เตือนแรงงานไทยในไต้หวัน กลับประเทศ 'ปิดบัญชี-ซิมการ์ด'

เตือนแรงงานไทยในไต้ควรปิดบัญชีธนาคารเมื่อสิ้นสุดการจ้างงานและการต่อสัญญาจ้างเพื่อประโยชน์ในการรักษาสิทธิของตัวเองและป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ เมื่อสิ้นสุดการจ้างงานก่อนเดินทางกลับประเทศไทยให้ดำเนินการปิดบัญชีธนาคาร และนำสมุดบัญชีรวมทั้งซิมการ์ดโทรศัพท์ติดตัวกลับไปด้วย เพื่อป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ประโยชน์ผิดกฎหมาย


แรงงานไทยในไต้หวัน (แฟ้มภาพกระทรวงแรงงาน)

11 ก.ค. 2561 สำนักงานแรงงานไทยเมืองเกาสง-ไต้หวัน แจ้งเตือนแรงงานไทยที่ทำงานในไต้หวันว่าควรปิดบัญชีธนาคารเมื่อสิ้นสุดการจ้างงานและการต่อสัญญาจ้างเพื่อประโยชน์ในการรักษาสิทธิของตัวเองและป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ

ตามนโยบายคุ้มครองแรงงานต่างชาติของไต้หวัน 1. กระทรวงแรงงานไต้หวันมีนโยบายคุ้มครองแรงงานต่างชาติตามกฎหมายเช่นเดียวกับแรงงานท้องถิ่น ภายใต้แนวคิดว่าแรงงานต่างชาติมีคุณูปการทางด้านระบบเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมของไต้หวัน จึงพัฒนาปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองดูแลแรงงานต่างชาติให้มีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ มาตรฐานหอพักทั้งในสถานประกอบการและบนเรือประมง และบทลงโทษกรณีจ้างงานแบบผิดกฎหมาย เป็นต้น 2. กรณีสิ้นสุดการจ้างงาน ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยให้ดำเนินการปิดบัญชีธนาคาร และนำสมุดบัญชีรวมทั้งซิมการ์ดโทรศัพท์ติดตัวกลับไปด้วย เพื่อป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ประโยชน์ผิดกฎหมาย และ 3. กรณีที่ถูกเรียกรับค่าต่อสัญญาจ้าง สามารถเก็บหลักฐาน ภาพถ่าย หรืออัดเสียงพูดคุย เพื่อร้องทุกข์ต่อไปได้

อนึ่งในปี 2559 มีการ บังคับใช้ กม. แรงงานต่างชาติในไต้หวัน ครบสัญญา 3 ปีไม่ต้องเดินทางออกนอกประเทศแล้ว ต่อมาในปี 2560 ได้มีการออกประกาศ เรื่อง กฎหมายการจ้างงาน มาตรา 52 ฉบับแก้ไข ระบุว่าให้นายจ้างขอยื่นเอกสารต่อสัญญาจ้างแรงงานต่างชาติต่อกระทรวงแรงงานไต้หวันได้ทันทีโดยก่อนที่จะครบสัญญา 2-4 เดือน นายจ้างและลูกจ้างจะต้องตัดสินใจว่าจะต่อสัญญาใหม่หรือไม่หากต้องการต่อสัญญาใหม่ ให้นายจ้างยื่นคำร้องต่อศูนย์บริการจ้างตรงซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หลังได้รับอนุญาตแล้ว ให้นำใบอนุญาต ไปประกอบการยื่นขอต่ออายุใบถิ่นที่อยู่หรือ ARC ส่วนแรงงานหรือนายจ้างที่ไม่ประสงค์จะต่อสัญญาใหม่ แต่แรงงานยังต้องการทำงานกับนายจ้างรายใหม่ต่อไป ให้นายจ้างเดิมยื่นต่อศูนย์บริการจ้างตรงก่อนครบกำหนดสัญญา 2-4 เดือนเช่นกัน 

สำหรับแนวปฏิบัติในการตรวจรับรองเอกสารสัญญาจ้างแรงงานไทยดังนี้ 1. กรณีที่นายจ้างประสงค์ที่จะจ้างแรงงานไทยรายเดิม ขอความร่วมมือให้ต่อสัญญาจ้างใหม่ในไต้หวันทันทีซึ่งสำนักแรงงาน ณ เมืองเกาสงพิจารณาเห็นว่า กรณีที่ส่งแรงงานไทยรายเดิมกลับไปต่อสัญญาจ้างที่ประเทศไทยเป็นการแสวงประโยชน์จากค่าบริการจัดหางานโดยไม่เป็นธรรม 2. กรณีที่แรงงานไทยขอโอนย้ายนายจ้างใหม่เมื่อได้รับอนุญาตแล้วนายจ้างใหม่ต้องนำเอกสารการจ้างแรงงานจำนวนสองชุดยื่นต่อสำนักแรงงานไทย ณ เมืองเกาสง ภายในเวลา 1 เดือน และ 3. กรณีที่แรงงานไทยขอกลับไปพักที่ประเทศไทยหลังนายจ้างได้ต่อสัญญาจ้างใหม่ในไต้หวันแล้ว ขอความร่วมมือให้บริษัทจัดหางานประชาสัมพันธ์ให้แรงงานไทยไปรายงานตัวที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง เพื่อขอต่ออายุบัตรสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ มิฉะนั้นด่านตรวจคนเข้าเมืองจะไม่อนุญาตให้เดินทางออกจากประเทศไทยกลับมาไต้หวันได้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท