เทียบจำนวนเขตเลือกตั้ง 62 VS 54 พบตัดกำลังเพื่อไทย 8 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 3 ชาติไทยพัฒนา 1 ส่วนที่เหลืออีก 13 ที่นั่งเป็นพื้นที่จังหวัดที่มี ส.ส. จากหลายพรรค ที่นั่งที่จะหายไปยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนจะกระทบกับพรรคใด ต้องรอการประกาศเขตเลือกตั้งใหม่ก่อน อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการนำกฎใหม่มาวางทาบในพฤติกรรมการเลือกตั้งแบบเก่า แปลว่ามีหลายอย่างเปลี่ยนแปลง แน่ละเมื่อการเลือกตั้งหายไปจากสังคมไทยนานถึง 7 ปี
ความแตกต่างอย่างหนึ่งของการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 กับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 นี้คือ การออกแบบโครงสร้างการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่(ส.ส) จากเดิมที่กำหนดให้ที่มา ส.ส ว่ามาจากระบบแบ่งเขต 375 คน และมาจากระบบบัญชีรายชื่ออีก 125 คน แต่ในรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 กำหนดให้มี ส.ส. ได้มาจากการเลือกตั้งในระบบแบ่งเขต 350 คน และมาจากระบบบัญชีรายชื่อ 150 คน
ไม่เพียงเท่านั้นยังได้มีเปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่ทั้งหมดด้วย จากเดิมที่เคยได้บัตรเลือกตั้งมา 2 ใบ เพื่อกาให้คนที่รัก แล้วก็กาให้พรรคที่ชอบ หลังจากเลือกตั้งเสร็จ กกต. จะนับคะแนนบัตรสองประเภทนี้แยกกัน คนที่ได้คะแนนกว่าในระบบแบ่งเขตก็ถือว่าเป็นผู้ชนะไป ส่วนคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อจะนำมารวมกันทั้งประเทศและคิดเป็นสัดส่วนออกว่ามาแต่ละพรรคการเมืองจะได้ที่นั่งเพิ่มอีกเท่าไหร่ แต่มารอบนี้บัตรเลือกตั้งจะเหลือเพียงบัตรเดียว และกาได้ช่องเดียวเท่านั้น คือเลือกทั้งคนทั้งพรรคไปพร้อมๆ กัน และมีวิธีนับคะแนนที่แตกต่างออกไป
สำหรับการแบ่งเขตการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2561 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตของแต่ละจังหวัด โดยการคำนวนเขตเลือกตั้ง ตั้งต้นจากการหาค่าเฉลี่ยจำนวนประชากร ต่อ ส.ส. 1 คน โดยใช้จำนวนประชากร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2560 มีนำนวนประชากรทั้งสิ้น 66,188,503 คน เมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดให้มี ส.ส. แบ่งเขตได้ 350 คน นั่นเท่ากับว่า ส.ส. 1 คนจะเป็นตัวแทนของประชากรเฉลี่ย 189,110 คน (ขณะที่ในปี 2554 ส.ส. 1 คน จะเป็นตัวแทนของประชาการเฉลี่ย 170,000 คน)
จากนั้นจึงได้มีการคำนวนจำนวน ส.ส. ที่แต่ละจังหวัดพึงมี จากจำนวนประชากรที่มีอยู่ในทะเบียนราษฎร์ของจังหวัดนั้นๆ ซึ่งเมื่อนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบกับจำนวนเขตเลือกตั้ง และจำนวน ส.ส. ในปี 2554 จะต้องพบอยู่แล้วว่าจะมี ส.ส. หายไป 25 คน มี 23 จังหวัดที่จำนวน ส.ส. ลดลง โดยกรุงลงมาสุดถึง 3 ที่นั่ง หาคิดเป็นรายภาคพบว่า ภาคอีสานมีจำนวนลดลงมากที่สุดคือ 10 ที่นั่ง รองลงมาคือภาคกลาง(นับรวม กทม.) คือ 9 ที่นั่ง ภาคใต้และภาคเหนือพื้นที่ละ 3 ที่นั่ง ส่วนภาคตะวันตกและภาคตะวันออกมีที่นั่งคงเดิม
เมื่อลองค้นข้อมูลดูว่าในจำนวน 23 จังหวัดที่จะต้องเสียที่นั่ง ส.ส. ไปมีจังหวัดใดบ้างที่มีผู้แทนฯ จากพรรคการเมืองพรรคเดียวชนะยกจังหวัด พบว่า นักการเมืองพรรคเพื่อไทยชนะยก 8 จังหวัดคือ เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร และอุดรธานี พรรคประชาธิปัตย์ชนะยก 3 จังหวัดคือ กระบี่ ตรัง และนครศรีธรรมราช ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาชนะยก 1 จังหวัดคืออ่างทอง ซึ่งนั่นเท่ากับว่าจำนวน ส.ส. ในจังหวัดที่ชนะยกจังหวัดซึ่งเคยการันตีว่าจะได้ที่นั่งแน่นอนจะหายไป จังหวัดละ 1 ที่นั่ง รวม 12 ที่นั่ง ส่วนอีก 13 ที่นั่งที่เหลือยังต้องรอดูว่าจะมีการยุบเขตรวมเขตเลือกตั้งอย่างไรและจะกระทบต่อพื้นที่ของพรรคการเมืองใดบ้าง
แต่สามารถระบุได้ว่า 13 ที่นั่งที่จะหายไปนั้นมาหายไปจาก 12 จังหวัดคือ ชัยภูมิเดิมมี ส.ส. จากเพื่อไทย 6 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง นครราชสีมาเดิมมี ส.ส. จากเพื่อไทย 8 ที่นั่ง ชาติพัฒนา 4 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 4 ที่นั่ง บุรีรัมย์เดิมมี ส.ส. จากภูมิใจไทย 7 ที่นั่ง เพื่อไทย 2 ที่นั่ง สุรินทร์เดิมมี ส.ส. จากเพื่อไทย 7 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง อุบลราชธานีเดิมมี ส.ส. จากเพื่อไทย 7 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 3 ที่นั่ง ชาติไทยพัฒนา 1 ที่นั่ง
เพชรบุรีเดิมมี ส.ส. จาก เพื่อไทย 5 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 1 ที่นั่ง สระบุรีเดิมมี ส.ส. จากเพื่อไทย 2 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 2 ที่นั่ง สุโขทัยเดิมมี ส.ส. จากภูมิใจไทย 4 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 2 ที่นั่ง สุพรรณบุรีเดิมมี ส.ส. จากชาติไทยพัฒนา 4 ที่นั่ง เพื่อไทย 1 ที่นั่ง ซึ่งในทุกจังหวัดนี้จะถูกตัด ส.ส. ออกไปหนึ่งที่นั่ง แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีการแบ่งเขตใหม่อย่างไร และพื้นที่ฐานเสียงของพรรคใดจะถูกควบรวมบ้าง
ส่วนกรุงเทพมหานครจากเดิมมี ส.ส. ประชาธิปัตย์ 23 ที่นั่ง เพื่อไทย 10 ที่นั่ง ก็จะถูกลดจำนวน ส.ส. ลด 3 ที่นั่ง และยังไม่ทราบว่าจะมีการลากเสียงแบ่งใหม่อย่างไร
โดยขั้นตอนแล้วหากนับตั้งแต่วันที่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องการจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีฯ ผู้อำนวยการการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่อย่างน้อย 3 รูปแบบ ภายในเวลา 14 วัน (วันสุดท้ายคือวันที่ 3 ต.ค.) หลังจากนั้นก็จะปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตอย่างน้อย 3 รูปแบบที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัด เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมือง และประชาชนในจังหวัดเป็นเวลา 10 วันนับแต่ปิดประกาศ หลังจากนั้นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด จะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดส่งต่อไปยัง กกต. ให้พิจารณาภายใน 20 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อประกาศการแบ่งเขตในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการแบ่งเขตและกำหนดจำนวน ส.ส. ภายใน 60 วัน เพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินการจัดหาผู้สมัครลงเลือกตั้งต่อไป
ทั้งนี้วิธีนับคะแนนการเลือกตั้งจากบัตรเลือกตั้งใบเดียวจะนับในสองระดับคือ 1.นับว่าในระบบแบ่งเขตใครได้คะแนนเสียงมากสุดถือเป็นผู้ชนะ และจะมีการนับรวมคะแนนในระดับประเทศโดยจะนำคะแนนมาคิดเป็นสัดส่วนรวมทั้งหมดว่า แต่ละพรรคการเมืองจะได้ ส.ส. พรรคละกี่ที่นั่ง จากนั้นให้นำจำนวนที่นั่งที่แต่ละพรรคควรจะได้ มาลบบวกกับจำนวน ส.ส.เขตที่ได้รับการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งโมเดลการเลือกตั้งในลักษณะนี้ออกแบบมาเพื่อทำให้พรรคที่ได้ที่นั่งจำนวนมากในระบบการเลือกแบบเดิมได้รับที่นั่งลดลง ขนาดที่พรรคขนาดกลางจะได้จำนวนที่นั่งเพิ่มมากขึ้น
ภาค/จังหวัด |
จำนวนเขตเลือกตั้ง/ส.ส. 54 |
จำนวนเขตเลือกตั้ง/ส.ส. 62 |
สัดส่วนพรรคการเมืองในแต่ละพื้นที่ (เลือกตั้ง 54) |
ภาคเหนือ |
36 เขต/คน |
33 เขต/คน |
พท 35 ปชป 1 |
เชียงราย |
7 |
7 |
พท |
เชียงใหม่ |
10 |
9* |
พท |
แพร่ |
3 |
2* |
พท |
น่าน |
3 |
3 |
พท |
พะเยา |
3 |
3 |
พท |
แม่ฮองสอน |
1 |
1 |
ปชป |
ลำปาง |
4 |
4 |
พท |
ลำพูน |
2 |
2 |
พท |
อุตรดิตถ์ |
3 |
2* |
พท |
ภาคอีสาน |
126 เขต/คน |
116 เขต/คน |
พท 104 ภท 14 ชพ 4 ปชป 4 ชทพ 1 |
กาฬสินธุ์ |
6 |
5* |
พท |
ขอนแก่น |
10 |
10 |
พท |
ชัยภูมิ |
7 |
6* |
พท 6 / ภท 1 |
นครพนม |
4 |
4 |
พท |
นครราชสีมา |
15 |
14* |
พท 8 / ชพ 4 / ภท 4 |
บึงกาฬ |
2 |
2 |
พท |
บุรีรัมย์ |
9 |
8* |
ภท 7 / พท 2 |
มหาสารคาม |
5 |
5 |
พท |
มุกดาหาร |
2 |
2 |
พท |
ยโสธร |
3 |
3 |
พท |
ร้อยเอ็ด |
8 |
7* |
พท |
เลย |
4 |
3* |
พท |
ศรีสะเกษ |
8 |
8 |
พท 7 / ภท 1 |
สกลนคร |
7 |
6* |
พท |
สุรินทร์ |
8 |
7* |
พท 7 / ภท 1 |
หนองคาย |
3 |
3 |
พท |
หนองบัวลำภู |
3 |
3 |
พท |
อำนาจเจริญ |
2 |
2 |
พท / ปชป |
อุดรธานี |
7 |
8* |
พท |
อุบลราชธานี |
9 |
10* |
พท 7 / ปชป 3 / ชทพ 1 |
ภาคกลาง |
115 เขต/คน |
106 เขต/คน |
พท 65 / ปชป 36 / ภท 9 ชพท 9 / ชพ 1 |
กรุงเทพฯ |
33 |
30* |
ปชป 23 / พท 10 |
กำแพงเพชร |
4 |
4 |
พท 3 / 1 |
ชัยนาท |
2 |
2 |
ภท 2 |
นครนายก |
1 |
1 |
ภท 1 |
นครสวรรค์ |
6 |
6 |
พท 4 / ปชป 1 / ชพ 1 |
นนทบุรี |
6 |
6 |
พท |
นครปฐม |
5 |
5 |
พท 5 / ชทพ 1 |
ปทุมธานี |
6 |
6 |
พท 6 / ปชป 1 |
พระนครศรีอยุธยา |
5 |
4* |
พท 4 / ชพท 1 |
พิจิตร |
3 |
3 |
ชพท 2 / ปชป 1 |
พิษณุโลก |
5 |
5 |
ปชป 3 / พท 1 |
เพชรบูรณ์ |
6 |
5* |
พท 5 / ปชป 1 |
ลพบุรี |
4 |
4 |
พท 3 / ปชป 1 |
สมุทรปราการ |
7 |
7 |
พท 6 / ภท 1 |
สมุทรสงคราม |
1 |
1 |
ปชป |
สมุทรสาคร |
3 |
3 |
ปชป 2 / พท 1 |
สระบุรี |
4 |
3* |
ปชป 2 / พท 2 |
สุโขทัย |
4 |
3* |
ปชป 2 / ภท 4 |
สิงห์บุรี |
1 |
1 |
พท |
สุพรรณบุรี |
5 |
4* |
ชทพ 4 / พท 1 |
อ่างทอง |
2 |
1* |
ชทพ 2 |
อุทัยธานี |
2 |
2 |
ปชป 1 / ชทพ 1 |
ภาคตะวันตก |
19 เขต/คน |
19 เขต/คน |
ปชป 16 / พท 2 / ชทพ 1 |
ตาก |
3 |
3 |
ปชป 3 |
กาญจนบุรี |
5 |
5 |
ปชป 3 / พท 2 |
ราชบุรี |
5 |
5 |
ปชป 4 / ชทพ 1 |
เพชรบุรี |
3 |
3 |
ปชป 3 |
ประจวบคีรีขันธ์ |
3 |
3 |
ปชป 3 |
ภาคตะวันออก |
26 เขต/คน |
26 เขต/คน |
ปชป 11 / พช 6 / พท 6 /ชทพ 1 |
ตราด |
1 |
1 |
ปชป 1 |
จันทบุรี |
3 |
3 |
ปชป 3 |
ชลบุรี |
8 |
8 |
พช 6 / พท 1 / ปชป 1 |
ระยอง |
4 |
4 |
ปชป 4 |
ฉะเชิงเทรา |
4 |
4 |
ปชป 2 / พท 2 |
ปราจีนบุรี |
3 |
3 |
ภท 2 / ชพท 1 |
สระแก้ว |
3 |
3 |
พท 3 |
ภาคใต้ |
53 เขต/คน |
50 เขต/คน |
ปชป 50 อื่นๆ 3 |
กระบี่ |
3 |
2* |
ปชป 3 |
ชุมพร |
3 |
3 |
ปชป 3 |
ตรัง |
4 |
3* |
ปชป 4 |
นครศรีธรรมราช |
9 |
8* |
ปชป 9 |
นราธิวาส |
4 |
4 |
ปชป 4 |
ปัตตานี |
4 |
4 |
ปชป 2 / มาตุภมิ 1 / ภท 1 |
พังงา |
1 |
1 |
ปชป 1 |
พัทลุง |
3 |
3 |
ปชป 3 |
ภูเก็ต |
2 |
2 |
ปชป 2 |
ยะลา |
3 |
3 |
ปชป 3 |
ระนอง |
1 |
1 |
ปชป 1 |
สงขลา |
8 |
8 |
ปชป 8 |
สตูล |
2 |
2 |
ปชป 1 / ชทพ 1 |
สุราษฎร์ธานี |
6 |
6 |
ปชป 6 |

โอนเงิน พร้อมเพย์ PromptPay "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน" 0993000060423
โอนเงิน PayPal คลิกที่นี่ https://paypal.me/prachatai (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)
เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai
ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai
LINE ไอดี = @prachatai
แสดงความคิดเห็น