Skip to main content
sharethis

ทีมสาธารณสุขอังกฤษคืนเหรียญเชิดชูวีรกรรมยับยั้งอีโบลาระบาดเพื่อประท้วงรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่กีดกันผู้อพยพไร้ใบอนุญาต-คนอยู่เกินวีซ่าจากบริการสาธารณสุข หนึ่งในทีมคืนเหรียญระบุ ระบบสวัสดิการกลายสภาพเป็น ตม. ไร้มนุษยธรรม ผู้ลี้ภัยสมัยนาซีเผย นโยบายกระทบการมีชีวิตรอดของผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย และกลุ่มคนด้อยโอกาส

ภาพทีมสาธารณสุขสหราชอาณาจักรระหว่างภารกิจยับยั้งโรคอีโบลาในประเทศเซียร์รา ลีโอน (ที่มา: Flickr/ Simon Davis/DFID

24 ก.ค. 2561 ทีมงานด้านสาธารณสุข 20 คนผู้ที่เคยได้รับเหรียญตราเกียรติยศจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรจากผลงานการช่วยรับมือการระบาดของโรคอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ประท้วงรัฐบาลด้วยการคืนเหรียญตรา พร้อมทั้งยื่นจดหมายให้กับรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ โดยระบุถึงความไม่พอใจนโยบายผู้อพยพที่ "ไม่เป็นมิตร" และ "น่าเศร้าและน่าอับอายอย่างหนัก" จากการปฏิเสธไม่ให้ผู้อพยพที่ยังไม่มีเอกสารอนุญาตสามารถเข้าถึงสวัสดิการของบริการสาธารณสุขอังกฤษ (NHS) ซี่งทำให้มีผู้ทนทุกข์ทรมานความเจ็บป่วยและผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร

เดอะการ์เดียนรายงานถึงสถานการณ์สวัสดิการสุขภาพในอังกฤษว่า นับตั้งแต่ปี 2557 ที่เมย์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย (Home Secretary) ระบบสวัสดิการของ NHS ก็มีการตรวจคัดกรองคนไข้ที่เคร่งมาก และกับผู้อพยพซึ่งมักจะเป็นคนที่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองก็ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าจำนวนมหาศาลถึงจะได้รับการรักษา แต่ระบบที่เคร่งก็แล้วก็มีการทำให้เคร่งครัดขึ้นกว่าเดิมในปี 2560 หลังจากที่เมย์เป็นนายกรัฐมนตรี

มีการยกตัวอย่างกรณีที่สื่ออังกฤษเคยรายงานไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาคือกรณีของ อัลเบิร์ต ทอมป์สัน คนที่เกิดในแถบแคริบเบียนแต่ใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักรมากว่า 44 ปีถูกสั่งให้ต้องจ่ายเงินมากถึง 54,000 ปอนด์ (ราว 2.3 ล้านบาท) ก่อนถึงจะเข้ารับการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากได้

นีล รัสเซลล์ กุมารแพทย์ที่คืนเหรียญเพื่อประท้วงบอกว่าระบบการคัดกรองและการตั้งราคาสูงเช่นนี้เป็นสิ่งที่ "ไร้มนุษยธรรม" ถือเป็นการทรยศต่อหลักการดั้งเดิมของ NHS ที่ต้องการให้คนไข้ที่ต้องการการรักษาเข้าถึงบริการสุขภาพได้ฟรี แต่ระบบคัดกรองเช่นนี้ทำให้เกิดปัญหาเพราะคนไข้บางรายมีอาการทรุดหนักมาก บางคนก็เสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการรักษาเพียงเพราะพวกเขาถูกคัดกรองออกไปเป็นคนที่จะไม่ได้รับสวัสดิการและควรต้องจ่ายเงินก่อนล่วงหน้า

"นโยบายเหล่านี้ช่างไร้ศีลธรรมและไร้มนุษยธรรม พวกเขาปฏิเสธไม่ให้สวัสดิการสุขภาพที่จะช่วยชีวิตคนได้ ผมเคยได้ทราบถึงกรณีที่คนไข้ติดเชื้อรวมถึงเชื้อวัณโรคถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงสวัสดิการ ต่อมาพวกเขาก็เสียชีวิต" รัสเซลล์กล่าว

"เมื่อตอนที่พวกเราได้รับเหรียญเกียรติยศในปี 2558 พวกเรารู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นตัวแทนของอังกฤษและ NHS และรู้สึกภูมิใจที่รัฐบาลอังกฤษช่วยเหลือบรรเทาทุกข์อีโบลาในแอฟริกาตะวันตกเมื่อปี 2557-2558 ...แต่ 4 ปีต่อมา พวกเราก็เริ่มมองเห็นว่าขณะที่ด้านหนึ่งพวกเขามีส่วนร่วมกับการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรม อีกด้านหนึ่งพวกเขาก็วางแนวทางนโยบายในแบบที่ปฏิเสธไม่ให้สวัสดิการสุขภาพกับประชาชน" รัสเซลล์กล่าว

รัสเซลล์ยังเล่าถึงอีกกรณีหนึ่งที่ส่งผลต่อเด็กในครรภ์ด้วย จากการที่มีแม่รายหนึ่งถูกปฏิเสธไม่ให้เข้ารับการดูแลผดุงครรภ์เพราะไม่มีเงินจ่าย จนทำให้เธอเกิดภาวะแทรกซ้อนในตอนคลอดลูก ทำให้ลูกทารกของเธอตอนนี้มีสุขภาพย่ำแย่

รัสเซลล์บอกอีกว่านโยบายรัฐเช่นนี้ยังบีบให้พนักงานของ NHS กลายเป็น "เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง" และสร้างบรรยากาศของความกลัวไม่ให้คนเข้าถึงสวัสดิการ NHS ได้ ซึ่งไม่ได้กระทบแต่กับผู้ลี้ภัยเท่านั้น แม้แต่คนที่อาศัยในสหราชอาณาจักรเป็นเวลานานทั้งจากการทำงาน การเป็นนักวิชาการ หรือการเป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่นานเกินวีซ่า ก็ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงสวัสดิการเช่นกัน

หนึ่งในผู้ที่แสดงการสนับสนุนการประท้วงในครั้งนี้คือลอร์ด ดับส์ นักรณรงค์ทางมนุษยธรรมผู้ที่เคยหนีตายจากนาซีเยอรมันเข้าสู่อังกฤษตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยบอกว่านโยบายเช่นนี้จะกีดกันทั้งผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย และผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ ในการเข้าถึงสวัสดิการที่จะช่วยให้พวกเขามีชีวิตรอด

อีกคนหนึ่งที่วิจารณ์นโยบานกีดกันการเข้าถึงสวัสดิการคือแอนนา มิลเลอร์ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายและการรณรงค์ของหน่วยงานดอกเตอร์ออฟเดอะเวิร์ล ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสวัสดิการสุขภาพฟรี กล่าวว่านโยบายกีดกันของรัฐบาลอังกฤษไม่ได้ทำให้ NHS ประหยัดเงินมากขึ้น และการประท้วงของหมอกับพยาบาลเป็นสิทธิที่พวกเขาทำได้ในแง่ของการได้พูดถึงปัญหาผลกระทบต่อคนไข้ที่ถูกปฏิเสธการรักษาไม่ว่าจะเป็นคนไข้มะเร็ง คนไข้ผ่าตัดหัวใจ คนไข้ที่ต้องรักษาด้วยการประคับประคองอาการ รวมไปถึงคนที่ตั้งครรภ์

เรียบเรียงจาก

Ebola heroes to protest over migrants being denied NHS healthcare, The Guardian, Jul 23, 2018

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net