Skip to main content
sharethis

กลุ่มจังหวัดอีสานใต้ 2 ชงของบประมาณ ครม.สัญจร  1.4 หมื่นล้าน หวังพัฒนาโครงสร้างคมนาคม โดยตั้งแต่ปี 60 จนถึงปัจจุบันประชุม ครม.สัญจร ไปแล้วหลายครั้ง อนุมัติงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดไปแล้วทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้าน

นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้ผักอินทรีย์เมืองเกษตรไร่ภูตะวัน ออร์แกนิคฟาร์ม บ้านหนองเม็ก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ 22 ก.ค. 2561 (ภาพจากคลังภาพเว็บไซต์รัฐบาลไทย)

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2561 กรมประชาสัมพันธ์ ระบุว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จะเกิดใน วันพรุ่งนี้(24 ก.ค.61) ที่ จ.อุบลราชธานี ทางคณะรัฐมนตรีจะมีวาระประชุมร่วมกับภาคเอกชนของ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาญเจริญ และยโสธร เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ร่วมกัน

โดยงบประมาณทั้งหมดที่จะมีการขออนุมัติทั้งหมดประมาณ 14,300 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนา 5 หมวดหลักคือ 1.โลจิสติกส์หรือการคมนาคม เช่น ขยายสนามบิน รถไฟทางคู่ 2.การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และแก้ปัญหาน้ำท่วม 3.ยกระดับการเป็นเกษตรอินทรีย์นำร่อง 4 จังหวัด โดยเฉพาะยโสธร และอำนาจเจริญ เน้นเกษตรปลอดภัยและลดรายจ่ายของ 4.พัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยง ทั้งศิลปวัฒนธรรมของภาคอีสานตอนล่าง 2 เชื่อมสามเหลี่ยมมรกตกับประเทศเพื่อนบ้าน และ5.ชูศักยภาพส่งเสริมเขตการค้าชายแดนให้เติบโต และพัฒนาสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 6 จากอุบลราชธานี-สาละวัน เชื่อมโยงการค้า และท่องเที่ยวกับเพื่อนบ้าน

สมชาติ พงคพาไกร ประธานหอการค้า จ.อุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์กับ PPTV ว่า ภาคเอกชน จะเสนอหลายโครงการที่สำคัญ ทั้งโครงการ ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ฝั่งตะวันออกให้ได้ก่อสร้างเป็นถนน 4 เลน ให้เร็วขึ้น โดยขอเร่งอนุมัติงบประมาณมาเป็นช่วงปี พ.ศ.2562-2563 จากเดิมที่จะก่อสร้างในช่วงปี พ.ศ.2564-2565 ซึ่งถือว่าเป็นงบประมาณก้อนโตที่สุด กว่า 13,000 ล้านบาท และมีความหวังว่าจะได้รับการอนุมัติในการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้

ส่วนอีกโครงการที่จะถูกเสนอให้ ครม. คือ การของบประมาณในการสร้างลานจอดเครื่องบิน เพิ่ม 5 ลาน ประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับบริการผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ภาคเอกชนหวังให้รัฐบาลเลื่อนอนุมติงบประมาณให้เร็วขึ้น จากที่จะอนุมัติ ปี พ.ศ. 2565-2567 ก็ขอเลื่อนมาเป็น พ.ศ. 2562-2563 เพื่อเร่งลดปัญหาการดีเลย์ของไฟล์บิน ในช่วงเวลาเร่งด่วนและ ยังมีโครงการโรงงานต้นแบบ หรือ Pilot Plant  ระยะที่2 ที่เป็นโครงการสร้างนโยบายการตลาดนำการผลิตให้เกษตรกรในพื้นที่ ได้ยกระดับสินค้าและคุณภาพชีวิตได้ด้วยเทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม ขอในงบประมาณ 300 ล้านบาท รวมถึง โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 และโครงการอื่นๆ ราว 500 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ ที่กลุ่มเอกชน เตรียมเสนอที่ประชุมครม. เพื่อพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้  ทั้ง  การขยายเส้นทางรถไฟรางคู่ จากสถานีอำเภอวารินชำราบ ไปยังช่องเม็ก เชื่อมโยง สปป.ลาว การขอถนนทางเข้าท่ากาศยานอุบลราชธานี ทางทิศใต้ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 6 ที่ อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี  และ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือตองล่าง 2 รวมถึง ความพยายามในการผลักดัน จ.อำนาญเจริญ ให้เป็นเมืองสมุนไพร และ ยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการรักษาพยาบาล ด้วยการขอขยายพื้นที่ของโรงพยาบาลศูนย์อุบลราชธานีอีก 280 ไร่

สำหรับการประชุม ครม. สัญจรในรัฐบาล คสช. ในช่วงที่ผ่านมีแล้วทั้งหมด 10 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 ในปี 2558 มีการประชุมนอกสถานที่ 2 ครั้ง(ไม่มีการอนุมัติงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ในการประชุม) ปี 2559 ไม่มีการประชุมเกิดขึ้นเลย แต่ในปี 2560 (ปีที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ) พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกิดข้องจัดเตรียมการดำเนินการเพื่อประชุม ครม. สัญจรอีกครั้ง โดยตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบันมีการประชุมไปแล้วทั้งหมด 8 ครั้ง มีการอนุมัติงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดไปแล้วทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net