สมุดบันทึกความตายของชายลาหู่

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ตุ้ม...มม!

เสียงแจโก่จังหวะแรกดังขึ้น เด็กหญิงจะอือ มือกลองฝึกหัดหัวขบวน ส่งสัญญาณให้บรรดาเพื่อนๆ ที่ยืนกระจัดกระจายกันอยู่ในโบสถ์ประจำหมู่บ้านทยอยมายืนเรียงแถวหน้ากระดาน โค้งคำนับต่อผู้ชมเบื้องหน้าเพื่อเป็นการเริ่มต้น ก่อนเสียงฉาบจะค่อยๆ ดังขึ้นสลับกับเสียงแจโก่กลายเป็นท่วงทำนองอึกทึก กระฉับกระแฉง บรรเลงสอดประสานกับลีลาเต้นไขว้ขาพร้อมเพรียง

การเต้นแจโก่คือการเต้นตามจังหวะกลองของชนเผ่าลาหู่ ท่วงท่าของการเต้นบ่งบอกถึงวิถีชีวิต ช่วงมีงานมงคลอย่างปีใหม่หรือมีแขกมาเยี่ยมเยือนก็จะมีการเต้นแจโก่ของผู้คนในหมู่บ้านเพื่อเป็นการแสดงความเคารพกัน

เสียงปรบมือดังขึ้นเป็นสัญลักษณ์จบการแสดง

ผมหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาเขียนทันที

วันแรก

17 มีนาคม 2560 หมู่บ้านกองผักปิ้ง

หมู่บ้านเล็กๆ ใกล้ชายแดนไทย-พม่า ตั้งอยู่ในตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้เกือบทั้งหมดเป็นชนเผ่าลาหู่ เกินครึ่งไม่มีสัญชาติ ด้วยข้อจำกัดนี้จึงส่งผลต่อฐานะความเป็นอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมเพิ่งจะเข้าใจความลำบากของการไม่มีสัญชาติก็วันนี้ อันที่จริงผมมาถึงเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อวาน แต่เพื่อนผู้ได้รับมอบหมายให้ไปรับที่สถานีรถไฟต้องรอให้รุ่งสางก่อนถึงจะออกจากตัวอำเภอเชียงดาวได้ ใบอนุญาตให้ออกจากพื้นที่ของเธอระบุไว้อย่างนั้น กว่าผมจะมาถึงหมู่บ้านก็บ่ายคล้อยเข้าไปแล้ว

สมุดบันทึก ปากกา กระเป๋าเป้ แก้วกาแฟ เสื้อยืดสองตัว และกางเกงยีนส์ที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญเข้าเรียนมหาวิทยาลัยวันแรกอีกหนึ่งตัว คือทรัพย์สินทั้งหมดที่ผมเอาติดตัวมา ราวกับว่าจะมาค้างที่นี่แค่ชั่วครู่ มหาวิทยาลัยส่งผมมาอยู่ที่นี่เจ็ดวัน นับตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ผมได้เรียนรู้วิธีการจับปลามือเปล่าของชาวลาหู่ แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นสารคดีชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง สำหรับตีพิมพ์ลงวารสารสโมสรนักศึกษาประจำปี ผมอาสามาทำงานชิ้นนี้เอง นอกจากอยากมาเที่ยวเพื่อหนีความวุ่นวายจากการติดตามของเจ้าหน้าที่สันติบาลแล้ว ผมอยากมาเจอเพื่อนในวัยเด็กของผมอีกด้วย

จะอุ๊เด็กชายมอปลาย นักกิจกรรมชาติพันธุ์ที่เรียกร้องการมีสัญชาติมาหลายปี เราเจอกันในเวทีสาธารณะบ่อยครั้ง น้ำเสียง และลีลาการพูดของเขายังฝังอยู่ในความทรงจำผมมิรู้ลืม เช้านี้ลมหายใจของออกเดินทางไกลไปเสียแล้ว

17 มีนาคม 2560 ชัยภูมิ ป่าแส ถูกวิสามัญฆาตกรรมพร้อมกับถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีความผิดฐานครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด

ผมมาถึงวันเดียวกับที่เขาจากไป

เขาจากไปในวันเดียวกับที่มวลเมฆครึ้มบนฟ้าเริ่มก่อตัว

 

วันที่ 2

18 มีนาคม 2560 ม้านั่งหน้าโบสถ์

“บาดแผลกระสุนปืนลูกโดดทำลายอวัยวะในช่องอก”

เอกสารรับรองการตายและผลการชันสูตรเบื้องต้น นิติเวชแจ้งกับญาติว่าเขาถูกยิงเข้าด้านข้างของต้นแขนซ้ายด้วยปืน M16 กระสุนเข้ารูเล็ก ทะลุออกรูใหญ่ที่ต้นแขน กระสุนนัดเดียวกันแตกอยู่ในลำตัวเขา เป็นเหตุให้เสียชีวิต

ผมยังไม่ได้นอนสักนาทีเดียว ตอนมาถึงเมื่อวานทุกอย่างชุลมุนไปหมด มอกู่หญิงสาวร่างเล็กสะพายย่ามทะมัดทะแมงเป็นเอกลักษณ์ ออกจากหมู่บ้านไปรับผมตั้งแต่เช้า เธอจึงยังไม่รู้เรื่องจะอุ๊โดนวิสามัญเหมือนกัน เราขับรถผ่านด่านตรวจที่เกิดเหตุ สังเกตความผิดปกติได้ชัดเจน ทุกวันจะมีแค่ทหารประจำการอยู่ แต่วันนี้ทั้งตำรวจ ชาวบ้าน รถพยาบาล ต่างก็มาชุมนุมกันอยู่ที่นี่

“มีคนโดนยิงตาย”

มอกู่สันนิษฐานอย่างมั่นอกมั่นใจ แถมยังขยายความอีกว่าเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนมีวัยรุ่นชาวเผ่าลีซู ถูกทหารยิงตายตรงนี้เหมือนกัน ผมขอลงไปดูที่เกิดเหตุแต่เธอห้ามไว้ เด็กๆ ในหมู่บ้านรอเต้นแจโก่ต้อนรับผมอยู่

ทุกคนมารวมตัวกันในโบสถ์โดยไม่ได้นัดหมาย ทุกอย่างเงียบสงบจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นคำรามอยู่ในทรวงอก บางคนหลับคาตักแม่ไปแล้ว บางคนเริ่มถามหาพี่จะอุ๊ ปกติยามนี้เขาควรดีดกีต้าร์กล่อมนอนพวกหล่อนอยู่

เด็กๆ ทยอยหลับจนหมด บทสนทนาเริ่มจริงจังและตึงเครียดขึ้นตามเวลาที่ล่วงเลยมาเกือบจะตีสามแล้ว ผู้ใหญ่บ้านเปิดประเด็นจี้ตรงใจของทุกคน สร้างมวลความรู้สึกให้บรรยากาศภายในโบสถ์เล็กๆ ตื่นตัวขึ้นทันที

ก่อนรุ่งสางวันขึ้นปีใหม่เมื่อปีกลาย มีเหตุการณ์วัยรุ่นยกพวกตีกันอีกหมู่บ้านหนึ่ง ทหารพยายามไล่จับ แล้วมาเจอชาวบ้านกองผักปิ้งเลี้ยงฉลองปีใหม่กันอยู่ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก รู้สึกตัวทุกคนก็โดนตบกันไปคนละทีสองทีเรียบร้อยแล้ว เช้าวันต่อมาชาวบ้านหลายสิบคนรวมตัวกันไปที่หน่วยบัญชาการทหารในพื้นที่ เพื่อประท้วงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เหตุการณ์บานปลาย เจรจากันไม่ได้ วัยรุ่นลาหู่อีกคนตัดสินใจโพสต์คลิปที่ทหารกลุ่มนั้นตบชาวบ้านลงยูทูปจนเป็นกระแสดังในโลกออนไลน์ ไม่กี่วันต่อมาทหารแจ้งความดำเนินคดีชาวบ้านข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทุกอย่างคือจุดเริ่มต้นความขัดแย้งและแตกร้าวชัดเจนระหว่างทหารในพื้นที่กับชาวบ้าน จะอุ๊เป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้

ผมได้แต่นั่งฟังเงียบๆ และจดลงสมุดบันทึก

 

วันที่ 3

19 มีนาคม 2560 ร้านกาแฟในตัวเมืองเชียงดาว

“เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 ประจำจุดตรวจยาเสพติดด่านทหารสามแยกรินหลวงเรียกรถยนต์ Honda Jazz สีดำ เพื่อตรวจค้น พบยาบ้า 2,800 เม็ดอยู่ในกรองอากาศ จึงจับกุมผู้ขับรถเอาไว้ได้ แต่ผู้ที่อยู่ด้านข้างคนขับได้วิ่งหนีออกไปราว 200 เมตร ผู้ตายเงื้อระเบิดในมือจะขว้างใส่ ทหารจึงใช้อาวุธปืน M16 ยิงป้องกันตัวหนึ่งนัด” เสียงพนักงานสอบสวนรายงานต่อผู้บังคับบัญชาที่อยู่ในเครื่องบันทึกเสียงของผมยังก้องอยู่ในหัว แม้จะถอดเทปเสร็จสักพักแล้ว

ทุกอย่างเงียบสงบราวกับว่าไม่มีการวิสามัญเกิดขึ้น สื่อทุกช่องยังคงนิ่งเงียบ การตายของคนไร้สัญชาติ จะมีความหมายไปกว่าข่าวดาราหนุ่มทำสาวนอกวงการท้องกะทันหันที่จะตั้งโต๊ะแถลงข่าวเย็นนี้ได้อย่างไร

“เดี่ยวมันก็ผ่านไป”

คำปลอบประโลมจากปากน้องชายจะอุ๊ ช่างเป็นตลกร้ายเหนือความตายของพลเมืองร่วมโลกเสียจริง ผมลงมาในเมืองตั้งแต่เช้าเพื่อรายงานข่าวให้สื่อมวลชน ร้านกาแฟเล็กๆ ริมดอยหลวงเชียงดาวกลายเป็นกองบัญชาการผมไปทันที สื่อสนใจมากขึ้นเมื่อเริ่มเป็นกระแสในโลกออนไลน์ แฮทแท็ก RIPชัยภูมิ ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ภายในไม่กี่ชั่วโมง ยอดแชร์ข่าวการตายของเขาในสำนักข่าวทางเลือกบนหน้าเฟซบุคเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่น

สถานการณ์ทุกอย่างพลิกผัน กลับตาลปัตร ผมแทบจะจินตนาการถึงวันพรุ่งนี้ไม่ออก

 

 

 

วันที่ 4                                                        

20 มีนาคม 2560 สุสานท้ายหมู่บ้าน

ยี่สิบเอ็ดปี หากนับจากวันเดือนปีเกิดตามบัตรประจำตัวประชาชนที่ขึ้นต้นด้วยเลขศูนย์ ซึ่งหมายถึงผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนของเขา ตัวเลขในหน้าสื่อกระแสหลักเกิดจากข้อผิดพลาดจากการสำรวจข้อมูลทางทะเบียน เขาเพิ่งจะอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปดปี เรารู้จักกันมาเป็นสิบปี ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขาแจ้งจดทะเบียนผิด หลายคนในหมู่บ้านก็เป็นเช่นนั้น

พิธีศพจัดที่บ้านของเขาในหมู่บ้านกองผักปิ้ง ด้านซ้ายของโลงศพคือกีตาร์ตัวโปรดที่เขาใช้แต่งเพลง เพื่อเล่นในคืนวันที่หนาวเหน็บ เขาเคยพูดทีเล่นทีจริงกับผม ความรู้สึกนี้คงเกิดขึ้นได้แทบทุกวันในหมู่บ้านที่สัญชาติมีค่ามากกว่าเกียรติยศเงินทองใดๆ มันอยู่ในรถคันที่เกิดเหตุ เพื่อนร่วมห้องมัธยมปลายรวมตัวกันไปขอกีตาร์ที่ยังอยู่ภายในรถนำกลับมาร่วมงานศพของเขา

 

วันที่ 5

21 มีนาคม 2560 บ้านมอกู่

หลังจากพิธีฝังศพตามความเชื่อของชาวลาหู่เสร็จไปเมื่อวานตอนเย็น ผมได้หลับเต็มอิ่มเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาที่นี่ ฝนตกโปรยๆ ตั้งแต่ก่อนฝังศพจนดึกดื่นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไม่รู้เป็นเพราะฤทธิ์ฝนหรืออดนอน เช้านี้หวัดเล่นงานผมเข้าจังๆ

วันนี้รองนายกรัฐมนตรีบอกว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำตามขั้นตอนแล้ว แต่จะอุ๊มีระเบิดอยู่ในมือ จึงต้องป้องกันตัว เพราะเจ้าหน้าที่ก็กลัวตายเหมือนกัน ไม่กี่ชั่วโมงต่อมานายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่าจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน และขอร้องว่าอย่าเพิ่งพูดกันไปมา เพราะจะเสียรูปคดี ทหารอาสาเข้ามาทำงาน ฉะนั้นจะสามารถมอบความยุติธรรมให้ได้อย่างแน่นอน นายกพูดแล้ววางมาดอย่างมั่นใจ

แผนการทุกอย่างที่ผมวางไว้ ถูกเลื่อนออกไปเป็นโอกาสหน้าอย่างไม่มีกำหนด วันหน้าฟ้าใหม่หากมวลเมฆครึ้มบนฟ้าที่เริ่มก่อตัวเมื่อเขาตายถูกเจือจางไปกับแสงแดดยามเช้า ผมสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาเขียนสารคดีการจับปลามือเปล่าของชาวลาหู่ต่อให้จบ

 

วันที่ 6

22 มีนาคม 2560 โรงครัวหลังโบสถ์

วันนี้ชาวเน็ตเริ่มถกเถียงและขุดคุ้ยเบื้องลึกเบื้องหลัง

“พ่อตาย แม่ประสาทไม่ดี มีน้องชาย อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเงินมากนัก ก่อนวันเกิดเหตุสี่วัน พาเพื่อนหญิงสี่คนไปเที่ยว รถคันที่ยึดได้พร้อมของกลาง เจ้าหน้าที่เคยติดตาม แต่ยังจับไม่ได้ ซึ่งครั้งที่แล้วใช้ทะเบียนปลอม แต่ยืนยันว่าจากการต่อจิ๊กซอว์ขบวนการค้ายาเสพติดเคยมีชื่อของนายชัยภูมิรวมอยู่ด้วย” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรประจำภูมิภาค ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังสื่อมวลชนเริ่มตั้งข้อสังเกตกับระเบิด ยาเสพติด และภาพจากกล้องวงจรปิด ตามที่ชาวเน็ตเรียกร้อง

“คดีนี้เป็นคดียาเสพติดทั่วไป ถ้าไม่ยิงเขา เขาก็ยิงเจ้าหน้าที่” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวเสริมก่อนโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจจะถ่ายทอดรายการคืนความสุข

ผมจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ

 

วันที่ 7

23 มีนาคม 2560 บนรถไฟขบวน 102 เชียงใหม่ – กรุงเทพฯ

รอยต่อระหว่างจังหวัดเชียงใหม่-ลำปาง รถไฟหยุดนิ่งไปชั่วขณะ มันหยุดเป็นพักๆ มาตลอดทางอยู่แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ต่างออกไป พนักงานบริการบนรถป่าวประกาศว่ากำลังเครื่องน้อยไปขึ้นเขาก่อนถึงอุโมงค์ขุนตาลไม่ไหว ผู้คนเริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ บ้างก็ลุกขึ้นมองข้างทาง บ้างก็หาเพื่อนชวนคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงแต่ลุงที่นั่งข้างผมนี่แหละที่ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไร แถมยังพูดออกมาอย่างใจเย็น

“ต้องรอหัวรถจากลำปางมาลาก ไม่เกินเก้าโมงก็มาถึง”

ผมกำลังจะมองนาฬิกา เสียงเพลงชาติก็ดังมาจากทุกสารทิศ ทั้งโบกี้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ราวกับถูกติดตั้งระบบไว้ในก้านสมอง ชายรุ่นใหญ่ร่างกายกำยำไม่มีท่าทีตกใจอะไรกับรถไฟเสียริมหน้าผา ทว่ากลับรีบลุกกระวนกระวายเพราะเสียงเพลงชาติ มือแนบลำตัว ยืดอกตึง แล้วมองตรงไปข้างหน้า   

พลทหารวัยยี่สิบต้นๆ เหนี่ยวไกปืนจากคำสั่งหัวหน้าด่านตรวจวัยยี่สิบปลายๆ อายุไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับผม เพราะมันได้ฝังอยู่ในความทรงจำของกล้ามเนื้อพวกเขาเสียแล้ว ความทรงจำที่สั่งการประสาทส่วนหลังให้สังหารฝ่ายตรงข้าม เขาโตมาในวัฒนธรรมที่คำสั่งสำคัญกว่าชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน 

"ผมว่าสมเหตุสมผลในการยิงป้องกันตัว ถ้าเป็นผมอาจกดออโต้ไปแล้ว"

แม่ทัพประจำภูมิภาคให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังประกาศว่าดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว เป็นการจับกุมตามปกติ การตรวจค้นก็เป็นไปตามขั้นตอนธรรมดา กระทั่งมีการขัดขืน เจ้าหน้าที่จึงจับอาวุธขึ้นมา และจากกล้องวงจรปิดยังพบอีกว่าก็สมเหตุสมผลที่จะป้องกันตัว เพราะเขาทำท่าจะขว้างระเบิด

 

วันที่ 9

25 มีนาคม 2560 ห้องเช่าย่านสุวินทวงศ์

ผมกลับถึงกรุงเทพแล้ว วันนี้มีการแถลงข่าวตอบโต้กันไปมาหลายครั้ง

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง แถลงข่าวความคืบหน้าคดีนี้ เล่านาทีปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ พร้อมเล่าฉากหลังชีวิตของพลทหารผู้ลั่นไกปืนว่า เป็นทหารชั้นผู้น้อยที่ครอบครัวยากจน ต้องละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดจากจังหวัดบุรีรัมย์มารับใช้ชาติ ที่ผ่านมาประพฤติหน้าที่ตามคำสั่งเป็นอย่างดี ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ

“ถ้าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานก็ขอให้เปิดเผยต่อสังคม โดยเฉพาะหลักฐานจากกล้องวงจรปิด แน่จริงก็เอาภาพที่บอกว่าดูแล้วออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะเลย ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นไฟลามทุ่ง เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมก็ควรจะเปิดเผยให้สังคมได้รับทราบทั้งหมด” กรรมการสิทธิมนุษยชน แถลงข่าวโต้กลับแม่ทัพภาค

 

วันที่ 11

27 มีนาคม 2560 ริมน้ำท่าพระจันทร์

เช้านี้ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกสื่อมวลชนมาฟังคำแถลงข่าวเร่งด่วน

“เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบพิรุธเงินในบัญชีว่ามาจากสามผู้ต้องหาค้ายาเสพติด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยต้นทางของเงินและรายละเอียดของสามผู้ต้องหาค้ายาเสพติดดังกล่าวได้ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบกับสำนวนคดี ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าเงินมาจากการขายกาแฟนั้นก็ต้องชี้แจงได้ เพราะการทำธุรกิจต้องส่งเรื่องเสียภาษี ซึ่งจะต้องขยายผลการสืบสวนเช่นกัน”

ตกเย็น แม่ทัพภาคได้กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิดว่า ขณะนี้กองทัพได้ส่งมอบให้กับตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลแล้ว จึงไม่สามารถนำมาเผยแพร่ได้ ต้องให้ศาลและตำรวจซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเป็นผู้อนุญาตเท่านั้น

ตลอดทั้งคืนชาวเน็ตกดดันขอดูกล้องวงจรปิด ผมตอบอีเมลจากนักข่าวจนเช้าเช่นกัน

 

วันที่ 14

30 มีนาคม 2560 สุขุมวิท 55 แยกสาม

ก่อนประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติตอนบ่ายโมง ผู้บัญชาการทหารบกให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกล้องวงจรปิดว่า ได้ดูภาพแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าใครผิด ส่วนตนเองนั้นจะไม่แทรกแซงหรือสั่งการเพื่อให้นำมาเปิดเผย พร้อมทั้งขอให้สังคมรอก่อน เพราะเป็นเรื่องของขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม

เย็นวันนี้ผมนัดทานข้าวกับทนายของคดี แกเล่าถึงกรณีเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดรวมทั้งผลการชันสูตรศพว่า หลักฐานเหล่านี้เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่จะได้เห็น คู่กรณีทั้งสองฝ่ายต้องสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและหลักฐานได้อย่างเท่าเทียมกัน ที่ผ่านมาฝ่ายทหารสามารถดูภาพในกล้องวงจรปิดได้ แต่แม่ของเขาซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงกลับขอดูไม่ได้

ทนายร่างเล็ก สวมแว่นตาหนาทึบ ค่อยๆ เล่าอย่างเนิบช้า ผมทานข้าวหมดแล้ว ตั้งใจฟังแกเล่าไปเขียนสมุดบันทึกไป อาหารตรงหน้าทนายไม่ลดลงเลย แกบ่นแกมตัดพ้อก่อนจะแยกย้ายกันว่า คดีแบบนี้เพิ่มขึ้นเยอะเลยหลังรัฐประหารครั้งล่าสุด  

 

วันที่ 60

17 พฤษภาคม 2560 ด่านตรวจรินหลวง

แผ่นหินอ่อนรูปสามเหลี่ยมสีดำจารึกข้อความไว้ตรงกลางว่า “เพื่อสัจจะและความยุติธรรม ณ ที่แห่งนี้ ชัยภูมิ ป่าแส ถูกสังหารอย่างมีเงื่อนงำ” มีข้อความต่ออีกว่า “แด่สามัญชนที่ถูกสังเวยด้วยอยุติธรรม ให้ปวงชนพ้นจากชะตาไม่ตาย ก็ติดคุก สามัญชนจะต่อสู้เพื่อยุติธรรมอันเสมอภาค” ข้อความที่จากรึกเหล่านี้ถูกเรียกว่า ‘หมุดชัยภูมิ’

“คิดถึงลูกชายมาก จะทำยังไงดีตอนนี้ฉันไม่มีลูกแล้ว ไม่มีคนหาเลี้ยงให้ครอบครัว และไม่มีลูกชายของฉันอีกแล้ว” ผู้เป็นแม่กล่าวรำลึกถึงลูกชายผู้หายไปพร้อมเสียงปืนนัดนั้น เธอร้องเพลงปิดท้ายเป็นภาษาลาหู่มีความหมายว่า

“คิดถึงบ้านที่มีความสุข ที่วิ่งเล่นได้อย่างปลอดภัย คิดถึงแผ่นดินที่อบอุ่น ที่เคยอยู่อาศัยมาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ฉันคิดถึงชีวิต และบ้านที่เคยอยู่มาอย่างมาก”

 

วันที่ 72

29 พฤษภาคม 2560 ห้องเช่าย่านสุวินทวงศ์

หลังจากด่านตรวจรินหลวงถูกใช้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมรำลึก 60 วัน กระแสข่าวโนโลกออนไลน์ที่ค่อยๆ เงียบหายไปจากกระแสข่าวอื่น กลับมาตั้งคำถามถึงความคืบหน้าในการสืบคดีอีกครั้ง

เช้ามืดวันนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่ เข้าปิดล้อมและตรวจค้นบ้านกองผักปิ้ง พร้อมกับนำหมายศาลเข้าจับกุม นาหวะ นาแส จะโสมแสง และฉันทนาน้าสาวของจะอุ๊ นาหวะถูกระบุว่าเป็นผู้นำยาบ้าไปส่งให้กับเขาก่อนจะถูกวิสามัญ นาแสถูกระบุว่าเป็นเจ้าของยาเสพติดจำนวน 2,000 เม็ดที่นำมาให้ขน จะโจมแสงสามีน้าฉันทนาถูกจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าครึ่งเม็ด และตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย นาหวะกับน้าฉันทนาถูกฝากขังทันที

หัวหน้าทีมจับกุมยืนยันว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานพบว่าจะอุ๊เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงสืบสวนสอบสวนถึงที่มาของยาบ้า กระทั่งเชื่อมโยงถึงผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจยังย้ำอีกว่า พยานหลักฐานที่รวบรวมได้เกี่ยวกับคดีนี้ค่อนข้างครบวงจรหมดแล้ว และขอร้องให้ผู้ที่ไม่หวังดีอยากใช้กระแสนี้โจมตีการทำงานรัฐบาลทหารหยุดกระแสในโลกออนไลน์ได้แล้ว

 

วันที่ 166

4 กันยายน 2560 ศาลจังหวัดเชียงใหม่

ผมเดินทางมาเชียงใหม่อีกครั้ง สองเดือนที่ผ่านมาไม่ได้จับปากกาขึ้นมาเขียนบันทึกเลย ว่างเปล่า เดียวดาย ถ้าเป็นคำศัพท์ของนักการละครคงเป็นสภาวะโปล่งโล่งทางความคิด มันเป็นความจริงอันเจ็บปวดที่แทบปฏิเสธไม่ได้

ศาลเชียงใหม่เริ่มการไต่สวนนัดแรกกรณีวิสามัญฆาตกรรมจะอุ๊แล้ว

วันนี้ยังนัดไต่สวนการวิสามัญฆาตกรรมชายวัยรุ่นชาวเผ่าลีซูที่เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันกับจะอุ๊อีกด้วย ก่อนหน้านั้นหนึ่งเดือน อาเบถูกทหารประจำด่านบ้านรินหลวงยิงเสียชีวิต โดยอ้างว่าอาเบจะขว้างอาวุธระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ขณะตรวจค้น จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิง และกล่าวหาว่าอาเบมียาเสพติดประเภทเฮโรอีนสองหลอด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย แต่อาเบเป็นคนธรรมดา แทบไม่มีใครรู้เรื่องเขาตายด้วยซ้ำ

22.00 น. หลังเสร็จภารกิจที่ศาล ผมก็มานั่งซดเบียร์อยู่สนามบินคนเดียวเพื่อออกเดินทางต่อ ปริมาณแอลกอฮอล์เริ่มเข้ากระแสเลือดมากขึ้นทีละแก้วสองแก้ว อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ คู่สนทนาตรงหน้าผมเข้ามาตอนไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็คุยกันอยู่เสียแล้ว มีช่วงเวลาที่ได้แนะนำตัวกันหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ ชายชาวต่างชาติอายุประมาณยี่สิบปลายๆ หรือสามสิบต้นๆ รูปพรรณสันฐานบ่งชี้ว่าเป็นชาวยุโรป ผมดื่มลีโอ เขาดื่มไฮนาแกน ไร้ซึ่งกับแกล้มทั้งคู่ เพราะอาหารสนามบินแพงหูฉี่ตาลาย ยิ่งกว่าดื่มเบียร์เป็นลังๆ เสียอีก ผมนั่งนับเวลา สองวันข้างหน้าจะครบหนึ่งปีแล้ว

ถ้าอาเบไม่ตายที่เดียวกับจะอุ๊ คดีเขาจะถูกรื้อขึ้นมาไหม ผมคิดในใจ

 

วันที่ 363

15 มีนาคม 2561 บ้านทนาย ทองหล่อ ซอย 3

วันนี้หลายอย่างกระจ่างชัด บางอย่างกลับเลือนรางลงเรื่อยๆ

ช่วงสองวันก่อนมีข้อมูลหลายอย่างที่ยังไม่สามารถสรุปในชั้นศาลได้ แต่จากรายงานที่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการ ซึ่งนำมาจากกลุ่มงานอาชญากรรมด้านคอมพิวเตอร์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พบประเด็นที่น่าสงสัยคือ เครื่องบันทึกภาพและฮาร์ดดิสก์ที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุไม่พบภาพเหตุการณ์ในวันที่ 17 มีนาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่มีการวิสามัญฆาตกรรมจะอุ๊ ทั้งๆ ที่ผ่านมาผู้บัญชาการกองทัพบก และแม่ทัพภาคต่างออกมายืนยันว่าได้เห็นภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดแล้ว

อาวุธในจุดเกิดเหตุที่ทหารอ้างว่าชัยภูมิใช้เพื่อต่อสู้ขัดขืน ไม่ปรากฏลายนิ้วมือของเขาที่มีดเลย ส่วนระเบิดนั้นไม่ได้มี DNA ของเขาปะปนอยู่คนเดียวเท่านั้น แต่ยังมี DNA ของอีกหลายคนปรากฏรวมอยู่ในนั้นด้วย

 

วันที่ 365

17 มีนาคม 2561 ประเทศไทย

[กองทัพ คือ อุปสรรคในการพัฒนาประเทศและการเติบโตของพื้นที่ประชาธิปไตย

5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะคิดอย่างนี้เลยจริงๆ ไอ้สัส ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ]

วันนี้ครบรอบหนึ่งปีที่จะอุ๊จากไป แสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ยังคงสะท้อนสว่างบนแว่นสายตาผม ตลอดการจิ้มคีย์บอร์ดมาครึ่งค่อนวัน

 

วันที่ 404

24 เมษายน 2561 เรือนจำเชียงใหม่

ทุกอย่างเงียบสงบ คนส่วนใหญ่เลิกติดตามคดีนี้ไปแล้ว

331 วัน ที่นาหวะอยู่ในเรือนจำ วันนี้เธอถูกปล่อยออกมาแล้ว ศาลยกฟ้องและปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข หลังจากการสืบสวนพบว่าเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย

[ถถถถถถถถถถถถถถถ

นี่กูต้องรู้สึกยังไงวะเนี้ย

55555555555555555] จิ้ม จิ้ม จิ้ม ฯ

 

วันที่ 494

26 กรกฎาคม 2561

ศาลชี้ทหารยิง “อาเบ แซ่หมู่” เสียชีวิต แม่ลั่นลุยทวงยุติธรรม ไม่ให้ลูกตายฟรี

พาดหัวหนังสือพิมพ์ออนไลน์เย็นนี้

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย มีคำสั่งว่า อาเบตายบริเวณเส้นทางดินลูกรังระหว่างหมู่บ้านรินหลวงและหมู่บ้านป่าบงงามลีซอ เหตุและพฤติการณ์ที่ตายคือถูกพลทหารใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง จำนวน 1 นัด กระสุนปืนเข้าที่บริเวณทรวงอกด้านหลังและแตกเป็น 3 ส่วน ออกบริเวณทรวงอกซ้ายด้านหน้าและห้องขวา กระสุนปืนทะลุหัวใจห้องล่างซ้าย ทำให้หัวใจห้องล่างซ้ายและขวาฉีกขาด มีเลือดออกภายในช่องอกจำนวนมาก จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

 

วันที่ 495

27 กรกฎาคม 2561

ฤดูฝนย่างเข้ามาสักพักแล้ว ผมแอบหวังเล็กๆ ว่าคุณคงจะได้ยินเสียงฝนตกกระทบกับทุกสรรพสิ่งรอบตัวที่ผมได้ยินอยู่ตอนนี้ ท่วงทำนองอาจจะแตกต่างกันออกไปตามภูมิศาสตร์ที่เราดำรงอยู่ ทว่าเมื่อ เวลา สถานที่ และการกระทำ ผสมผสานเป็นเอกภาพ จนกลายเป็นโรงมหรสพขนาดใหญ่ ทั้งคุณและผมต่างเป็นตัวละครที่ร่ายรำบนโลกหม่นๆ ใบเดียวกัน สายฝนบรรเลงท่วงทำนองให้เราต่างได้ขยับขยายความรู้สึกนึกคิดและสร้างเรื่องเล่าของตัวเองในม่านฝนใต้ฟ้าเดียวกันนี้

ผมรวบรวมสติทั้งหมดคืนมา ก่อนที่มันจะล่องลอยออกไปไกลเกินกว่าจะเรียกกลับ เริ่มอ่านสมุดบันทึกทั้งหมดที่หนาสองร้อยกว่าหน้าอีกครั้ง

 

วันหน้า เดือนหน้า ปีหน้า ฯ

หวังว่าเรื่องราวที่เล่ามา จะได้รับความยุติธรรม

ความเป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นตลอดสมุดบันทึก มันแข็งทื่อ เหมือนถูกตัดมาแปะกองๆ รวมกัน ไม่มีจังหวะจะโคนเหมือนเรื่องสั้นเรื่องอื่นๆ ที่ผมแต่งขึ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงผสมปนเปกับความรู้สึกที่เศร้าหมอง ผมไม่กล้าบิดพลิ้วเรื่องราวเหล่านี้ให้ผิดเพี้ยนไปจากเรื่องจริงเลยแม้แต่น้อยเพราะมันอาจจะเพิ่มความเศร้าหมองมากเข้าไปอีก สำหรับผมแค่นี้ก็เจ็บปวดจะแย่อยู่แล้ว ในขณะเดียวกันผมก็ไม่กล้าบิดพลิ้วเรื่องราวเหล่านี้ให้ผิดเพี้ยนไปจากเรื่องจริงในทางที่สวยงามขึ้น เจ็บปวดน้อยลง เพราะตอนนี้ทุกอย่างก็ถูกให้ค่าและลดทอนความจริงลงไปมากโขแล้ว

การดำรงอยู่และการดำเนินไปของความอยุติธรรมเดินทางอย่างช้าๆ ทว่ามันไม่เคยหยุดพัก มิหนำซ้ำยังมีความเร็วและความเร่งเพิ่มขึ้นทุกขณะที่เราเผลอ ผู้ถูกกดขี่ปราชัยในกาลปัจจุบัน แต่ความยุติธรรมจะต้องมีชัยเหนือกาลเวลาทั้งปวง ยุติธรรมต้องเขียนติดกัน มิใช่ ยุติคือสิ้นสุด ...ยุติธรรม สิ้นสุดแห่งความเป็นธรรม ท้ายสมุดบันทึกของผมเขียนไว้เช่นนั้น หน้ากระดาษแผ่นสุดท้ายพอดิบพอดี

สมุดบันทึกเล่มใหม่เตรียมพร้อมแล้ว รอแค่ตัวอักษรที่จะจดจารลงไป ปากกาก็วางอยู่ข้างๆ

เชิญคุณเขียนต่อจากผมได้เลยครับ...

...

 

 

 

เกี่ยวกับผู้เขียน: นลธวัช มะชัย นักศึกษาการละคร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกเริ่มต้นการเดินทางจากเทือกเขาบรรทัด พัทลุง – นครศรีธรรมราช ดั้นด้นมาค้นหาความหมายของชีวิตเพื่อฝึกฝนการเขียนและทำละครอยู่ที่เชียงใหม่ หลังรัฐประหารเมื่อปี 2557 ได้ไม่กี่วัน ปัจจุบันยังคงเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยพร้อมกับทำงานอยู่ที่หอประวัติศาสตร์ประชาชนภาคเหนือ เฮือนครูองุ่น มาลิก (สวนอัญญา) มูลนิธิไชยวนา เชียงใหม่

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท