Skip to main content
sharethis

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ชี้ ร่างกำหนดความประพฤติ นร.-นศ. เนื้อหากว้าง ไม่ชัดเจน เอื้อให้ จนท. บังคับใช้ตามเหตุผลทางการเมือง ละเมิดเสรีภาพการแสดงและสิทธิทางการเมือง เรียกร้องให้เปิดโอกาส นร.-นศ. มีส่วนร่วมแสดงความเห็นและเสนอทางออกของปัญหา

 

 

วันนี้ (20 ส.ค.) เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกต่อกรณีร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาฉบับแก้ไข ห้ามรวมกลุ่มมั่วสุดก่อความไม่สงบขัดศีลธรรมอันดี ห้ามพฤติกรรมชู้สาวที่ไม่เหมาะสมไม่จำกัดสถานที่ และห้ามเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มทุกเวลา โดยมีความเห็นว่า การแก้ไขดังกล่าวดำเนินไปในทิศทางของการบังคับควบคุม มิได้มุ่งส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของนักเรียนและนักศึกษาซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเรียนรู้และสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันเนื้อหาทั้งสามข้อก็กินความกว้าง ไม่ชัดเจน เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่เลือกบังคับใช้ตามอคติส่วนตัว รวมทั้งเหตุผลทางการเมือง ซึ่งเป็นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิทางการเมืองของนักเรียนและนักศึกษาอย่างสำคัญ

คนส. ได้เรียกร้องให้มีการทบทวนร่างกฎกระทรวงฯดังกล่าว โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนและนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงได้มีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นและเสนอทางออกต่อประเด็นปัญหา

“ทั้งนี้ก็เพราะว่าสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตทางสติปัญญาและอารมณ์ของนักเรียนและนักศึกษาคือเสรีภาพและสิทธิ มิใช่การควบคุมครอบงำ และการออกกฎระเบียบใดควรคำนึงถึงสิทธิความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของบุคคลเป็นหลัก แม้บุคคลนั้นจะยังมีสถานะเป็นนักเรียนและนักศึกษาก็ตาม” แถลงการณ์ของ คนส. ระบุ

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน สมัชชาแม่โจ้เสรีเพื่อประชาธิปไตย ก็ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าวว่า ขอสนับสนุนการเคลื่อนไหวของสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย เพื่อผลักดันให้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการยกเลิกร่างกฎกระทรวงฉบับแก้ไขดังกล่าวที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการศึกษาเรียนรู้ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เนื่องจากมีข้อบัญญัติซึ่งรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง อีกทั้งมีเนื้อความความหมายกำกวม สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเครื่องมือสำหรับปิดกั้นสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพทางการแสดงออกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา

 

ฟังมุม นศ. หลัง ครม.แก้กฎกระทรวง ห้าม นร.- นศ. รวมกลุ่มขัดความสงบ ศีลธรรม-ชู้สาว-เที่ยวเตร่

 

ทั้งนี้วันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 เกี่ยวกับลักษณะความประพฤติต้องห้ามของนักเรียนและนักศึกษา ดังนี้

1. กำหนดเพิ่มเติมห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน

2. แก้ไขลักษณะความประพฤติที่ห้ามกระทำเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม จากเดิมที่ห้ามเฉพาะการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ เป็นการห้ามไม่จำกัดสถานที่ โดยตัดคำว่า “ในที่สาธารณะ” ออก และกำหนดเพิ่มเติมห้ามกระทำการลามกอนาจารด้วย

3. แก้ไขลักษณะความประพฤติที่ห้ามกระทำเกี่ยวกับการออกนอกสถานที่พัก เพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น จากเดิมห้ามเฉพาะเวลากลางคืน เป็นการห้ามไม่จำกัดเวลา โดยตัดคำว่า “เวลากลางคืน” ออก

โดยที่ผ่านมากิจกรรมทางการเคลื่อนไหวทางเมืองหรือสังคมมักถูกยกประเด็น "ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย" และ "ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน" ที่ตีความอย่างกว้างหรือตีความตามอุดมการณ์หลักของรัฐมาใช้เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเสมอ ดังนั้นจากมติ ครม. ข้างต้นการห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุมในลักษณะดังกล่าว อาจกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในเสรีภาพในการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทั้งทางการเมืองและสังคม ของนักเรียนนักศึกษาเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย

 

จดหมายเปิดผนึกเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.)
กรณีร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาฉบับแก้ไข

ถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาฉบับแก้ไข ตามข้อเสนอของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 ซึ่งมีสาระสำคัญต่างจากกฎกระทรวงฯ ฉบับก่อนหน้า 3 ประการ คือ ห้ามแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวที่ไม่เหมาะสมโดยไม่จำกัดสถานที่จากเดิมห้ามเฉพาะในที่สาธารณะ ห้ามเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มที่สร้างความเดือดร้อนโดยไม่จำกัดเวลาจากเดิมห้ามเฉพาะกลางคืน และห้ามรวมกลุ่มมั่วสุมอันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีซึ่งเป็นข้อที่เพิ่มเติมเข้ามา

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวดำเนินไปในทิศทางของการบังคับควบคุมตราตรวจตรานักเรียนและนักศึกษามากขึ้น มิได้มุ่งส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของนักเรียนและนักศึกษาซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเรียนรู้และสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันเนื้อหาของร่างกฎกระทรวงฯ ทั้งสามข้อดังกล่าวกินความกว้าง ไม่ชัดเจน เปิดโอกาสให้กับการเลือกบังคับใช้ตามอำเภอใจของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นด้วยอคติส่วนตัว ผลประโยชน์ส่วนบุคคลหรือกลุ่ม รวมทั้งเหตุผลทางการเมือง ซึ่งไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างกว้างขวาง หากแต่ยังหมายรวมถึงการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิทางการเมืองของนักเรียนและนักศึกษาอย่างสำคัญ

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) จึงขอให้มีการทบทวนร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนและนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงได้มีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นและเสนอทางออกต่อประเด็นปัญหา ทั้งนี้ก็เพราะว่าสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตทางสติปัญญาและอารมณ์ของนักเรียนและนักศึกษาคือเสรีภาพและสิทธิ มิใช่การควบคุมครอบงำ และการออกกฎระเบียบใดควรคำนึงถึงสิทธิความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของบุคคลเป็นหลัก แม้บุคคลนั้นจะยังมีสถานะเป็นนักเรียนและนักศึกษาก็ตาม

ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค 
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.)
20 สิงหาคม 2561

 

แถลงการณ์ สมัชชาแม่โจ้เสรีเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง การเป็นส่วนหนึ่งและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย
..................................................................................
ดังที่ เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎหมายกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาฉบับแก้ไข ตามเสนอของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีสาระสำคัญต่างจากกฎกระทรวงดังกล่าวฉบับก่อนหน้า ๓ ประการ ดังนี้
๑.ห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
๒.ห้ามกระทำเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม เดิมที่ห้ามเฉพาะการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะเท่านั้น และกำหนดเพิ่มเติมห้ามกระทำการลามกอนาจาร
๓.ห้ามกระทำเกี่ยวกับการออกนอกสถานที่พักเพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น เดิมห้ามเฉพาะเวลากลางคืน
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ได้ออกมาเคลื่อนไหวโดยการนำจดหมายเปิดผนึกข้อเรียกร้องฉบับนี้ไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรีผ่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๙.๐๐ น. ณ กระทรวงศึกษาธิการที่ผ่านมาแล้วนั้น ทาง สมัชชาฯแม่โจ้เสรี จึงขอเป็นส่วนหนึ่งและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย เพื่อผลักดันให้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการยกเลิกร่างกฎกระทรวงฉบับแก้ไขดังกล่าวที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการศึกษาเรียนรู้ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เนื่องจากมีข้อบัญญัติซึ่งรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง อีกทั้งมีเนื้อความความหมายกำกวม สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเครื่องมือสำหรับปิดกั้นสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพทางการแสดงออกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพ และความเป็นเจ้าของชีวิตของตน ในตัวนักเรียน นิสิต นักศึกษา ทั้งนี้โปรดตระหนักว่า นักเรียนและนิสิตนักศึกษาคือผู้ที่จำต้องแบกรับผลจากการดำเนินกิจกรรมทั้งปวงของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ

สมัชชาแม่โจ้เสรีเพื่อประชาธิปไตย
วันที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net