมาพร้อมรับหน้าที่เดิมในการนำเสนอความคิดเห็นเชิงข้อมูลให้กับผู้อ่านเกี่ยวกับโลกรอบตัวพวกเขา แต่สำหรับวันนี้ พวกเราไม่มีอะไรจะกล่าวจริงๆ" เดอะแคปปิทัลระบุในหน้าแรกหลังคำไว้อาลัย
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุชื่อ จาร์รอด รามอส มีการตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ยังไม่ระบุว่าแรงจูงใจในการสังหารครั้งนี้คืออะไร อย่างไรก็ตามมีสื่อในท้องถิ่นระบุว่ารามอสมีความไม่พอใจกับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้มานานแล้ว
 
รายชื่อผู้เสียชีวิตมี ร็อบ ฮยาเซน ผู้ช่วยบรรณาธิการอายุ 59 ปี เจราล์ด ฟิสช์แมน บรรณาธิการหน้าบท บก. อายุ 61 ปี เวนดี วินเทอร์ส นักข่าวอายุ 65 ปี จอห์น แมคนามารา นักข่าวกีฬาอายุ 56 ปี และรีเบคกา สมิทธ์ ผู้ช่วยฝ่ายขายอายุ 34 ปี
 
นักข่าวฝ่ายอาชญากรรม ฟิล ดาวิส ระบุถึงกรณีการเสียชีวิตของเพื่อนร่วมงานว่ามันทำให้เขานอนหลับไม่ลง สิ่งที่เขาทำได้อย่างเดียวจึงมีแต่รายงานข่าวเรื่องนี้ ขณะที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็รู้สึกตกใจและสะเทือนใจเมื่อได้รับข่าวนี้และพากันเขียนรำลึกถึงเพื่อนร่วมงานของตัวเอง
 
ขณะเดียวกันนักข่าวจากสื่ออื่นๆ นักการเมือง รวมถึงกลุ่มสิทธิมนุษยชนพากันประณามการก่อเหตุสังหารในครั้งนี้ แมคกี ฮาเบอร์แมน ผู้สื่อข่าวจากนิวยอร์กไทม์ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่าการสนับสนุนนักข่าวท้องถิ่นเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่เกิดขึ้นกับแคปปิทัลกาเซตต์ ถือเป็นเรื่องที่ชวนให้รู้สึกแย่ "เท่าที่จำได้มีแต่ทรัมป์คนเดียวที่เป็นประธานาธิบดีที่เรียกสื่อว่าเป็นศัตรูของประชาชน"
 
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเสียใจต่อผู้ที่ถูกสังหารและครอบครัวของผู้ถูกสังหารเช่นกัน ขณะที่ประธานาธิบดีจัสติน ทรูโด ของแคนาดากล่าวว่าการโจมตีในแอนนาโพลิสถือเป็นสิ่งที่สร้างความสูญเสียอย่างมาก และบอกว่า "นักข่าวเป็นผู้ที่บอกเล่าเรื่องราวของชุมชนเรา ปกป้องประชาธิปไตย และมักจะเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อทำงานของพวกเขา"
 
คณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าว (CPJ) กล่าวว่าพวกเขารู้สึกสะเทือนใจกับเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น ในแถลงการณ์ของ โจเอล ไซมอน ระบุว่าความรุนแรงต่อผู้สื่อข่าวเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้และพวกเขาจะยืนดีถ้าหากมีการสืบสวนสอบสวนในเรื่องแรงจูงใจเบื้องหลังการก่อเหตุนี้
 
ประชาชนชาวแอนนาโพลิสยังพากันออกมาชุมนุมเพื่อแสดงการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน มีการจุดเทียนและกล่าวไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตโดยที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเข้าร่วมการชุมนุมรำลึกในครั้งนี้ด้วย
 
 
เรียบเรียงจาก
 
Capital Gazette: Victims remembered in first edition after attack, Aljazeera, 30-06-2018
 
Candlelight vigil held for victims of Maryland newsroom shooting, ABC News, 30-06-2018
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net