Skip to main content
sharethis

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์แถลงขออภัยกรณีนำเสนอเสียงจากสัญญาณวิทยุสื่อสาร ในระหว่างภารกิจช่วยเหลือ ทีมหมูป่าอะคาเดมี พร้อมแจงไม่เคยดักฟังวิทยุสื่อสารของราชการอย่างที่มีผู้กล่าวอ้าง เสียงที่ปรากฎในข่าวมาจากวิทยุเครือข่ายเครื่องสีแดงที่ประชาชนฟังได้ทั่วไป 

9 ก.ค.2561 เมื่อเวลา 11.43 น. เฟสบุ๊คแฟนเพจ 'Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์' ออกแถลงคำขอโทษจากทีมข่าวเวิร์คพอยท์กรณีนำเสนอเสียงจากสัญญาณวิทยุสื่อสาร ในระหว่างภารกิจช่วยเหลือ ทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

รายละเอียดคำแถลงของ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ระบุว่า

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ขออภัยกรณีนำเสนอเสียงที่ได้มาจากสัญญาณวิทยุสื่อสาร ในรายการข่าว

กรณีรายการข่าวเวิร์คพอยท์ เช้าวันที่ 9 ก.ค.2561 ได้มีการนำเสนอเสียงจากสัญญาณวิทยุสื่อสาร ในระหว่างภารกิจช่วยเหลือ 13 นักเตะ
.
เบื้องต้นเราขออธิบายและขออภัย
.
1. ทีมข่าวไม่เคยดักฟังวิทยุหรือการสื่อสารของราชการอย่างที่มีผู้กล่าวอ้าง เสียงที่ปรากฎในข่าวมาจากวิทยุเครือข่ายเครื่องสีแดงที่ประชาชนฟังได้ทั่วไป รวมทั้ง ถ่ายทอดผ่านแอพพลิเคชั่น Zello โดยผู้พูดคืออาจารย์พลสิงห์ แสนสุข ประธานศูนย์พญาอินทรี ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลข่าวสาร(ว.8)ที่ประชาชนเข้าถึงได้ปกติ 

2. ข่าวดังกล่าวถูกนำเสนอ พร้อมกับการสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อสอบถามความถูกต้อง โดยช่องได้รายงานคำยืนยันของผู้ว่าว่าข้อมูลดังกล่าวคลาดเคลื่อนทันที การนำเสนอในโซเชียลมีเดียเฉพาะภาพเสียงจากวิทยุสื่อสารภาพเดียว แล้วระบุว่าเราดักฟังคลื่นราชการจึงเป็นการตัดตอนบริบทที่ทำให้สังคมเข้าใจข้อมูลไม่ครบถ้วนตามความเป็นจริง

3. เราขออภัยที่รีบเผยแพร่เสียงนี้ จนเกิดความไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ ที่มีความละเอียดอ่อน ทั้งในเชิงการทำงานของเจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับ 13 นักเตะ
.
เป็นความผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น หลังจากนี้เราจะเรียนรู้จากความผิดพลาดและปฏิบัติภารกิจนำเสนอข่าวและข้อมูล ช่วยเหลือน้องๆ นักเตะทีมหมูป่าด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่
.
ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ขออภัยต่อความไม่สบายใจของทุกท่านครับ

ขณะที่ กองบรรณาธิการข่าวพีพีทีวี เผยแพร่คำขอโทษ ต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไป กรณีที่มีภาพอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ขึ้นบินในช่วงเวลาเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในภารกิจลำเลียงผู้ประสบภัยถ้ำหลวงไปยังโรงพยาบาล 

พร้อมยืนยันด้วยว่า ทางกองบรรณาธิการฯ มิได้มีเจตนาฝ่าฝืนข้อพึงปฏิบัติในฐานะสื่อมวลชนที่ประจำการอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางกองบรรณาธิการฯ ขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขออภัยอย่างสูงหากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้เกิดผลกระทบใดๆ และยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

สอบสื่อดักฟัง-บินโดรน 

ไทยพีบีเอส รายงานด้วยว่า ณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนจังหวัดเชียงราย หรือ ศอร. ได้แถลงความคืบหน้าปฏิบัติการลำเลียงทีมหมูป่าออกจากถ้ำวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีการสแกนความถี่การสื่อสารในภารกิจลำเลียงทีมหมูป่าแล้วนำข้อมูลออกมาเผยแพร่ภายในกลุ่มสื่อมวลชน ทำให้เกิดความสับสนว่าจะมีการลำเลียงทีมหมูป่าออกมาจากถ้ำหลวง 6 คน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบว่าผู้กระทำการดังกล่าว มีการดำเนินการอย่างไร

ส่วนปัญหาอีกเรื่อง คือ มีผู้นำโดรนขึ้นบินขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ณรงศักดิ์ชี้แจงว่า การบินโดรนคือ การแทรกแซงกระบวนการทำงาน อาจทำให้เกิดความเสียหาย ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เรื่องนี้น่าเสียใจ ที่ขอความร่วมมือไปแต่ไม่ให้ความร่วมมือ แต่ก็เป็นส่วนน้อย โดยนักข่าวส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
 
ด้าน พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า การบินโดรนไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจลำเลียงทีมหมูป่า การไลฟ์สดหรือถ่ายทอดไปควบคู่กับการปฏิบัติงานจริงก็เช่นกัน
 
"ไม่ต้องถามว่าทำไมต้องห้าม ทำไมต้องขอร้อง การใช้โดรนแม้บินได้ไม่เกิน 90 เมตร แต่ที่ตรวจพบอยู่ในเส้นทางแนวการบิน จึงต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรงด ไม่ใช่ได้รับอนุญาตตั้งแต่วันแรกแล้วจะบินตรงไหนก็ได้” รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าว พร้อมระบุว่า ส่วนเรื่องการจูนความถี่ มีการใช้เทคนิควิธีพิเศษ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ หากใครเป็นผู้กระทำก็ขอให้เลิก ถ้าผิดกฎหมายชัดเจนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net