Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ที่ผ่านมา มีข่าวนักเรียนฆ่าตัวตายบ่อยๆ ทั้งโดดตึก การฆ่าตัวตายเกิดจากความเศร้า  แต่แท้จริงแล้วควรปลูกฝังให้เด็กคิดใหม่ ชีวิตไม่ใช่ของเราคนเดียว ยังเป็นของประชาชน มีพันธกิจต่อชาติ

เฉพาะในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมาของปี 2561มีข่าวเด็กฆ่าตัวตาย 7 รายที่มีข่าวในสื่อ ได้แก่: 

18 มกราคม: หนุ่มม.5 ใช้ปืนพ่อยิงตัวตายคาศาลาโรงเรียน เหตุถูกแฟนสาวรุ่นพี่บอกเลิก [อ่าน]

21 มีนาคม: เพื่อนนร.แห่อาลัย! ม.1 น้อยใจผูกคอฆ่าตัวตาย ยังช็อกเล่านาทีครูตีไม่เรียวหัก [อ่าน

29 มีนาคม: ศิริราช แจง ไม่ได้ปิดข่าว นศ.แพทย์ฆ่าตัวตาย [อ่าน]

3 เมษายน: เด็ก ม.6 สอบติดมหาวิทยาลัยแม่ไม่มีเงินให้เรียนต่อ…เกิดอาการน้อยใจยิงหัวฆ่าตัวตาย [อ่าน]

27 เมษายน: สาว 16 เฟซบุ๊กไลฟ์ฆ่าตัวตายปมผิดหวังเรื่องความรัก [อ่าน]

2 พฤษภาคม: สลด ด.ช. 11 ขวบ ผูกคอคาห้องน้ำปั๊ม ซึมเศร้าหลังพ่อฆ่าตัวตาย [อ่าน]

10 สิงหาคม: แห่ไว้อาลัย “น้องโอม” เด็ก ม.6 โดดตึก เผยสาเหตุโดนล้อว่าอ้วน-เป็นโรคซึมเศร้า  [อ่าน]

นอกจากนี้ยังมีความพยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ เช่น 18 มกราคม: "นาทีเป็นนาทีตาย! เด็กชายวัย 13 ปี เครียดสาวไม่รับของขวัญ จะฆ่าตัวตาย" [อ่าน] และ 27 เมษายน: "เกลี้ยกล่อม ด.ญ.วัย 13 ขึ้นไปบนดาดฟ้ารพ. หวังฆ่าตัวตาย อ้างเครียดเรื่องทางบ้าน" [อ่าน]  ที่ผ่านมามีข่าวว่า "สลด! วัยรุ่นไทยฆ่าตัวตาย 170 คน/ปี สาเหตุหลักปัญหาหัวใจ" [อ่าน] หรือราวๆ วันเว้นวัน ส่วนในต่างประเทศก็มีข่าวเช่น "ผลวิจัยชี้วัยรุ่นมะกัน 1 ใน 25 พยายามฆ่าตัวตาย" [อ่าน]

สำหรับสาเหตุของการฆ่าตัวตายนั้น "ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ความขัดแย้งกับผู้อื่น เช่น ครอบครัว หรือเพื่อน เหตุกระตุ้นอื่นได้แก่ ปัญหาที่โรงเรียน การถูกอบรมสั่งสอนหรือลงโทษ การขาดเพื่อนหรือการถูกปฏิเสธไม่ยอมรับ หรือถูกทำให้เสียหน้า ปัญหาการติดยาเสพติดหรือเหล้า การถูกกระทำทารุณทั้งการถูกทำร้ายร่างกายและถูกล่วงเกินทางเพศ การสูญเสียบุคคลที่รัก. . .อย่างไรก็ตาม 1 ใน 3 ของวัยรุ่นที่พยายามฆ่าตัวตายไม่มีเหตุผลกระตุ้น ซึ่งมักจะพบในวัยรุ่นที่เป็นโรคซึมเศร้า. . .[อ่าน]  ดังนั้นสาเหตุส่วนใหญ่ของการฆ่าตัวตายคงไม่ใช่เพราะโรคซึมเศร้า  อย่างไรก็ตามการตายแบบนี้ถือเป็นการตายที่ไม่มีคุณค่า "เบาอย่างขนนก" หรือ "เบากว่าปุยนุ่น" ไม่ใช่ความตายที่ "หนักแผ่นดั่งขุนเขา หรือเป็นความตายที่มีฆ่าที่สละชีพเพื่อผู้อื่น เพื่อสังคม เพื่อชาติหรือมนุษยชาติ
 
การลดทอนจำนวนการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นจึงควรให้การศึกษาตั้งแต่แรกให้เห็นว่า การที่เราได้เรียนหนังสือมาจนถึงชั้นมัธยมศึกษาหรืออุดมศึกษานั้น เราเป็นหนี้ประชาชนคนเล็กคนน้อยอย่างมหาศาล  เรายังไม่ได้ทดแทนบุญคุณประชาชนเลย จะตายได้อย่างไร  ผมเคยทำการวิเคราะห์งบประมาณการศึกษาพบว่า จำนวนนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศ ณ ปี 2556 มีถึง 13,606,743 คน ในแต่ละปีรัฐบาลใช้จ่ายเงินเพื่อการศึกษาเป็นจำนวนมาก เช่น จากข้อมูลของสำนักงบประมาณ งบประมาณด้านการศึกษาในปี 2556 คิดเป็นเงินถึง 493,892 ล้านบาท โดยนัยนี้ นักเรียนนักศึกษาคนหนึ่งใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเพื่อการศึกษาเป็นเงินถึง 36,298 บาท  ถ้าเรียนมา 10 ปีก่อนฆ่าตัวตายก็เป็นเงินประมาณ 362,980 บาท [13]

หนี้บุญคุณประชาชนนี้มาจากประชาชนคนเล็กคนน้อยเป็นสำคัญ ภาษีส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากบริษัทห้างร้านหรือประชาชนผู้เสียภาษีทางตรงนั้น  นั่นเป็นความเข้าใจผิด จากยอดรายได้ของประเทศไทยทั้งหมดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 จำนวน 2,571,421 ล้านบาท ภาษีนิติบุคคลเก็บได้เพียง 23% ของภาษีทั้งหมด ส่วนภาษีบุคคลธรรมดามีเพียง 12% เท่านั้น รายได้อันดับหนึ่งของประเทศมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 27%. . . อาจกล่าวได้ว่า ประชาชนทั่วประเทศส่วนใหญ่เสียภาษีทางอ้อมต่าง ๆ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีปิโตรเลียม ภาษีสรรพสามิต ฯลฯ ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศซึ่งไม่ใช่คนร่ำรวยแต่เป็นคนธรรมดาจำนวนหลายสิบล้านคน จึงเสียภาษีมากกว่าบุคคลธรรมดาที่ร่ำรวย

โดยนัยนี้ ผู้ที่มีบุญคุณต่อนักเรียนนักศึกษามากที่สุดก็คือประชาชนคนเล็กคนน้อยที่เสียภาษีผ่าน VAT และอื่น ๆ มากกว่าคหบดีที่อ้างตนว่าเสียภาษีทางตรงเฉพาะรายสูงกว่าประชาชนทั่วไป ดังนั้นเป้าหมายการศึกษาของเราจึงควรมุ่งไปที่การรับใช้ประชาชน อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน แนวคิดการศึกษาเพื่อรับใช้ประชาชนนั้น แทบไม่เคยมีใครสอนในสถาบันการศึกษา  เราต้องมีหลักยึดที่การทำดีต่อชาติและประชาชน มุ่งสร้างสรรค์ให้ดี 

ถ้าเรามีจิตสำนึกที่ยิ่งใหญ่เพื่อชาติและประชาชน เราก็จะไม่เป็นพวกที่ดูแต่ตัวเอง (Self-centredness) หรือหลงไหลได้ปลื้มกับความสุขสนุกสนานชั่วแล่น (Hedonism) และกลายเป็นคนที่ "พอถูกตะปูตำเท้าตัวเดียว ก็ (เจ็บปวดนึกถึงแต่ตนเอง) จนลืมโลกไปได้ทั้งโลก" โอกาสที่จะฆ่าตัวตายก็จะน้อยลง  เพราะเรายังไม่ได้ทดแทนบุญคุณของประเทศชาติและประชาชนเลย

ในท้ายนี้ขอมอบเพลง 'ความตาย' ซึ่งเป็นคำร้องของ "จิ้น กรรมาชน" และขับร้องโดย "ตี้ กรรมาชน" ที่มีใจความว่า:

ชีวิตคนนั้นมีมาก แต่เป็นคนยากหนักหนา
ตายเพื่อประชา หนักกว่าภูผา ชีวาสูงค่า
มวลประชา เทิดไว้ความดี

แต่บางคน ใจอำมหิต กดขี่คน ขูดรีดประชา
ตายอย่างขนนก เบากว่าแรงใด ชีวาไร้ค่า
ปวงประชา จะเอาขึ้นศาลลงทันฑ์

ความตาย...อย่างมีค่า 
ความตาย...หนักกว่าภูผา 
ชีวา...ยอมสละ..เพื่อมวลชน

คลิปเพลง: https://www.youtube.com/watch?v=ytqHFDSh_dw&app=desktop

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net