Skip to main content
sharethis

ฮิวเมนไรท์วอทช์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวผู้ลี้ภัยชนกลุ่มน้อยจากเวียดนามและกัมพูชาในทันที ชี้มีเด็กถูกจับกุมกว่า 50 ชีวิต ละเมิดสนธิสัญญาด้านสิทธิเด็กที่ไทยลงนาม เผยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการขาดความเข้าใจเรื่องสิทธิผู้ลี้ภัย ถามว่าเป็นผู้ลี้ภัยได้อย่างไรในเมื่อประเทศต้นทางไม่มีสงคราม

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและความมั่นคงในอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรีเข้าจับกุมผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่ภัยจำนวน 181 คน เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวเขาเผ่าจาไรจากชายแดนเวียดนามและกัมพูชาที่หลบหนีความขัดแย้งในประเทศบ้านเกิดตัวเอง และส่วนใหญ่ได้รับการรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)

วันนี้ (30 สิงหาคม 2561) ฮิวเมนไรท์ว๊อทช์ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวผู้ลี้ภัยทั้งหมดโดยเร็วที่สุดพร้อมเรียกร้องให้ไทยทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาคมระหว่างประเทศว่าจะคุ้มครองผู้ลี้ภัย และหลีกเลี่ยงการกักขังเด็กในทุกกรณี

“ประเทศไทยชอบอ้างว่าจะคุ้มครองสิทธิของผู้ลี้ภัยให้มากขึ้น แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องสูญเปล่าหลังเจ้าหน้าที่รัฐเข้าจับกุมหลายครอบครัวผู้ซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยตรงจากหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของฮิวเมนไรท์ว๊อทช์กล่าว “ชาวเขาเหล่านี้จะต้องประสบกับประหัตประหารอย่างรุนแรงหากพวกเขาถูกส่งกลับกับพูชาและเวียดนาม ซึ่งประเทศไทยไม่ควรทำเช่นนั้นในทุกกรณี”
 
ฮิวเมนไรท์วอทช์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการจับกุมไม่มีความเข้าใจเรื่องข้อผูกมัดของรัฐบาลไทยในการปกป้องผู้ลี้ภัย โดยผู้ลี้ภัยคนหนึ่งกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่หลายคนเข้ามาถามผมว่ามาที่นี้ทำไม มาได้อย่างไร และจ่ายไปเท่าไหร่ เข้าถามว่าใครช่วยให้ผมได้บัตรผู้ลี้ภัย [ของสหประชาชาติ] และผมจ่ายเงินไปเท่าไหร่ หลายคนก็ถามถึงการเดินทางมาประเทศ...เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคนหนึ่งบอกว่าเราเข้ามาแบบผิดกฎหมายและเราต้องทำตามกฎหมาย” 

เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ภัยและผู้แสวงหาที่ลี้ภัยทั้งหมดไปที่สำนักงานเขตบางใหญ่เพื่อตั้งข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายตามมาตรา 11 62 และ 81 ของ พ.ร.บ. คนเข้าเมือง 2522 ตัวแทนจาก UNHCR ประจำประเทศไทยได้เดินทางไปที่สำนักงานเขตเพื่อดำเนินการขอปล่อยตัวทั้งผู้ลี้ภัยที่ได้รับการคุ้มของโดยสหประชาชาติ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

เจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยได้ถามเจ้าหน้าที่ UNHCR ว่าบัตรผู้ลี้ภัยที่ผู้ถูกจับกุมถือเป็นของจริงหรือไม่ พร้อมยังถามอีกว่าผู้ที่ถูกจับกุมจะเป็นผู้ลี้ภัยได้อย่างไรในเมื่อประเทศของพวกเขาไม่มีสงคราม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องสถานะผู้ลี้ภัย และข้อผูกมัดของรัฐไทยในการคุ้มครองผู้ลี้ภัยอย่างชัดเจน ฮิวเมนไรท์วอช์ระบุ

ในช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ลี้ภัย 34 คนที่มีสัญชาติกัมพูชาไปควบคุมตัวที่ศูนย์กักตัวสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวนพลู เพื่อรอส่งตัวกลับประเทศต้นทาง และนำตัวผู้ลี้ภัยสัญชาติเวียดนามอีก 38 คนไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อรับฟังข้อกล่าวหาในวันต่อมาแต่สุดท้ายไม่สามารถดำเนินการฟ้องได้เนื่องจากไม่สามารถหาล่ามแปลภาษาจาไรได้ทันเวลา
 
“การดำเนินคดีกับผู้ลี้ภัยละผู้แสวงหาที่ลี้ภัยเหล่านี้ในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นการแสดงถึงความไม่เข้าใจในจุดประสงค์ของการเดินทางมาประเทศไทยของของพวกเขา” แบรด อดัมส์กล่าว “และเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุดตอนนี้คือพวกเขาอาจจะถูกส่งตัวกลับไปเจอกับการประหัตประหาร”

ฮิวเมนไรท์วอทช์ยังจี้ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามหลัก หลักการห้ามผลักดันไปเผชิญอันตราย (Non-Refoulement) ซึ่งห้ามไม่ให้รัฐใดๆ ส่งตัวบุคคลกลับประเทศต้นทางหากพวกเขามีโอกาสประสบความทรมานหรือการละเมิดสิทธิมนุษญชนอย่างรุนแรง ตามที่ระบุอยู่ในมาตราที่ 3 ของสนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการยุติการซ้อมทรมาน และถือเป็นทำเนียมปฏิบัติของกฎหมายระหว่างประเทศ ยังและเรียกร้องให้ไทยทำตามสิ่งที่ได้ประกาศในปี 2559 ว่าจะยุติการคุมขังเด็กในทุกกรณี และทำตามมติคณะรัฐมนตรีเดือนมกราคม 2560 ที่ระบุว่าจะสร้างระบบคัดกรองผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาการลี้ภัย

สนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งประเทศไทยลงนามในปี 2535 ระบุว่า “การจับกุม คุมขัง หรือจำคุกเด็กจะต้องกระทำตามกรอบของฎหมายและจะต้องถูกใช้เป็นมาตรการสุดท้ายโดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด” อีกทั้งยังระบุว่า “เด็กที่กำลังแสวงหาสถานะผู้ลี้ภัยหรือมีสถานะผู้ลี้ภัยตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือในประเทศ ไม่ว่าอยู่กับผู้ปกครองหรือไม่ก็ตาม จะต้องได้รับการปกป้องคุมครองและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเหมาะสม และได้รับสิทธิทุกประการที่ระบุอยู่ในสนธิสัญญา และกลไกด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอื่นๆ ”

“ประเทศไทยกำลังละเมิดข้อผูกมัดที่ตนให้ไว้กับประชาคมระหว่างประเทศด้วยการกักตัวเด็กมากกว่า 50 ซึ่งเป็นลูกหลายของผู้ลี้ภัย และผู้แสวงหาที่ลี้ภัย” แบรด อดัมส์เสริม “สถานะผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติควรจะรับรองได้ว่าครอบครัวเหล่านี้จะไม่ถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่รัฐไทยจึงควรปล่อยตัวพวกเขาโดยเร็วที่สุด”

จนท.บางใหญ่จับผู้แสวงหาที่ลี้ภัยกัมพูชา-เวียดนาม 168 ราย แม้ส่วนมากถือบัตร UNHCR, 28 ส.ค. 2561

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net