Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

บ้านพักตุลาการอีกแล้ว!  การทุบบ้านพักตุลาการธนบุรีซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 100 หน่วย เพื่อสร้างห้องชุด 100 หน่วย ถือเป็นกรณีตัวอย่างของความไม่คุ้มค่า ควรได้รับการทบทวนเป็นอย่างยิ่ง

นี่ไม่ใช่หมู่บ้าน "ป่าแหว่ง" เชียงใหม่ แต่เป็นบ้านพักตุลาการธนบุรี ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครนี้เอง ที่ซอยกำนันแม้น อยู่ด้านหลังของศาลแขวงธนบุรี ในบริเวณนี้มีกลุ่มอาคารของศาล ได้แก่ ศาลแขวงธนบุรี ศาลอาญาธนบุรี ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอุทธรณ์ภาค 9 สำนักงานอัยการสูงสุดธนบุรี  หากเข้าทางซอยกำนันแม้น (เอกชัย 36) เมื่อถึงทางเข้าศาลแพ่งธนบุรี ก็เลี้ยวขวาเข้าไป หลังจากผ่านอาคารศาลแพ่งแล้ว ก็จะพบสนามเทนนิส  ต่อจากสนามเทนนิสก็คือบ้านพักตุลาการธนบุรีแห่งนี้

บ้านพักตุลาการแห่งนี้มีลักษณะเป็นเรือนแถว 100 หน่วย ก่อสร้างมาพร้อมกับศาลธนบุรี 3 ศาล (ศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลแขวง) มีอายุการใช้งานมาแล้ว 37 ปี ถึงเวลานี้ทั้งศาลและบ้านพักยังมีสภาพมั่นคงแข็งแรงดีมาก  การใช้เงินสร้างห้องชุด ห้องละ 5 ล้านบาท (ยังไม่รวมค่าที่ดิน) และสร้างได้แค่ 100 หน่วยเท่ากับไม่ได้สร้างอะไรเพิ่มขึ้นเลย  เพราะแต่เดิมก็มี 100 หน่วยแล้ว  แล้วอย่างนี้จะรื้อสิ่งที่มีอยู่และมีสภาพดีไปทำอะไร  ทุกวันนี้ยังมีที่ดินราชพัสดุที่ศาลใช้สอยอยู่ในบริเวณอื่นที่ควรสร้างอีกหลายแห่ง  น่าจะนำงบประมาณไปสร้างที่อื่น ซึ่งจะก่อประโยชน์ได้มากกว่านี้  การใช้เงินถึง 500 ล้านในการสร้างอาคารชุดจึงถือว่าไม่คุ้มค่า เป็นความสูญเปล่าประการหนึ่ง

ในเบื้องต้นบ้านทาวน์เฮาส์นี้ คาดว่ามีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 180 ตารางเมตร หากทำการปรับปรุงด้วยงบประมาณ ตารางเมตรละ 4,000 บาท ก็จะเป็นเงินหลังละประมาณ 720,000 บาท ในจำนวนทาวน์เฮาส์ 100 หลัง ก็จะใช้เงินเพียง 72 ล้านบาท  แทนที่จะใช้เงินถึง 500 ล้านบาทในการก่อสร้างอาคารชุดหรือาคารที่อยู่อาศัยรวมขึ้นมาใหม่  สามารถประหยัดเงินได้ถึง 428 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อย  ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าการใช้เงิน 500 ล้านบาทมาสร้างใหม่เช่นนี้ จึงไม่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง

บ้านพักตุลาการที่สร้างมานี้ ค่าก่อสร้างใหม่จะเป็นเงินประมาณ ตารางเมตรละ 10,000 บาท ทั้งนี้ตามราคาค่าก่อสร้างอาคารของมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย (อ่าน) ซึ่งก็เท่ากับหลังละ 1.8 ล้านบาท เมื่อหักค่าเสื่อมลงครึ่งหนึ่ง ก็เหลือหน่วยละ 0.9 ล้านบาท  การทุบทิ้งไปเลย ก็เท่ากับว่าเราสูญเสียเงินไป 90 ล้านบาท และค่าสาธารณูปโภค เช่น ถนน ระบบต่าง ๆ อีกประมาณ 20 ล้านบาท  รวมแล้วเป็นเงินประมาณ 110 ล้านบาท  การทำโครงการอาคารชุดใหม่ 100 หลังนี้ จึงเท่ากับได้ทำลายทรัพย์สินที่ควรจะยังรักษาไว้อีกถึง 110 ล้านบาทเลยทีเดียว

ในอีกแง่หนึ่ง การสร้างห้องชุดด้วยเงิน 500 ล้านบาท ได้ห้องชุด 100 หน่วย ๆ ละ 5 ล้านบาทนั้น หากนับรวมที่ดินเข้าไปด้วย โดยเบื้องต้นประมาณการว่าที่ดินแปลงนี้มีขนาด 7 ไร่ หรือ 2,800 ตารางวา  ที่ดินแถวนี้มีราคาตารางวาละ 80,000 บาท หรือเป็นเงินรวม 224 ล้านบาท ก็เท่ากับโครงการสร้างใหม่นี้ มีราคา 724 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินหน่วยละ 7.24 ล้านบาท  ประเด็นที่พึงพิจารณาก็คือ

1. การสร้างบ้านพักข้าราชการด้วยเงินหน่วยละ 7.24 ล้านบาทนี้มันมากเกินไปหรือไม่ ขาดความไม่พอเพียงหรือไม่

2. ยังจะมีค่าบำรุงรักษาที่อาจเป็นงบหลวงผูกพันอีกมากมายหรือไม่

3. ถ้านำเงินจำนวนนี้ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ณ อัตราดอกเบี้ย 3% จะได้เงินดอกเบี้ยปีละ 217,200 บาท หรือเดือนละ 18,100 บาท สามารถนำไปให้ผู้พิพากษาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ โดยที่เงินต้นทุนก็ยังอยู่ครบไปชั่วกัลปาวสานเลยทีเดียว

การสร้างบ้านพักตุลาการหรือแม้แต่ข้าราชการอื่นๆ ก็ควรได้รับการทบทวนเช่นกัน โดยเฉพาะระบบราชการส่วนภูมิภาคที่ต้องหมุนเวียนคนออกไปนอกเมือง และกลับมีข้าราชการส่วนกลางถึงราว 60"% ของข้าราชการทั้งหมด (อ่าน) ทำให้ต้องจัดหาสวัสดิการที่เกินความจำเป็นอยู่อย่างต่ำเนื่อง  งบประมาณที่จะนำไปพัฒนาประเทศจึงจำกัด เช่น "ขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ โดยมีผู้ต้องขังจำนวน 355,543 คน แต่เรือนจำรองรับได้ 200,000 คน" (อ่าน)

ถ้าห้องขังสำหรับผู้ต้องขังคนหนึ่งใช้เงินสร้างใหม่เป็นเงิน 50,000 บาท (ตัวเลขสมมติ) เงิน 500 ล้านบาทที่คิดจะสร้างบ้านพักตุลาการ จะสามารถสร้างคุกให้ผู้ต้องขังอยู่ได้ถึง 10,000 คนเข้าไปแล้ว  การเก็บ "คนที่ไม่ดี" ไว้ในคุก ย่อมดีกว่าปล่อยให้ออกมาง่ายๆ  ประเทศไทยของเราควรมีคุกที่มีมาตรฐาน พอเพียง และมีการดูแลให้เป็น "คนดี" ไม่ใช่ปล่อยให้อยู่กันอย่างยัดเยียด กลายเป็นกลุ่มแก๊งรังแก ทำร้ายกันและกัน  หาไม่จะทำให้ "คนดีๆ" ที่ติดคุกพลอยเสื่อมเสียหนักมากขึ้น

ประเทศไทยจึงควรใช้สอยงบประมาณอย่างประหยัดเพื่อประโยชน์ของปวงชนชาวไทยเป็นสำคัญ

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net