Skip to main content
sharethis

ที่มาภาพ: Facebook Banrasdr Photo

วันนี้ (30 ส.ค. 2561) มีรายงานข่าวว่า สน.บางเขน ได้ออกหมายเรียก นิสิต-นักศึกษา 7 คน จากการจัดกิจกรรมทำความสะอาดอนุสาวรีย์หลักสี่ (อนุสาวรีย์ปราบกบฏ) เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2559 หรือกว่าสองปีที่ผ่านมา หมายเรียกจาก สน.บางเขน ระบุข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 เรื่องชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เนื่องจากชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุม

หมายเรียกระบุให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คน ได้แก่ น.ส.อรัญญิกา จังหวะ, นายเกษมชาติ ฉัตรนิรัติศัย, น.ส.สุทธิดา วัฒนสิงห์, นายกานต์ สถิตศิวกุล, นายอุทัย ช่วยตั้ว, นายคุณภัทร คะชะนา, และ น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ ไปพบพนักงานสอบสวน ที่ สน.บางเขน ในวันที่ 5 ก.ย. 2561 เวลา 9.00 น.


หมายเรียกจาก สน.บางเขน ที่นิสิตเกษตรได้รับลงวันที่ออก 29 กันยายน 2561
แต่ให้นิสิตมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 5 กันยายน 2561

อรัญญิกา จังหวะ นิสิตคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1 ในผู้ถูกแจ้งข้อหาเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน เวลาประมาณเก้านาฬิกา ซึ่งเป็นเวลานัดหมายในการทำกิจกรรม “24 มิถุนา ปัดฝุ่นประชาธิปไตย” เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยแค่เดินเข้าไปที่วัดพระศรีฯ แล้วเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาคุย สกัดกั้นไม่ให้เข้าไปทำกิจกรรมและจับตัวนิสิต-นักศึกษา 7 คน ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สน.บางเขน โดยไม่ให้ทนายความเข้าพบผู้ต้องหาและได้ยึดโทรศัพท์มือถือไป

อรัญญิกา ตั้งข้อสังเกตุว่า คดีนี้เงียบหายไปสองปีเศษ แต่เข้าใจว่าที่ตำรวจเอามาเป็นเรื่องออกหมายเรียกเนื่องมาจากได้มีการทำกิจกรรมติดป้ายแจกใบปลิว ไม่ต้อนรับเผด็จการ คสช. จากที่มีข่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาที่ ม.เกษตรศาสตร์ ในวันที่ 22 สค.ที่ผ่านมา และการรณรงค์ค้านการออกกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา


ภาพจาก FacebooK กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์

เวลาประมาณ 20.30 น. กลุ่มกลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจ กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ ยืนยันว่าการทำกิจกรรมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญและตั้งข้อสังเกตว่าการรื้อฟิ้นดำเนินคดีในเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วกว่าสองปี มีเหตุจากการทำกิจกรรมติดป้ายผ้าและแจกใบปลิวไม่ต้อนรับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา

แถลงการณ์กรณีออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดี ‘ปัดฝุ่นประชาธิปไตย’

เนื่องจากในวันที่ 29 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 ห้ามมั่วสุมชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป จากกรณีที่กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในวันที่ 24 มิถุนายน 2559 ที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ วงเวียงหลักสี่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนในวันที่ 5 กันยายน 2561 

ในนามของกลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ขอยืนยันว่าการจัดกิจกรรมของกลุ่มดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยหลักการ วิถีทางประชาธิปไตยและไม่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง กิจกรรมของกลุ่มเป็นกิจกรรมรำลึกเนื่องในวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประชาชนจึงมีสิทธิที่จะกระทำได้ตามมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 4 ที่บัญญัติไว้ว่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองปวงชนชาวไทยย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญเสมอกัน ประกอบกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติไม่ถือว่าเป็นกฎหมายเพราะขัดกับหลักนิติธรรมและรัฐธรรมนูญดังที่กล่าวมา 

ดังนั้นแม้จะมีความพยายามในการใช้ประกาศหรือคำสั่งต่างๆที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมในการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน เรายังคงยืนยันในความบริสุทธิ์และพร้อมที่จะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป อีกทั้งทางกลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการออกหมายเรียกในครั้งนี้ด้วยว่าเกี่ยวข้องกับกรณีที่ทางกลุ่มฯ ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการติดป้ายผ้าและแจกใบปลิวไม่ต้อนรับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะตลอดระยะเวลา 2 ปี กว่าที่ผ่านมาคดีความไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดแต่กลับมีการดำเนินการอย่างเร่งรีบภายหลังจากมีกิจกรรมของทางกลุ่มฯ

ดังนั้นถ้ามีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ทางกลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์จะแจ้งให้ทราบผ่านแฟนเพจเฟสบุ๊ค กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ต่อไป พร้อมทั้งขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ยังศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยที่ยังคงต่อสู้อยู่ในกระบวนการประกาศคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมมา ณ ที่นี้ด้วย

กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์
30 สิงหาคม 2561

 
ภาพจาก FacebooK กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net