Skip to main content
sharethis

บอร์ด สปสช.รับทราบ ผลสำรวจ 'บัตรทอง' ปี 61 'ปชช.พึ่งพอใจระดับมากทึ่สุด' เผย 3 อันดับแรก พึ่งพอใจความเชี่ยวชาญแพทย์/พยาบาล/เจ้าหน้าที่, เชื่อมั่นการรักษาและอุปกรณ์-เครื่องมือทางการแพทย์ ขณะที่ผลสำรวจรับบริการรอบ 6 เดือน มีประชาชนใช้สิทธิบัตรทองถึงร้อยละ 96.9 ขณะที่ 3 เหตุผลของการไม่ใช้สิทธิมากที่สุด กว่าครึ่งคือ 'รอนาน' นอกจากนี้ยังมี 'ไม่สะดวกเดินทางไปสถานพยาบาลตามสิทธิ' และ 'สถานพยาบาลที่มีสิทธิไม่มีบริการที่ต้องการรักษา'

3 ก.ย.2561 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รายงานว่า วันนี้ (3 ก.ย.61) ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ศ.เกียรติคุณ คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า ในวันนี้บอร์ด สปสช.ได้รับทราบรายงาน “ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี 2561” จัดทำโดยมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ผ่านมา สปสช. ได้ดำเนินการจัดทำการสำรวจความคิดเห็นเป็นประจำทุกปี ซึ่ง บอร์ด สปสช.ได้นำผลการสำรวจที่ได้มาพิจารณาเพื่อทำการปรับปรุงและพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระบบดูแลประชาชนได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง มีคุณภาพและมาตรฐานบริการทางการแพทย์ ตามเจตนารมณ์ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545

รศ.ดร.สุรชาติ ณ หนองคาย ผู้แทนมหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ในการสำรวจความคิดเห็นฯ ปี 2561ได้เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 5,346 คน ใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ ช่วงระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2561 พบว่าประชาชนยังคงมีความพึ่งพอใจโดยรวมต่อระบบบัตรทองในระดับมากที่สุด คือร้อยละ 93.9 โดยประเด็นที่ประชาชนพึ่งพอใจมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ความรู้ความสามารถและความเชี่ยชาญของแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ร้อยละ 93.9 ความเชื่อมั่นในการรักษาและความปลอดภัยในระหว่างรับบริการ ร้อยละ 93.4 และอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ ร้อยละ 92.5

ส่วนภาพรวมการรับรู้ต่อระบบบัตรทอง 3 อันดับที่ประชาชนรับรู้มากที่สุด คือเจ็บป่วยทั่วไปใช้บริการสถานพยาบาลที่ลงทะเบียนสิทธิก่อน ร้อยละ 83.3 เจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาสถานพยาบาลที่ใดก็ได้ที่ใกล้ที่สุด ร้อยละ 78.6 และใช้สิทธิเข้ารับบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคได้ ร้อยละ 61.3 ส่วนเรื่องที่รับรู้น้อยและมีคะแนนต่ำสุดใน 3 อันดับ คือการเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำได้ปีละไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี ร้อยละ 25.6 ผู้มีสิทธิที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ร้อยละ 30 และผู้ป่วยโรคจิตเรื้อรังได้รับบริการต่อเนื่องที่บ้านหรือชุมชน ร้อยละ 34.6 และในการสำรวจครั้งนี้ยังได้สอบถามการรับรู้หมายเลขโทร.สายด่วน สปสช. 1330 โดยมีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 4 ที่บอกได้ ขณะที่บางส่วนเข้าใจผิดว่าเป็นหมายเลข 1669 ที่เป็นสายด่วนของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)

เมื่อดูการรับบริการและใช้สิทธิบัตรทองของประชาชนช่วงรอบ 6 เดือน มีประชาชนเข้ารับบริการจำนวน 4,438 ราย หรือร้อยละ 83 ในจำนวนนี้ใช้สิทธิบัตรทองจำนวน 4,303 ราย หรือร้อยละ 96.9 และไม่ใช้สิทธิบัตรทอง 135 ราย หรือร้อยละ 3 เหตุผลของการไม่ใช้สิทธิมากที่สุด คือรอนาน ร้อยละ 51.9 ไม่สะดวกเดินทางไปสถานพยาบาลตามสิทธิ ร้อยละ 19.3 สถานพยาบาลที่มีสิทธิไม่มีบริการที่ต้องการรักษา ร้อยละ 8.1 เป็นต้น และเมื่อสอบถามถึงการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการใช้สิทธิ มีจำนวน 135 ราย หรือร้อยละ 3.1 ส่วนใหญ่เป็นการจ่ายค่ายาเพิ่มเติม ค่าตรวจพิเศษ เช่น ส่องกล้อง เอ็กซ์เรย์  CT Scan และ MRI เป็นต้น และค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น

นอกจากนี้จากการเปิดให้ผู้ตอบระบุเรื่องที่ยังไม่พึงพอใจต่อระบบบัตรทอง พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 1.34 ระบุว่าไม่สามารถใช้สิทธินอกเวลาได้ สิทธิประโยชน์ไม่ครอบคลุม, ร้อยละ 0.96 ไม่สามารถเลือกหน่วยบริการได้ และร้อยละ 0.48 ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารเท่าที่ควร เช่น ข้อมูลสิทธิ/ หน้าที่ การย้ายสิทธิ์ เป็นต้น

ขณะที่ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นฯ ครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้มีการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบบัตรทอง อาทิ สร้างการรับรู้เพิ่มขึ้นต่อหน่วยงาน สปสช. สายด่วน 1330 และสิทธิประโยชน์บัตรทอง ขอความร่วมมือหน่วยงานเครือข่ายภาคีประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ทั่วถึง การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการรับสื่อของประชาชนตามวัย การยกระดับความพึงพอใจในเรื่องที่ประชาชนพอใจต่ำกว่าเกณฑ์ และการส่งเสริมให้ประชาชนมั่นใจในการใช้สิทธิเมื่อมาใช้บริการ โดยปรับให้บัตรทองเป็นระบบรักษาพยาบาลแรกที่ประชาชนจะใช้เมื่อเจ็บป่วย และจัดการระบบส่งต่อให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดความแออัดในสถานพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่งมากเกินไป โดย สปสช.จะนำข้อเสนอแนะเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาระบบบัตรทองต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net