เลขาฯ สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ จี้ ป.ป.ช.เร่งชี้มูลคดีโรงพัก พร้อมส่งหลักฐานคำพิพากษาคดี 60 หน้า ด้าน 'สุเทพ' ย้ำ สตช.เสนอเปลี่ยนรูปแบบลงทุนไม่ใช่วิธีจัดจ้างให้ ครม.อนุมัติ
ภาพสุเทพขณะไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กชี้แจง
27 ส.ค. 2561 วันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) ได้เข้ายื่นหลักฐานเด็ดเป็นคำพิพากษาคดีโรงพัก จำนวน 60 หน้า ชี้ชัดการอนุมัติก่อสร้างโรงพักผิดมติคณะรัฐมนตรีพร้อมส่งภาพประติมากรรมคดีทุจริตโรงพัก พ.ศ. 2555 มูลค่าความเสียหาย 5,848 ล้านบาท ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ACT) เพื่อให้เร่งยุติชี้มูลคดีเพราะเหตุเกิดกว่า 6 ปีแล้ว
วิญญัติ กล่าวว่า 1) คดีนี้ตนได้มาติดตามทางถามเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2561 เพราะเห็นว่ารัฐเสียหายกว่า 5 พันล้าน ประชาชนไม่ได้ใช้บริการ ตำรวจไม่มีสถานที่ทำงานกว่า 6 ปีที่เกิดเรื่อง และประธานกรรมการ ป.ป.ช. รับว่าจะให้คดีนี้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2561 แต่มาถึงวันนี้คดีส่อว่าจะล่าช้าไม่เป็นไปตามสัญญา จนกระทั่งมีผู้ถูกกล่าวหาบางรายท้าทายการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช. และยังท้าทายให้เร่งฟ้องคดีอีกด้วย อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อตั้งแต่ตั้ง ป.ป.ช. มาเมื่อปี พ.ศ. 2542
2) เพื่อให้คดีนี้ยุติโดยเร็ว ตนมีหลักฐานใหม่เป็นคำพิพากษาคดีโรงพักจำนวน 60 หน้า ระบุชี้ชัดผู้เกี่ยวข้องคดีนี้อนุมัติให้ก่อนสร้างโรงพักจำนวน 396 แห่ง โดยวิธีการรวมก่อสร้างในสัญญาเดียวทั่วประเทศ เป็นการกระทำผิดมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 17 ก.พ. 2552 เป็นเหตุให้รัฐเสียหาย คดีเหลือเพียงว่าใครกระทำผิดบ้างในฐานะตัวการและผู้สนับสนุน คดีนี้จึงไม่ควรเนิ่นช้าเกินกว่าเดือนกันยายน 2561 ตามที่ประธาน ป.ป.ช. รับปาก และ 3) คดีนี้คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ที่มี สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน มีข้อวินิจฉัยไว้ว่า เป็นการขัดมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2552 และถือว่าคำวินิจฉัยเป็นที่สุด
วิญญัติ กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช.จะเกรงใจใครนัก รับเรื่องไว้ไต่สวนตั้งแต่ ปี 2556 ไต่สวนกันมากว่า 5 ปีแล้ว มีการขอเปลี่ยน วิชา มหาคุณ ออกจากการเป็นประธานไต่สวน ป.ป.ช. ก็ให้โอกาสและตามใจผู้ถูกกล่าวหามามากเพียงพอแล้ว ทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ถูกกล่าวหามาท้าทายให้เอาผิดอ้างโน่นนี่ถึงหน้าบันได ป.ป.ช. บ้านเมืองนี้จะเอาแบบนี้ใช่ไหม กฎหมายยังเหลือความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้องค์กรอิสระจะมีอยู่ทำไม อย่าให้ชาวบ้านเขามองว่า 2 มาตรฐานอีกต่อไป ผมขอให้กำลังใจกรรมการ ป.ป.ช.ในการทำงานคดีนี้
ด้าน 'สุเทพ' ย้ำ สตช.เสนอเปลี่ยนรูปแบบลงทุนไม่ใช่วิธีจัดจ้างให้ ครม.อนุมัติ
สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)' ชี้แจงกรณีสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ของ สตช. ว่า ข้อกล่าวหาของคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ข้อที่ 6 กล่าวหา หาก สตช.ต้องการเปลี่ยนแปลงวิธีการก่อสร้างก็ต้องนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อน ดังเช่นที่ สตช.ได้เคยปฏิบัติมาแล้วเมื่อคราวที่ สตช.มีบันทึกลงวันที่ 14 พ.ย. 2551 ขอเปลี่ยนแปลงวิธีจัดจ้าง ตรงนี้ที่ผมได้เรียนต่อกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ว่าคณะอนุกรรมการไต่ส่วน ป.ป.ช.สับสน อ่านหนังสือทางราชการแล้วไม่เข้าใจ อ้างว่า สตช.เคยเสนอขอเปลี่ยนวิธีการจัดจ้างมาแล้ว ตามหนังสือลงวันที่ 14 พ.ย. 2551 ซึ่งไม่จริง ความจริงคือหนังสือลงวันที่ 14 พ.ย. 2551 ทาง สตช.เขาเสนอ ครม.ขอเปลี่ยนแปลงรูปแบบการลงทุนจากวิธีแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ มาเป็นวิธีการงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามปกติ เพราะว่า วิธีแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ตามที่บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ เสนอมานั้นมันแพงกว่าวิธีปกติ 4,700 กว่าล้านบาท ต้องไปดูว่าทำไมเขาถึงได้เสนออย่างนี้เพราะมันมีที่มาที่ไป ที่มาคือ ครม.สมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ มีมติ 6 พ.ย. 2550 ครม.มีมติออนุมัติ ในหลักการ ตามที่ สตช.เสนอให้ สตช.และบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ร่วมกันดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สถานีตำรวจทดแทน โดยให้ สตช.และไปจัดทำและนำรายละเอียดโครงการที่ได้ทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง สำนักงบฯ กรมธนารักษ์ และบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ รวมทั้งรูปแบบแผนการระดมทุน แผนการใช้จ่ายเงิน และภาระผูกพันของภาครัฐ บทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาเสนอ ครม.อีกครั้งหนึ่งเพราะ ครม.เห็นว่า โครงการนี้มีวงเงินสูง มีผลผูกพันรัฐบาลหน้า จึงควรพิจารณาแนวทางดำเนินโครงการให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด จึงให้ สตช.ไปทำรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วนทุกด้าน และพิจารณาทางเลือกในการดำเนินการและบริหารจัดการด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบถึงความเหมาะสม คุ้มค่าในการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถระบุข้อดี-ข้อเสียที่ชัดเจนในทุกๆ ด้าน ให้ทำรายงานมาประกอบ เพื่อ ครม.จะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการต่อไป โดยให้ชะลอการดำเนินโครงการนี้เอาไว้ก่อน
สุเทพกล่าวต่อว่า เมื่อ ครม.มีมติให้ สตช.ไปจัดทำรายละเอียดไปคุยกับกระทรวงการคลัง สำนักงบฯ และไปดูว่ามีวิธีการดำเนินการในทางเลือกอื่นหรือไม่ จึงเป็นที่มาของหนังสือลงวันที่ 14 พ.ย. 2551 สตช.ก็ตอบ ครม.ว่าไปตั้งคณะกรรมการเสร็จแล้วเห็นสมควรเปลี่ยนวิธีการลงทุน จากวิธีเดิมมาเป็นการตั้งงบประมาณตามปกติ ในหนังสือทั้งฉบับ ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่า สตช.ขอเปลี่ยนแปลงวิธีจัดจ้าง เพราะ ครม.ไม่ได้สั่งให้ไปพิจารณาวิธีจัดจ้างมาเสนอ จึงกราบเรียนว่าอนุกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งข้อหาต่อตนด้วยความสับสนของตัวเอง ด้วยความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงของตัวเอง และตนไม่ได้อ้างเหตุผลอื่นมาหักล้าง ตนอ้างหนังสือวันที่ 14 พ.ย. 2551 ของ สตช.ที่อนุกรรมการ ป.ป.ช.ยกมาเป็นข้อกล่าวหา
ที่มา : สยามรัฐ, วอยซ์ ออนไลน์ เฟสบุ๊ก วิญญัติ ชาติมนตรี และเฟสบุ๊ก Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)