Skip to main content
sharethis
อัยการส่งฟ้อง 38 ผู้ชุมนุมอยากเลือกตั้งชุด UN62 ชุมนุมครบรอบ 4 ปี คสช. 5 ข้อหา ศาลนัดตรวจหลักฐานเช้า 20 ส.ค.นี้
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าเมื่อ 6 ก.ค. 2561 เวลา 9.30 น. ที่ศาลแขวงดุสิต พนักงานอัยการศาลแขวงดุสิตได้นัดหมายผู้ต้องหาในคดีชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และหน้าองค์การสหประชาชาติ ในช่วงกิจกรรมครบรอบ 4 ปี การรัฐประหาร เมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 61 หรือคดี “UN62” เพื่อสั่งฟ้องคดีต่อศาล
 
สำหรับการยื่นฟ้อง อัยการได้ฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดใน 5 ข้อหาหลัก ได้แก่
 
- ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
- ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 216 ไม่เลิกมั่วสุม เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก
- ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
- ข้อหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้แก่ กีดขวางทางเข้าออกสถานที่ราชการและสถานศึกษา ตามมาตรา 8 (1)(3), มีการชุมนุมระหว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุมฯ ตามมาตรา 11, ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ชุมนุม ตามมาตรา 16 (1)(4)(7)(9) และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามมาตรา 19
- ข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108 และ 114 เรื่องการเดินขบวนและวางสิ่งของกีดขวางการจราจร
 
อัยการยังได้บรรยายฟ้องถึงการชุมนุมเมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 61 ว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองซึ่งมีวัตถุประสงค์ปราศรัยแสดงความคิดเห็น ขับไล่และโจมตีการทำงานของรัฐบาลและคสช. เรียกร้องให้กองทัพเลิกสนับสนุนและเลิกปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล เรียกร้องให้ทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตนที่ชอบด้วยกฎหมาย และให้ทหารออกมายืนเคียงข้างกับผู้ชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลและคสช. ซึ่งเป็นการยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนและข้าราชการทหารเกิดความกระด้างกระเดื่อง
 
อัยการได้บรรยายฟ้องโดยสรุปถึงเหตุการณ์ชุมนุมพร้อมระบุว่าจำเลยทั้ง 38 ไม่ได้รับอนุญาตให้ชุมนุมทางการเมืองจากหัวหน้าคสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย มีการเคลื่อนย้ายการชุมนุมก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุม และทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน กีดขวางทางเข้าออกสถานที่ทำการพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ และสถานศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กีดขวางการจราจาร และได้บังอาจร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยร่วมกันใช้รถยนต์ขับขี่เข้าชนแนวแผงเหล็ก ร่วมกันใช้มือยื้อยุดฉุดกระชากและผลักแนวแผงเหล็กได้รับความเสียหาย เจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายนาย และเมื่อเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะได้ออกคำสั่งให้เลิก จำเลยทั้ง 38 คนไม่ยอมเลิกการชุมนุม อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
 
ศาลแขวงดุสิตได้รับฟ้องคดีนี้ไว้ จำเลยทั้งหมดจึงได้ถูกนำตัวเข้าไปยังห้องขังใต้ถุนศาล เพื่อรอการพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว ก่อนที่เวลาประมาณ 12.25 น. ศาลแขวงดุสิตจะอนุญาตให้ปล่อยตัวจำเลยทั้ง 38 คน โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกัน เนื่องจากจำเลยทั้งหมดมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี ศาลแขวงดุสิตได้กำหนดวันนัดพร้อมคดีต่อไปในวันที่ 20 ส.ค 25.61 เวลา 9.00 น.
 
สำหรับคดีนี้มี พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานด้านกฎหมายของ คสช. เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจาก คสช. เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวน 41 ราย และผู้ที่ถูกออกหมายเรียกได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 61
 
ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนได้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีในส่วนของนายชเนศ ชาญโลหะ คนเสื้อแดงในจังหวัดระยองและเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งให้การตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมทั้งสองวันดังกล่าวแต่อย่างใด แต่กลับถูกแจ้งความดำเนินคดี
 
ส่วนผู้ถูกออกหมายเรียกอีก 1 ราย ได้แก่ น.ส.อาอิซะห์ เสาะหมาน ไม่ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกันกับผู้ถูกออกหมายเรียกคนอื่นๆ จนถึงปัจจุบัน ทำให้ต่อมาพนักงานสอบสวนได้มีการขออำนาจศาลในการออกหมายจับแล้ว
 
หากนับตั้งแต่วันแจ้งข้อกล่าวหาจนถึงการสั่งฟ้องของอัยการในวันนี้เป็นเวลา 1 เดือนพอดี โดยที่อัยการเพิ่งได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา
 
ทั้งนี้ จำเลยหนึ่งรายในคดีนี้ คือนางสาวนีรนุช เนียมทรัพย์ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แม้จะให้การยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ชุมนุมตามที่ถูกกล่าวหา แต่ไปปฏิบัติหน้าที่เก็บข้อมูลและสังเกตการณ์การชุมนุมในฐานะเจ้าหน้าที่ของศูนย์ทนายฯ โดยในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ผู้ต้องหาได้มีการแขวนบัตรและสวมเสื้อเจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายฯ เพื่อแสดงตัวตามปกติของการปฏิบัติงานแล้ว แต่ก็ยังมีการสั่งฟ้องจำเลยรายนี้ในที่สุด
 
แก้ไขเนื้อหาเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2561 เวลา 18.00 น.

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net