Skip to main content
sharethis

พรรคภูมิใจไทย เสนอพักชำระหนี้ กยศ. 5 ปี เพื่อต่อลมหายใจให้กับประชาชนที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ย้ำการพักชำระหนี้ไม่ได้ยกหนี้ให้ เพียงแต่พักการใช้หนี้ไว้ก่อน รองเลขาฯ พรรคชี้ปัญหาไม่ใช่วินัยการใช้เงิน แต่รัฐไม่หนุนศึกษาไปจนสุดทาง

ด้านขวา ศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (แฟ้มภาพประชาไท)

27 ก.ค.2561 จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลัง วิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ถูกยึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด ซึ่งเป็นผลจากการค้ำประกันหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้กับนักเรียน แต่ ลูกศิษย์จำนวน 23 ราย ไม่ชำระหนี้เงินกู้ให้กับ กยศ. โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เพ็ญรวี มาแสง ผู้อำนวยการกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี กล่าวถึงผลการไกล่เกลี่ยในเบื้องต้นได้ข้อตกลงร่วมกันว่า กยศ. จะระงับการบังคับคดี และขายทอดตลาดในเดือน ส.ค. นี้ไว้ชั่วคราว เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายเพิ่มความเข้มข้นในการติดตามตัว และทรัพย์ของลูกหนี้ รวมถึงผู้ค้ำประกันรายอื่น ที่มีความสัมพันธ์เป็นญาติหรือผู้ปกครองของลูกหนี ทั้งนี้เพื่อรวบรวมทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด ก่อนนำมาหักกับส่วนที่ครูเป็นผู้ค้ำประกัน และกรณีที่มีการผ่อนชำระหนี้ต้องหักลบหนี้ในส่วนของผู้ค้ำประกันออกก่อน

วันนี้ (27 ก.ค.61) สื่อหลายสำนักรายงานตรงกัน โดยไทยโพสต์รายงานโดยละเอียดว่า ศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผย ถึงกรณีการบริหาร กยศ. ที่เกิดปัญหาขณะนี้ ว่า เป็นปัญหามานานแล้ว เรื่องดังกล่าวทางพรรคภูมิใจไทยเคยหารือกันบ้าง และได้เสนอแนวทางแก้หนี้ กยศ.มาตั้งแต่ปี 2557 จากข้อมูล กยศ. มีจำนวนลูกหนี้สะสมทั้งสิ้น 5.4 ล้านคน มูลหนี้รวมทั้งหมดกว่า 5.7 แสนล้านบาทเอาเฉพาะปีนี้ กยศ. มีลูกหนี้ที่ต้องชำระคืน ประมาณ 3.5 ล้านคน มูลค่าหนี้รวมประมาณ 4 แสนล้านบาท และ 2.5 ล้านคนกำลังจะโดนฟ้อง 

ทาง กยศ. มีศักยภาพในการฟ้องร้องต่อปีที่ 100,000 คน ซึ่งกำลังกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต เพราะ กยศ.ต้องเสียค่าจ้างทนายความในการดำเนินคดี ที่ 10,000 บาทต่อคดี คืองบระมาณที่เสียไปกับการจ้างทนาย ชัดเจนว่าบริษัทกฎหมายได้กำไร แต่ยังไม่รู้ว่าจะตามหนี้กลับมาได้แค่ไหน

“ที่คนเหล่านี้ต้องมากู้ เพราะระบบการศึกษาไทย มันดูแลไม่ครอบคลุมทั่วถึง สังคมคาดหวังให้เด็กเรียนต่อถึงระดับปริญญาตรี แต่รัฐสนับสนุนให้เรียนฟรีเพียง 15 ปี หรือแค่จบมัธยม หลังจากนั้นเด็กต้องหาเงินเรียนเอง เมื่อไม่มีเงินก็จำเป็นที่จะต้องกู้เงินมาเรียน ส่งผลให้เกิดปัญหาเช่นในปัจจุบัน ดังนั้นรัฐควรที่จะทำนโยบายให้โอกาสทางการศึกษา ขยายการเรียนฟรี ไปต่อจนจบปริญญาตรีได้หรือไม่ ซึ่งทางพรรคกำลังทำนโยบายในการสนับสนุนการศึกษาอย่างเต็มที่ เพราะสุดท้ายเด็กที่เรียนจบปริญญาตรีก็จะทำงานและจ่ายภาษีคืนแก่ประเทศชาติอยู่แล้ว”  รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าว

ศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาหนี้ กยศ. ในปัจจุบัน ทางพรรคภูมิใจไทย มีแนวคิดในการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี เพื่อต่อลมหายใจให้กับประชาชนที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย การพักชำระหนี้ไม่ได้ยกหนี้ให้ เพียงแต่พักการใช้หนี้ไว้ก่อน ระหว่างนั้นค่อยมาตกลงในรูปแบบของเงื่อนไขการจ่ายหนี้ ที่สำคัญการดำเนินนโยบายดังกล่าว สามารถช่วยประหยัดงบประมาณในการฟ้องร้องลูกหนี้จำนวน 2.5 ล้านราย คิดเป็นงบกว่า 20,000 ล้านบาท และจะเป็นการต่อลมหายใจให้กับประชาชนด้วย     

“คนมีหนี้พยายามใช้หนี้ทุกคน เพียงแต่สภาพเศรษฐกิจยังไม่ดีเท่าที่ควร ต้องแก้ตามระบบ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน รวมทั้งรัฐต้องเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งทางภาครัฐจำเป็นที่จะต้องหามาตรการในการต่อยอดการศึกษาโดยที่เด็กนักศึกษาไม่ต้องเป็นหนี้ทันทีที่จบมา ปัญหาของกองทุน กยศ. ไม่ใช่เป็นเรื่องของวินัยการใช้เงิน แต่เป็นปัญหาที่รัฐไม่สนับสนุนการศึกษาไปจนสุดทาง รัฐจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดงานงบประมาณที่เหมาะสม หางบประมาณมาสนับสนุนการศึกษาให้กับเยาวชนมากขึ้น เพราะหากเราสนับสนุนการศึกษาอย่างเต็มที่ก็จะสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพ ไว้พัฒนาประเทศ ทางพรรคภูมิใจไทยเชื่อเช่นนั้น” ศุภชัย กล่าว

โดยเมื่อการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 พรรคภูมิใจไทย ชูนโยบายหลัก 4 ข้อ โดย 1 ในนั้นคือ  การยก กยศ.  ซึ่งพรรคพร้อมที่จะประกาศยกหนี้ให้เยาวชนได้ออกมาทำงานด้วยความพร้อม ไร้ภาระในวันแรกที่จบการศึกษา แต่จะต้องทำงานโดยแสดงใบประจำตัวผู้เสียภาษีเพื่อที่ในระบบจะได้ตัดหนี้ให้ทันที ส่วนเยาวชนรุ่นต่อไป กองทุนการศึกษาจะเตรียมงบประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาทต่อปี เพื่อให้ได้เรียนฟรี ซึ่งยืนยันว่านโยบายดังกล่าวพรรคมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา พร้อมที่จะยกหนี้ให้เยาวชนตั้งแต่วันแรกของการจบการศึกษา ขณะที่รุ่นต่อไปต้องได้เรียนฟรีเยาวชนต้องได้รับโอกาส แล้วเขาจะสำนึกตอบแทนประเทศชาติ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net