สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจประชาชน 53.71% มองแก้กฎหมายเพิ่มโทษใบขับขี่ แก้ปัญหาจราจรไม่ได้ 51.17% หนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจเคร่งครัด ทำตามกฎหมาย 36.68% เห็นควรพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ดี ค่าโดยสารไม่แพง 'เสรีพิศุทธ์' ชี้ไม่พกใบขับขี่ปรับ 5 หมื่น เป็นกฎหมายชนชั้นคนรวยไม่มีทางโดน-ยั่วยุตำรวจรับสินบนหนักขึ้น

26 ส.ค. 2561 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,132 คน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรกับการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลของรัฐบาล โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2561 เพื่อสะส้อนกรณีที่รัฐบาลเตรียมเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.แก้ไขกฏหมายจราจรเพื่อเพิ่มโทษผู้กระทำผิด เช่น ไม่มีใบขับขี่ หรือมีใบขับขี่แล้วไม่พกที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ พบว่า ประชาชนส่วนร้อยละ 45.83 เห็นว่า ควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แก้ให้ตรงจุด มีแผนระยะสั้นและระยะยาว ร้อยละ 32 เห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายต้องเข้มงวด ประชาชนต้องเคารพกฎจราจร และร้อยละ 29.33 อยากเห็นการจราจรในกรุงเทพฯ ดีขึ้น ทันสมัย เดินทางสะดวก

ส่วนกรณีที่ รัฐบาลเตรียมเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แก้ไขกฏหมายจราจรเพื่อเพิ่มโทษผู้กระทำผิด นั้น ประชาชนร้อยละ 53.71 ระบุว่าแก้ไม่ได้ เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ปัญหาการจราจรเป็นปัญหาที่มีมานาน แก้ไขได้ยาก เกิดจากความประมาทขาดวินัย ฝ่าฝืนกฎจราจร ขณะที่ประชาชน ร้อยละ 23.41 ระบุแก้ได้ เพราะทำให้ผู้ขับขี่เกรงกลัวกฎหมาย มีบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อถามถึงคาดหวัง นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 55.03 ไม่คาดหวังว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาได้สำเร็จ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ มีมานาน แก้ไขไม่ได้ ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล คนไทยไม่เคารพกฎหมาย ส่วนที่คาดว่าจะสำเร็จ มีเพียงร้อยละ 22 เพราะเป็นรัฐบาลที่เด็ดขาด สามารถใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้

อย่างไรก็ตาม ประชาชนได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้เป็นรูปธรรม โดยร้อยละ 51.17 เจ้าหน้าที่ตำรวจเคร่งครัด ทำตามกฎหมาย ร้อยละ 36.68 พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ดี ค่าโดยสารไม่แพง และร้อยละ 34.07 มีมาตรการควบคุมจำนวนรถยนต์ จำกัดจำนวนรถยนต์ที่ครอบครอง

'เสรีพิศุทธ์' ชี้ไม่พกใบขับขี่ปรับ 5 หมื่น เป็นกฎหมายชนชั้นคนรวยไม่มีทางโดน-ยั่วยุตำรวจรับสินบนหนักขึ้น

ด้าน MGR Online รายงานว่าเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้คัดค้านกรณีที่กรมการขนส่งทางบกได้ปรับปรุงกฎหมาย โดยมีการให้เพิ่มโทษความผิดเกี่ยวกับการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ปัจจุบันมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนร่างพระราชบัญญัติฯ ใหม่เสนอให้ปรับเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท โดยระบุว่าเป็นเรื่องของชนชั้น คนรวย คนใหญ่โต ที่มีคนขับรถ จะไม่มีโอกาสถูกข้อหานี้ แต่คนที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวจะโดน บางคนเงินเดือนยังไม่ถึง 5 หมื่นเลย แล้วเค้าจะเอาอะไรกิน ถ้าบอกว่าเป็นอัตราโทษสูงสุดสามารถปรับน้อยกว่านี้ แล้วจะกำหนดทำไม แล้วหากจะปรับจริงก็ได้ 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ประชาชนลำบากมาก รัฐตกมันใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่ง แค่ใบขับขี่ปรับ 1 หมื่นถึง 5 หมื่น รัฐบาลขยันแต่ออกกฎหมายปัญญาอ่อน ประชาชนไม่มีจะกินอยู่แล้ว เคยคำนึงถึงคนจนบ้างไหม อย่ามองแต่ตัวเอง 

ตนมองเห็นว่าเป็นแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ที่บอกว่ารถติด เกิดอุบัติเหตุมากเพราะไม่มีใบขับขี่ ทำไมไม่สร้างคนตั้งแต่เด็ก หรือผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะพัฒนาได้ไหม ขนาดนาฬิกา 25 เรือนยังบอกว่ายืมเพื่อนมา ขนาดคุณยังมีคุณธรรมแค่นี้แล้วจะให้พวกนี้มีขนาดไหน ตนเสนอใช้สื่อให้ความรู้ประชาชนว่าอะไรควรไม่ควร ที่สำคัญต้องเปลี่ยนระบบการศึกษา 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขนาดโทษเก่าจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 ตำรวจยังเรียกเลย คนไทยก็ยอมเสียไม่อยากไปโรงพัก ทีนี้พอเพิ่มเป็น 5 หมื่น คนยิ่งไม่อยากไปโรงพัก ยอมเจรจาจ่ายให้ตำรวจเลย แทนที่จะแก้ปัญหา กลับทำให้ตำรวจเสียคน เพราะถูกยั่วยุ แทนที่ทำตามกฎหมาย กฎหมายนี้ถูกส่งเข้า สนช.พิจารณา ถ้าผ่านจะเป็นปัญหากับประเทศ ฝาก สนช.ไว้ด้วยแล้วกัน