ออกหมายจับ 'แอดฯเพจ CSI LA - 12 แชร์' ปมโพสต์ข่าวข่มขืนบนเกาะเต่า 'ทนายวิญญัติ' ชี้ให้ดูที่เจตนา

ศาลอนุมัติหมายจับแอดมินเพจ CSI LA และผู้แชร์ข้อมูล รวม 13 คน ผิด พ.ร.บ.คอมฯ 'ทนายวิญญัติ' ชี้จะผิด 'ผู้แชร์' ต้องรู้ว่าข้อมูลที่แชร์นั้นเป็นเท็จและบิดเบือน และต้องมีคนชี้หรือยืนยันว่า “ความจริงคืออะไร” สำหรับการแชร์ข่าวสารนั้น 'วัฒนา' ระบุโพสต์ของเพจฯ 'ไม่ได้' ทำให้เกิดความเสียหาย-ตื่นตระหนก

 

4 ก.ย.2561 จากกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ อ้างว่าถูกข่มขืนบนเกาะเต่าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.61 ซึ่งสำนักข่าวเดลิเมล์ของอังกฤษได้รายงานเรื่องนี้ในวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 3 ก.ย. เพจ CSI LA ซึ่งมียอดผู้กดถูกใจเพจกว่า 8 แสน ได้โพสต์ข้อมูล ซึ่งเป็นไทม์ไลน์ที่แม่ของผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวอังกฤษได้ติดต่อไปยังสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเกี่ยวกับกรณีที่ลูกสาวของเธอโดนข่มขืน และเมื่อลูกสาวเธอไปแจ้งความตำรวจกลับรับแจ้งเฉพาะกรณีของหาย แต่ไม่ลงข้อมูลเรื่องการข่มขืนโดยอ้างว่าเป็นคนละพื้นที่กัน โดยเพจ CSI LA ได้แนบหลักฐานเป็นอีเมลและรายละเอียด 

ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ย.) วอยซ์ทีวีรายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับแอดมินเพจ CSI LA และผู้แชร์ข้อมูล รวม 13 คน ฐานกระทำผิดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ฯลฯ 

มติชนฉบับวันที่ 4 ก.ย. รายงานว่า ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่ลงพื้นที่และเข้าพบ พอล เคย์ กงสุลใหญ่แห่งสหราชอาณาจักรชี้แจงว่า คืนวันเกิดเหตุเป็นวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ห้วงเวลาดังกล่าวระดันน้ำทะเลสูงขึ้นมาถึงฝั่ง ไม่มีใครสามารถนั่งดื่มบริเวณชายหาดได้ หากผู้เสียหายอ้างว่ามีการอุ้มไปที่โขดหิน จปร. จริง ก็ต้องอุ้มเดินลุยลงไปในน้ำถือว่าผิดปกติมาก นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ รปภ. บริเวณริมชายหาด จึงสรุปได้ว่า ไม่มีการวางยาและการข่มขืนเกิดขึ้น และพร้อมเดินทางไปสอบปากคำผู้เสียหายที่อังกฤษ เพราะต้องทำความจริงให้ปรากฎเพื่อปกป้องชื่อเสียงประเทศ

เช่นเดียวกับที่พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าช่วงเกิดเหตุเวลา 01.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. ที่ผู้เสียหายระบุเวลานั้นยังมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก นักท่องเที่ยวผู้คนยังเดินพลุกพล่าน บริเวณใกล้เคียงมีชุดสายตรวจเกาะเต่าเดินตรวจอยู่ และมีกล้องวงจรปิดบริเวณในระยะ 300 เมตรอยู่ 7 ตัว

ขณะที่ไทม์ไลน์จากเพจ CSI LA ระบุว่า วันที่ 4 ก.ค. เพื่อนชายกลับไปเกาะเต่าเพื่อจะหาหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ร้าน Fishbowl เเต่ถูกบอกว่ากล้องไม่ทำงานทุกอย่างถูกลบไปเเล้ว

มติชนฉบับดังกล่าวยังระบุว่า ภัทรา แจ่มตระกูล ผู้ดูแลที่พักได้รับการบอกเล่าจากผู้เสียหายว่าตนถูกวางยาในเครื่องดื่มถูกข่มขืนบริเวณแหลมหิน จปร. และถูกนำทรัพย์สินไป โดยภัทราได้แนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ผู้เสียหายอ้างจะรีบไปพบแฟนหนุ่มที่มางานฟูลมูน ผิดวิสัยที่เป็นผู้เสียหาย

ขณะที่ข้อมูลจาก พ.ต.ท.นพา เสนาทิพย์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เกาะเต่า เผยว่า คดีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบนเกาะเต่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องทรัพย์สินสูญหาย และผู้เสียหายมาขอลงบันทึกประจำวันเพื่อนำไปขอเคลมประกัน โดยในเดือนส.ค. 61 สภ.เกาะเต่ารับแจ้งความลงบันทึกประจำวันทรัพย์สินสูญหายมากถึง 20 ราย

ทนายวิญญัติ ชี้ให้ดูที่เจตนา

ด้าน วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความและเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) โพสต์เฟซบุ๊คแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า การแชร์ข่าวสาร เพจ CSI LA ที่กล่าวหาว่า “บิดเบือน” หรือ ”ปลอม” ข้อมูลนั้น มีการกระทำที่มีเจตนาพิเศษ “โดยทุจริต” หรือ “โดยหลอกลวง” หรือไม่ ผู้แชร์ต้องรู้ว่าข้อมูลที่แชร์นั้นเป็นเท็จ และบิดเบือน นั่นคือต้องมีคนชี้หรือยืนยันว่า “ความจริงคืออะไร” การแชร์ข่าวสารนั้น จึงจะเป็นความผิดได้ คดีข่มขืนเป็นความผิดต่อส่วนตัวผู้ตกเป็นผู้เสียหาย จะเป็นจริงหรือเท็จ ผู้ไม่อยู่ในเหตุการณ์ ใครจะรู้ หากมีการแจ้งความโดยผู้เสียหาย หน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนสอบสวนหาความจริงและผู้กระทำผิด ทำแล้วหรือยัง การแชร์ข่าวสารนั้น สร้างความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะอย่างไร มันคล้ายกับการแชร์เรื่องนาฬิกาหลายเรือนก่อนหน้านี้หรือไม่

'วัฒนา' ระบุโพสต์ของเพจฯ 'ไม่ได้' ทำให้เกิดความเสียหาย-ตื่นตระหนก

เช่นเดียวกับ วัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า การที่เพจ CSI LA นำเสนอข้อมูลว่าชาวอังกฤษถูกข่มขืนที่เกาะเต่านั้น ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน อันจะถือเป็นความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ได้เลย เพราะคดีข่มขืนเป็นคดีทั่วไปที่เกิดขึ้นเป็นประจำอีกทั้งยังเป็นความผิดที่ยอมความได้ ความผิดฐานข่มขืนไม่ได้อยู่ในหมวดความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง

ส่วนที่บอกว่าตำรวจไม่ดำเนินการอะไรก็เป็นการวิจารณ์การทำงานของตำรวจที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ไม่อาจเป็นความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ได้อีกเช่นกัน สิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรทำคือสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ด้วยการเร่งทำการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่างแล้วชี้แจงให้ประชาชน นอกจากนี้ควรขอบคุณเพจ CSI LA ที่นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมาตลอด เช่น การนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนาฬิกาเพื่อน 25 เรือนจนนำไปสู่การตรวจสอบของประชาชน นี่เป็นอีกตัวอย่างของการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือปิดปากประชาชนในยุคเผด็จการเรืองอำนาจ วันที่อำนาจกลับคืนมาเป็นของประชาชนต้องสะสางกัน อีกไม่นาน

ไทม์ไลน์ที่แม่ผู้เสียหายติดต่อไปยังสถานทูตอังกฤษ ในเพจ CSI LA

1. 26/06/2018 เด็กสาวชาวอังกฤษถูกมอมยาเเละถูกข่มขืนเเละหนีเดินทางออกจากเกาะเต่าไปเกาะพะงัน

(The girl found out the someone spiked her drink and raped her. She left Koh Tao to Koh Phangan)

2. 27/06/2018 "ตัดสินใจเข้าเเจ้งความกับตำรวจสภ.เกาะพงันว่าโดนข่มขืนเเต่ตำรวจไม่รับเเจ้งเพราะไม่ใช่พื้นที่ตัวเอง เเต่ลงบันทึกประจำวันรับเเจ้งของหาย

(The girl decided to report rape case to the Koh Phangan police but the office refused to record the rape case citing that it’s out of their jurisdiction. The office only filed missing property report. )"

3. 02/07/2018 "เหยื่อเดินทางกลับอังกฤษเเละบอกคุณเเม่เธอว่าถูกข่มขืน คุณเเม่เธอได้ติดต่อตำรวจอังกฤษชื่อ Kevin Brown

(The girl left Thailand to UK and reported the alleged incident to the UK police)

4. 03/07/2018 "คุณ​เเม่ติดต่อกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย กับคุณ Brian Lesley

(The Girl Mom Contacted the UK consulate and spook to Mr. Brian Lesley)

5. 04/07/2018 เพื่อนชายกลับไปเกาะเต่าเพื่อจะหาหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ร้าน Fishbowl เเต่ถูกบอกว่ากล้องไม่ทำงานทุกอย่างถูกลบไปเเล้ว

( Martin went back to Koh Tao and report the rape to the local police and check CCTV camera at Leo Bar)

6. 12/07/2018 คุณเเม่ติดต่อตำรวจท่องเที่ยว เเละรายงานว่าลูกสาวเธอถูกข่มขืนเเต่ตำรวจไทยไม่ยอมรับเเจ้งความ

(Sarah Contacted Thai Tourist Police that her daughter got rape but Koh Phangan police refused to file a report)

7. 15/07/2018 "ตำรวจท่องเที่ยวตอบกลับมา ขอให้คุณเเม่ส่งหลักฐานไปให้ตำรวจท่องเที่ยว

(Tourist Police responded and asked for evidence to be sent to Thailand)

8. 31/07/2018 คุณเเม่ติดต่อท่านทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเเละเล่าเรื่องของเธอให้เขาฟัง

(Sarah contacted the UK ambassador inThailand.)

9. 1/08/2018 "ได้รับการตอบกลับของท่านทูตอังกฤษ Brian Davidson

(The Girl Mom Contacted the UK consulate and spook to Mr. Brian Lesley)

10. 21/08/2018 "หนังสือพิมพ์ Daily Mail ได้นำเสนอออกมาเป็นข่าว

สำหรับเฟสบุ๊กแฟนเพจ 'CSI LA' เป็นที่รู้จักในวงกว้างหลังการนำเสนอเรื่องราวถูกฆาตกรรมบริเวณหาดทรายรี บนเกาะเต่าเมื่อ ก.ย. 2557 โดยผู้ต้องหาคือ แรงงานชาวเมียนมา 2 คน หรือกรณีเปรียบเทียบราคานาฬิกาหรู ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  เป็นต้น

 

*หมายเหตุ แก้ไขพาดหัวจาก 13 แชร์ เป็น 12 แชร์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 61

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท