หากแรงงานไทยในอิสราเอลถูกสั่งทำงานกลางแจ้งที่ฉนวนกาซา สามารถร้องเรียนได้

คาฟลาโอเวด (Kavlaoved Agriculture) องค์กรช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล เตือนแรงงานไทยที่ทำงานใกล้ฉนวนกาซาติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และคอยฟังเสียงสัญญาณไซเรน หากมีคนงานในบริเวณใกล้เขตฉนวนกาซาที่ถูกสั่งออกไปทำงานในที่แจ้งสามารถร้องเรียนได้ (ที่มาภาพประกอบ: Nati Shohat/Flash 90)

หลังจากที่เมื่อต้นเดือน ส.ค. 2561 ที่ผ่านมาอิสราเอลกลับมาปิดล้อมเพื่อสกัดการขนส่งเชื้อเพลิงไปยังฉนวนกาซาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2561 ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมชาวปาเลสไตน์กับกองทัพอิสราเอลบริเวณพรมแดนฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย เป็นชาวปาเลสไตน์ ถูกกระสุนจากฝั่งอิสราเอลเข้าที่หน้าท้องเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน

และเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา องค์กรคาฟลาโอเวด (Kavlaoved Agriculture) ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลระบุว่าขอให้แรงงานไทยที่ทำงานใกล้ฉนวนกาซาติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และคอยฟังเสียงสัญญาณไซเรน ขณะนี้หน่วยงานด้านความปลอดภัยของอิสราเอลได้ประกาศให้แรงงานในพื้นที่เสี่ยงภัยหยุดทำงานและหลบในหลุมหลบภัยหรือในบริเวณปลอดภัย โดยที่แรงงานยังคงได้รับค่าแรงตามปกติ และเตือนให้แรงงานไทยระวังอย่าออกไปถ่ายรูปถ่ายคลิปตามจุดอันตราย ทั้งนี้หากมีคนงานในบริเวณใกล้เขตฉนวนกาซาที่ถูกสั่งออกไปทำงานในที่แจ้งสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนมายังกล่องข้อความในเฟสบุ๊คขององค์กรได้

 

 

คำแนะนำในการเตรียมตัวเมื่อได้ยินหวอเตือนภัย :

ในขณะที่ได้ยินหวอเตือนภัย หรือเสียงระเบิด จะต้องหลบภัยในทันที,
ตามความเหมาะสมกับเวลาที่เรามีอยู่ และ ปฎิบัติตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้ :

ผู้อยู่ในตึก- ให้เข้าไปในห้องหลบภัยที่มีอยู่ในที่พักอาศัยนั้น, ห้องหลบภัย หรือ ห้องที่อยู่ด้านในสุดของตึกที่มีความปลอดภัย, ตามความเหมาะสมกับเวลาที่เรามีอยู่, และปิดประตู และหน้าต่าง

ผู้อยู่ด้านนอก- ให้เข้าไปในตึกที่ใกล้ที่สุด , ตามความเหมาะสมกับเวลาที่เรามีอยู่ หากไม่มีตึกอยู่ใกล้ๆสถานที่นั้น, หรือหากอยู่กลางแจ้ง, ให้นอนราบลงกับพื้นและใช้มือทั้งสองข้างปิดป้องกันศรีษะไว้

ผู้ที่อยู่ในรถยนต์ – ให้หยุดข้างทาง, ออกจากตัวรถ และให้เข้าไปในตึก หรือ ที่กำบังที่อยู่ใกล้ตัว หากไม่สามารถที่จะไปถึงตึก หรือที่กำบังภายในเวลาที่เรามีอยู่ – ให้ออกจากรถ, นอนราบลงกับพื้นและใช้มือทั้งสองปิดศรีษะไว้ ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะออกจากรถยนต์ได้, ให้จอดข้างทางและรอ 10 นาที

- ผู้ที่อยู่อาศัย ที่อยู่ชั้นบนสุดของตึก ซึ่งอยู่ในตึกจากชั้นที่สามขึ้นไปในตึกนั้น โดยไม่มี ห้องหลบภัย หรือ ที่หลบภัยด้านในอยู่ภายในตึกนั้น ให้ลงมาสองชั้น

- ผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ชั้นบนสุดของตึก ซึ่งมีสามชั้น และในตึกที่ไม่มี ห้องหลบภัยหรือ สถานที่หลบภัยด้านในอยู่ภายในตึกนั้น ให้ลงมาหนึ่งชั้น

- ห้ามประชาชนทุกคน อยู่ทางเข้าของตึก, เพื่อป้องกันการเสี่ยงต่อการได้รับสะเก็ด และแรงระเบิด อันเนื่องมาจากระเบิดที่ตกข้างๆ ตึกนั้น

- หากไม่มีการแจ้งการเปลี่ยนแปลงใดๆ – ให้ออกจากที่หลบภัยได้หลังจาก 10 นาที

- สิ่งที่สำคัญ จะต้องออกห่างจากวัตถุที่มีลักษณะแปลก หรือ ลูกระเบิดที่วางอยู่บนพื้นดิน ในกรณีนี้, ให้กันผู้อยากรู้เห็นออกไป และโทรแจ้งตำรวจให้ทราบ

- จะต้องคอยติดตามฟังการแจ้งความคืบหน้าจากทางการสื่อสารอยู่เรื่อยไป

(องค์กรคาฟลาโอเวดแปลจากแหล่งข้อมูลจากศูนย์ควบคุมความปลอดภัยในประเทศอิสราเอล)

เผยในกลุ่มแรงงานไทยในอิสราเอล มีแรงงานไทยบาดเจ็บ 2 รายจากการโจมตี

 

9 ก.ค. 2561 เวลาประมาณ 13.00 น. ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Joy Young ได้โพสต์ลงใน กลุ่มเฟสบุ๊คแรงงานไทยภายใต้โครงการร่วมมือไทย-อิสราเอล (TIC) ระบุว่า "จากเหตุการณ์ที่ปาเลสไตน์ยิงเข้ามาเขตภาคใต้ของอิสราเอลหนักมากตั้งแต่เมื่อวาน จนถึงตอนนี้ ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่ามีคนงานไทยถูกสะเก็ดระเบิดสองราย เป็นคนงานชายหนึ่งคน อาการไม่หนักมาก อีกคนเป็นคนงานหญิง ทราบเบื้องต้นจากเพื่อนสมาชิกที่อยู่ใกล้เขตนั้นว่าชื่อคุณจันทร์เพ็ญ (ศิริสกุล) แซ่จาว อายุ 30 ปี จากจังหวัดพะเยา ถูกสะเก็ดระเบิด อาการสาหัส ขณะนี้อยู่ในห้องผ่าตัด รพ.โซโรกา เบเชฟ ว่าเป็นข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้น หากสมาชิกมีข้อมูลอื่นก็แจ้งมาที่คอมเม้นต์ได้ค่ะ"

สถานทูตรุดเยี่ยม 2 คนงานไทยในอิสราเอล หลังจรวดลงหน้าบ้าน-เจ็บสาหัส

 

เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่า น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงรายงานข่าวที่หญิงไทยบาดเจ็บสาหัสจากกรณีมีการยิงจรวดจากฉนวนกาซาใส่ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2561 ว่าทางกระทรวงต่างประเทศได้รับรายงานเบื้องต้นจากทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟแล้ว โดยมีหญิงไทยบาดเจ็บรุนแรง 1 คน และชายไทยอีก 1 คนบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งสองเป็นคนงาน โดยขณะเกิดเหตุทราบว่าหญิงไทยรายนี้อยู่ที่บ้าน ทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ หากนั่งรถใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยทางอัครราชทูตที่ปรึกษาได้เดินทางไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลแล้ว ทั้งสองคนปลอดภัยดี ซึ่งฝ่ายหญิงมีอาการบาดเจ็บมากหน่อยแต่ตอนนี้สามารถพูดได้แล้ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่าหญิงไทยที่ได้รับบาดเจ็บคือ นส.จันทร์เพ็ญ แซ่จ๋าว อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดพะเยา แรงงานหญิง ได้ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ช่องท้อง ขณะกำลังอาบน้ำ เพื่อนร่วมงานแจ้งนายจ้างนำส่ง โรงพยาบาล Soroka Medical Center ขณะนี้ นส.จันทร์เพ็ญ ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว และอาการปลอดภัยดี ออกจากห้องผ่าตัดมาห้องพักฟื้น รู้สึกตัวพอสมควร และ อทป.ฝ่ายแรงงานได้ต่อโทรศัพท์ให้คุยกับบุตรสาวที่ประเทศไทย มีกำลังใจดีขึ้น

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเช้าวันที่ 9 ส.ค. 2561 เมื่อเวลา 05:30 น โดยจรวดที่ยิงมาจากฝั่งฉนวนกาซา ตกเข้ามายังหน้าที่พักคนงานไทยที่ Moshav Talmei ขณะคนงานส่วนใหญ่กำลังทำอาหารและอาบน้ำ ก่อนออกไปทำงาน และได้ยินสัญญานเตือนภัยดังขึ้นไม่ถึง 30 วินาที Moshav Talmei ห่างจากชายแดนฉนวนกาซา ประมาณ 7 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทลอาวีฟ 116 กิโลเมตร มีคนงานไทยทำงานประมาณ 250 คน และเป็นแรงงานไทยที่ทำงานที่สถานที่เกิดเหตุระเบิด ประมาณ 50 คน

สถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวี ได้ตรวจสอบความปลอดภัยของคนงานบริเวณโดยรอบ และนักศึกษาฝึกงานภายใต้โครงการ ของศูนย์ฝึกอบรมนานาชาติด้านการเกษตรในเขตอาราวา (Arava International Center for Agricultural Training - AICAT) จำนวน 90 คน ได้รับทราบว่าปลอดภัยดี รวมทั้งได้ออกประกาศเตือนคนไทยในพื้นที่แล้ว

ไฟไหม้ที่พักแรงงานไทยบริเวณภาคกลางของอิสราเอล

 

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2561 เว็บไซต์กระทรวงแรงงาน รายงานว่าพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้ที่พักคนงาน โมชาฟ Ahituv ซึ่งอยู่บริเวณภาคกลางของอิสราเอล เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบของฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะคนงานทำงานอยู่ในฟาร์มเกษตรใกล้กับที่พัก โดยได้เกิดไฟไหม้ที่พักคนงานซึ่งอยู่ภายในบริเวณโรงงานบรรจุของบริษัท จากการตรวจเยี่ยมที่พักคนงาน มีแรงงานไทยทำงานอยู่จำนวน 14 คน ไฟไหม้ห้องพักคนงานที่ทำจากตู้คอนเทนเนอร์ 1 หลัง ที่มีคนงานพักอาศัยอยู่รวม 6 คน ไฟไหม้สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวของคนงานทั้ง 6 คนเสียหายทั้งหมด แต่ไม่ได้ลุกลามไปยังห้องพักรายอื่น และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร จากการต่อพ่วงและเดินสายไฟเองของคนงาน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 200,000 บาท โดยนายจ้างไม่ประสงค์จะแจ้งความและเอาผิด หรือเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ จากคนงาน นายจ้างยังได้แจ้งฝ่ายแรงงานฯ ว่าจะรื้อถอนและจัดหาที่พักตู้คอนเทนเนอร์ใหม่มาทดแทนให้ภายใน 3 สัปดาห์ เบื้องต้น นายจ้างได้จัดหาที่พักชั่วคราวให้ พร้อมเสื้อผ้าและเครื่องใช้ที่จำเป็นให้คนงานทั้ง 6 คนแล้ว

แรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย เนื่องจากไหลตาย

 

ส่วนกรณีแรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย เนื่องจากไหลตายที่อิสราเอล เมื่อวันที่ 3 และ 5 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของฝ่ายแรงงานฯ จากเพื่อนร่วมงาน พบว่านายณัฐชัย ป้องเศร้า มีภูมิลำเนาจังหวัดนครพนม คนงานโมชาฟ Ometz (Amatz) เป็นฟาร์มปลูกและบรรจุดอกไม้ส่งต่างประเทศ นายณัฐชัยมีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก อีกรายไหลตายเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ทราบชื่อนายพรชัย พรมจันทร์ ภูมิลำเนาจังหวัดนครพนม คนงานโมชาฟ Mozar เป็นฟาร์มเลี้ยงลิงเพื่อการศึกษาและวิจัยของเอกชน จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเพื่อนร่วมงาน พบว่า สภาพที่ทำงานเป็นฟาร์มเลี้ยงลิงขนาดใหญ่ มีลิง 1,200 ตัว เพื่อนร่วมงานแจ้งว่า นายพรชัยมีนิสัยชอบเก็บตัว นอนกรนและสำลักบ่อย โดยขอออกไปนอนคนเดียวในที่พักคนงานหลังเก่าและเสียชีวิตในวันต่อมา

พล.ต.อ.อดุลย์ ได้สั่งการให้ฝ่ายแรงงานฯ กำชับกับแรงงานไทย ไม่ให้ดำเนินการต่อพ่วงหรือเดินสายไฟเองอีก รักษาความสะอาดบริเวณที่พักอาศัย ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย รับประทานอาหาร ให้ถูกสุขลักษณะ พักผ่อนให้เพียงพอ โดยฝ่ายแรงงานฯ จะเข้าไปติดตามตรวจเยี่ยมอีกครั้งเมื่อปรับปรุงที่พักใหม่เสร็จแล้ว ส่วนกรณีที่แรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย ได้สั่งการให้ฝ่ายแรงงานฯ เจรจาเรื่องเงินช่วยเหลือชดเชย ประสานญาติและผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการส่งศพกลับภูมิลำเนามาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

 

อัพเดทข้อมูลเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2561 เวลาประมาณ 23.00 น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท