Skip to main content
sharethis

ประกันสังคม จ.ปทุมฯ จ่าย 1 แสนให้ 'เจริญ' ผู้ประกันตนตาม ม.39 หลังร้องเรียน รพ.ในพื้นที่วินิจฉัยโรคผิด ทำเสียสุขภาพ จิตใจ รักษายืดเยื้อ ขาดรายได้ นักสิทธิแรงงานชี้เป็นกรณีแรก ใน จ.ปทุมธานี ที่ได้รับเงินเยียวยาเบื้องต้น

ภาพรองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้มอบเช็คให้ที่สำนักงานประกันสังคม จ.ปทุมธานี

 

4 ก.ค.2561 จากกรณีเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2560 ประชาไท รายงานข่าวว่า เจริญ อินทร ผู้ป่วยและผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อ หัวหน้า สํานักงานประกันสังคม จ.ปทุมธานี ด้วยเหตุที่ โรงพยาบาลปทุมเวช ตามสิทธิรักษาประกันสังคม วินิจฉัยโรคผิด นั้น

ล่าสุดวันนี้ สุธิลา ลืนคำ กรรมการกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ในฐานตัวแทนของ เจริญ ในการยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมดังกล่าว แจ้งกับผู้สื่อข่าวประชาไท ว่า ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ค.61) ประกันสังคม จ.ปทุมธานี แจ้งผลการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับ เจริญ ที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ จำนวนเงิน 100,000 บาท โดยมี มนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการ จ.ปทุมธานี เป็นผู้มอบเช็คให้ ที่สำนักงานประกันสังคม จ.ปทุมธานี

สุธิลา ระบุว่ากรณีนี้ถือเป็นกรณีแรก ใน จ.ปทุมธานี ที่ได้รับเงินเยียวยาเบื้องต้นให้ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์

จดหมายแจ้งผลการจ่ายเงินช่วยเหลือ ระบุด้วยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ หน่วยที่ 4 เห็นว่าความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ครั้งนี้ เป็นเหตุสุดวิสัยจากระบบบริการรักษาพยาบาล จึงมีมติจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นฯ
 
สำหรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ของเจริญ ที่ยื่นต่อหัวหน้า สํานักงานประกันสังคม จ.ปทุมธานี ระบุว่า ประมาณกลางเดือน ก.ย. 2560 เจริญ มีอาการปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวาและมีอาการปวดเสียดไปถึงด้านหลัง และได้ไปพบหมอที่โรงพยาบาลปทุมเวชติดต่อกันถึง 2 ครั้ง หมอวินิจฉัยตามอาการว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบและหมอได้จ่ายยาแก้ปวด พร้อมกับยาเคาเตอร์เพนมาทาแก้ปวดกล้ามเนื่อหลัง แต่อาการไม่ดีขึ้น จากนั้น วันที่ 18 ก.ย.60 เจริญได้ไปตรวจอาการปวดท้องที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยจ่ายเงินเอง ผลปรากฏว่าเป็นนิ่วในถึงน้ำดี จากนั้นหมอที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ได้เขียนบันทึกและผลการตรวจให้เพื่อกลับไปพบหมอที่ รพ.ปทุมเวช เพื่อรักษาตามสิทธิประกันสังคม ซึ่งต่อมาหมอที่ รพ.ปทุมเวช ออกใบนัดเพื่อผ่าตัดในวันที่ 16 ต.ค.2560 
 
หนังสือร้องขอความเป็นธรรมระบุอีกว่า เจริญตัดสินใจผ่าตัดแบบส่องกล้อง พร้อมกับจ่ายเงินเพิ่มเป็นค่าส่วนต่างให้กับ รพ. แต่สรุปผลผ่าตัดไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้ต้องผ่าตัดแบบเปิดอีกครั้ง ส่งผลให้มีแผลผ่าตัดถึง 2 แผล และต้องนอนพักฟื้นที่ รพ.ปทุมเวช 8 วัน จ่ายค่าส่วนต่าง 12,780 บาท จึงกลับไปพักฟื้นที่บ้าน แต่หลังจากนั้นกลับมีอาการตาเหลือง แน่นท้อง ปวดท้องมาก ในที่ 29 ต.ค.2560  จึงได้ไปพบหมอที่ รพ.ปทุมเวช ตามนัด และได้ปฏิบัติตัวตามหมอสั่งทุกอย่าง แต่อาการยังไม่ดีขึ้น วันที่ 30 พ.ย.และวันที่ 3 ธ.ค.2560 ไปพบหมอ ซึ่งอาการก็ยังเหมือนเดิมทุกประการ  จนกระทั่งวันที่ 4 ธ.ค.2560 ได้ตัดสินใจไปตรวจที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ หมอได้ตรวจอย่างละเอียด พร้อมให้นำบันทึกการวินิจฉัยไปให้ รพ.ปทุมเวช เพื่อใช้สิทธิรักษาตามประกันสังคม แต่เจริญกังวลใจเป็นอย่างมาก จึงขอรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ต่อไป
 
เจริญจึงขอความเป็นธรรมจากหัวหน้า สนง.ประกันสังคม และตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี 1. หมอที่ รพ.ปทุมเวช วินิจฉัยโรคไม่ตรงกับที่เป็น ทำให้ได้รับผลกระทบทางด้านร่างกายและจิตใจ เกิดความกลัว กังวลใจ ไม่มั่นใจในการรักษาที่นี่อีกต่อไป 2. การดำเนินการยืดเยื้อยาวนาน ทำให้ได้รับผลกระทบด้านร่างกายและจิตใจเกินกว่าเยียวยา และหมอไม่เอาใจใส่ในการรักษาผู้ป่วยจริงๆ จังๆ 3. ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเพิ่มกับการรักษาที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและครอบครัวที่ต้องแบกรับภาระที่เกิดจากการรักษา และ 4. ต้องการขอย้ายสิทธิประกันสังคมไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ทันที

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net