ภาพการประท้วงเมื่อเดือน ก.ค. 2561 ทั้งนี้ในอิสราเอลมีเหตุการณ์ความรุนแรงต่อบุคลากรทางสาธารณสุขมากกว่า 3,000 รายต่อปี (ที่มาภาพ: Hadassah Ein Karem Hospital)

เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา สหภาพแรงงานพยาบาลอิสราเอลได้ทำการนัดหยุดงานประท้วง เนื่องจากความล้มเหลวของรัฐบาลอิสราเอลในการป้องกันความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อบุคคลากรสาธารณสุขในประเทศ

รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2560 ระบุว่ามีเหตุการณ์ความรุนแรงต่อบุคลากรทางสาธารณสุขมากกว่า 3,000 รายต่อปี มีเพียง 11% ของเหตุการณ์ที่เกิดถูกรายงานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกนำไปพิจารณาคดี

เมื่อเดือน มี.ค. 2560 มีเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนยิงพยาบาลในคลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งได้สร้างความหวาดกลัวให้กับคนทำงานด้านสาธารณสุขในประเทศเป็นอย่างมาก ต่อมาในเดือน ก.ค. 2561 พยาบาลวัย 65 ปี รายหนึ่งถูกแทงจนได้รับบาดเจ็บจากผู้ใช้บริการของโรงพยาบาล แม้กระทรวงสาธารณสุขจะประณามการโจมตีครั้งนั้น และสั่งการให้มีการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น แต่สหภาพแรงงานพยาบาลของอิสราเอลระบุว่ามันยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ หลังจากเหตุการณ์นั้น

อิยานา โคเฮน ประธานสหภาพแรงงานพยาบาลอิสราเอล ระบุว่าไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลอิสราเอลกำลังยืนอยู่ข้างหลังและเฝ้าดูสถานที่ดูแลสุขภาพของประชาชนกลายเป็นเขตสงคราม และจนกว่าจะมีการดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วง สหภาพแรงงานพยาบาลจะไม่ละทิ้งการต่อสู้ครั้งนี้

"ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้เตือนเกี่ยวกับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง" โคเฮน บอกกับเว็บไซต์ข่าว Ynet เมื่อเดือน ก.ค. 2561 "เราเตือนและแจ้งเตือนกระทรวงที่เกี่ยวข้อง แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะรับมือกับเรื่องนี้"

แปลและเรียบเรียงจาก
Nurses call strike over violence against medical staff (The Times Of Israel, 7/8/2018)