กกต.เปิดโรดแมป คาดได้ ส.ว. 22 ม.ค. 2562 ประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส. 4 ม.ค. 2562 เลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562 ชี้ไม่ใช่หน้าที่ กกต.ตอบ เดินหน้า-ยกเลิก 'ไพรมารีโหวต' หรือไม่

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2561 มติชนออนไลน์ รายงานว่าที่โรงแรมพินนาเคิลแกรนด์ จอมเทียน รีสอร์ท ชลบุรี นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำเสนอร่างแผนปฏิบัติการตามภารกิจการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และภารกิจการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า หากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.มีผลบังคับใช้ ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 13 กั.ย. 2561 จะมีผลทันทีในวันที่ 14 ก.ย. 2561 จึงมีการเตรียมการเรื่องบัตร คูหาเลือกตั้ง โดยรูปแบบบัตรไม่เป็นปัญหามากเหมือน ส.ส.โดยจะหาผู้ดำเนินการจัดพิมพ์ระหว่าง พ.ย. 2561 และจัดพิมพ์ ธ.ค. 2561 พร้อมกันนี้จะมีการออกระเบียบต่างๆ เพื่อรับสมัคร ส.ว.จากนั้นเมื่อพระราชกฤษฎีกา ส.ว.ออกมา กกต.กับ ครม.จะประสานกันเรื่องวันเวลาในการเลือก ส.ว.จะไม่เหมือน ส.ส.เพราะจะต้องเลือก 3 วัน คือในระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ พร้อมกันทั่วประเทศ อาจจะมีการประกาศผลการได้มาซึ่ง ส.ว.ในวันที่ 22 ม.ค. 2562

นายณัฏฐ์กล่าวอีกว่า ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.คาดว่าจะมีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 4 ม.ค. 2562 จะเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562 จะต้องจัดหาผู้ดำเนินการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2562 ส่งบัตรล็อตแรกนอกราชอาณาจักร จากนั้นส่งไปยัง กกต.เขตในเดือน ก.พ. 2562 อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับ คสช.ครั้งที่ผ่านมา สิ่งที่เขาขอให้เราทำคือเรื่องการแบ่งเขต คือแบ่งเขต 60 วัน ทำไพรมารี 30 วัน ซึ่งการแบ่งเขต ทุกจังหวัดได้เตรียมการเบื้องต้นแล้ว แต่เป็นการแบ่งตามจำนวนราษฎรเมื่อปี 2559 แต่ขณะนี้กรมการปกครองได้ประกาศจำนวนราษฎรในปี 2560 แล้ว จึงขอให้ทุกจังหวัดกลับไปพิจารณาเรื่องแบ่งเขตให้สอดคล้องกับจำนวนราษฎรที่มีการประกาศใหม่

ชี้ไม่ใช่หน้าที่ กกต.ตอบ เดินหน้า-ยกเลิก 'ไพรมารีโหวต' หรือไม่

ด้าน สำนักข่าวไทย รายงานว่านายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมจัดทำแผนปฏิบัติการเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. ว่าเป็นการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่การระดมความเห็น จะพยายามทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะใกล้เวลาที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะลงมา โดยที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว จะมีผลใช้บังคับทันที ถ้าเราไม่เตรียมแผนต่างๆ ให้สะเด็ดน้ำในครั้งนี้ก็อาจไม่ทัน ซึ่งในส่วนของการได้มาซึ่ง ส.ว. ขณะนี้เราได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกอย่าง แต่ปัจจัยสำคัญคือผู้ตรวจการเลือกตั้ง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังข้อมูล หากข้อมูลเหล่านั้นส่งมาถึง กกต. ก็จะพยายามเร่งพิจารณาและประกาศรับรองผู้ตรวจการเลือกตั้ง ซึ่งการทำงานเราคำนึงถึงกรอบเวลาเป็นหลักอยู่แล้ว 

นายอิทธิพร กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องงบประมาณและการจัดซื้อ จัดจ้าง ที่ขณะนี้มีการบังคับใช้ระเบียบการจัดซื้อ จัดจ้างใหม่ จากที่ได้รับฟังข้อมูลของสำนักงานฯ ทำให้เป็นห่วงในเรื่องของภารกิจใหม่ตามกฎหมาย เช่น เรื่องการคุ้มครองพยาน ที่มีปัญหาเรื่องการจัดทำงบประมาณ ตนก็พยายามศึกษาและกำลังพิจารณาแนวทางแก้ไขร่วมกับสำนักงานฯ และผู้ปฏิบัติ เพื่อไม่ให้มาเป็นปัญหาต่อการจัดการเลือกตั้ง และจากที่ได้มีการหารือกับ กกต.ชุดเก่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา ทำให้ได้รับทราบแนวทางการทำงานที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

นายอิทธิพร กล่าวถึงการหารือร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 20 ส.ค. 2561 นี้ ว่ายังไม่ทราบว่านายวิษณุจะมีการหารือในประเด็นใดบ้าง แต่ กกต. ในฐานะหน่วยปฏิบัติ เราก็พร้อมปฏิบัติ ซึ่งในเรื่องการทำไพรมารีโหวตหรือการใช้มาตรา 44 แบ่งเขตเลือกตั้ง ทราบจากข่าวว่าเป็นประเด็นที่นายวิษณุ จะมาหารือด้วย แต่หลังการหารือจะนำไปสู่การกำหนดวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพรรคการเมืองในครั้งที่ 2 หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ เพราะ กกต.ต้องกลับมาหารืออีกครั้งก่อนแล้วจึงจะมีคำตอบอีกครั้ง เพราะของอย่างนี้ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการพิจารณา และตนรวมทั้งกรรมการที่เหลือ ตั้งใจจะไม่ตอบในนามส่วนตัว

“ในเรื่องของไพรมารีโหวต คิดว่า กกต.ไม่ควรเป็นผู้ตอบว่าควรทำหรือไม่ทำ เชื่อว่ารัฐบาลและพรรคการเมืองรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ส่วน กกต.เห็นว่าควรเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วม” นายอิทธิพร กล่าว