Skip to main content
sharethis

ผู้บริหาร ม.อ.ปัตตานี แจงหลัง 'กลุ่มไทยพื้นที่รักสันติ' จี้ตรวจสอบนักศึกษาจัดกิจกรรมค้าน ประกาศ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ให้ 2 ตำบลในหนองจิก เป็น 'พื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราว' ยันขอให้นักศึกษายกเลิกการเดินทางลงพื้นที่ หวั่นเกิดเหตุไม่พึงประสงค์แล้ว แต่นักศึกษายันการเดินทางลงพื้นที่ เพราะมีการนัดหมายร่วมกันกับเพื่อนต่างสถาบันที่มีเจตนาเดียวกัน ผู้บริหารมหา'ลัยจึงขอให้ระมัดระวังในการเดินทางลงพื้นที่และให้ดูแลผู้เข้าร่วมให้ทั่วถึง

25 ก.ย.2561 จากกรณีวานนี้ “กลุ่มไทยพื้นที่รักสันติ" เรียกร้องให้ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ดำเนินการกับกลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษาเยาวชน นักเรียนปาตานี (PerMAS) ที่จัดกิจกรรมคัดค้าน ประกาศ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กรณีให้ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำซำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราว โดยกลุ่มไทยพื้นที่รักสันติยังมอบพวงหรีดให้กับมหาวิทยาลัยเพื่อไว้อาลัย และยื่นข้อเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยดำเนินการและชี้แจงเนื้อหา เกี่ยวกับแถลงการณ์ของกลุ่มนักศึกษา PerMAS ดังกล่าวนั้น

ล่าสุดวันนี้ (25 ก.ย.61) รศ.อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ รักษาการแทนรองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี ออกชี้แจงประชาคม ม.อ.ปัตตานี เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารวิทยาเขตปัตตานี ผ่านเว็บไซต์มหาวิทยาลัยและเฟสบุ๊กแฟนเพจ  ถึง นักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากร ม.อ.ปัตตานีทุกท่าน

คำชี้แจงระบุว่า ตามที่ปรากฏในข่าวสารผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยมีสาระที่ทำให้เกิดการเข้าใจในวงกว้างว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อนุมัติให้นักศึกษาจัดกิจกรรมอันจะก่อให้เกิดความแตกแยก ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยต่อการประกาศให้ ต.บางเขาและท่ากำซำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราวเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเกิดเหตุการณ์คนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานขณะลาดตระเวนเส้นทาง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา นั้น

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2561 มีนักศึกษาส่วนหนึ่งของ ม.อ.ปัตตานี ร่วมสมทบกับ
กลุ่มนักศึกษาที่เดินทางจากต่างสถาบันประมาณ 100 คน ลงพื้นที่ชุมชนตำบลบางเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ข้างต้น เพื่อพบปะพูดคุยสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่และร่วมทำการละหมาดฮายัต โดยในส่วนของนักศึกษาของ ม.อ.ปัตตานี มีการรวมตัวกันบริเวณหน้าอาคารกิจกรรม กองกิจการนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี ซึ่ง ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา วิทยาเขตปัตตานี ได้รับแจ้งว่าจะมีนักศึกษาลงพื้นที่ ในฐานะที่เป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการดูแลนักศึกษาพร้อมด้วยบุคลากรกองกิจการนักศึกษา จึงได้เข้าไปสอบถามพูดคุยและขอให้นักศึกษายกเลิกการเดินทางลงพื้นที่ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ แต่นักศึกษา
คงยืนยันการเดินทางลงพื้นที่ เพราะมีการนัดหมายร่วมกันกับเพื่อนต่างสถาบันที่มีเจตนาเดียวกัน ทางรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา ฯ จึงขอให้ระมัดระวังในการเดินทางลงพื้นที่และให้ดูแลผู้เข้าร่วมให้ทั่วถึง
หลังจากนั้นก็ได้จัดประชุมกองกิจการนักศึกษา เพื่อรวบรวมข้อมูลว่า มีนักศึกษาของ ม.อ.ปัตตานี จำนวนกี่คนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ดังกล่าว และได้ประสานกับนักศึกษาทุกคนว่าต้องการการดูแลในประเด็นใดบ้าง พบว่ามีนักศึกษา 1 คน ที่มาพักอาศัยกับเพื่อน จึงได้จัดที่พักของมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาพักเป็นการชั่วคราว

หลังจากนักศึกษาลงพื้นที่แล้ว มีความเห็นผ่านข่าวสารผ่านช่องทางต่าง ๆ ตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของสถาบันการศึกษา รวมทั้งผู้บริหารของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมีการระบุว่า ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา วิทยาเขตปัตตานี ว่าเป็นผู้เห็นชอบและสนับสนุนให้นักศึกษาของ ม.อ.ปัตตานี ทำกิจกรรมในพื้นที่ครั้งนี้ ซึ่งไม่ตรงตามความเป็นจริง จึงขอชี้แจงกับประชาคม ม.อ.ปัตตานี ว่า รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา วิทยาเขตปัตตานี มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่พัฒนานักศึกษาให้ “ซื่อสัตย์มีวินัย ใฝ่ปัญญา มีจิตสาธารณะ” ด้วยความรับผิดชอบตลอดมา ด้วยยึดมั่นในความถูกต้องและความจริง เคารพกฎหมาย คำนึงถึงสวัสดิภาพของนักศึกษาในทุกมิติ มีส่วนร่วมอย่างสำคัญในสร้างความเข้าใจในความแตกต่างทางความคิดและทางวัฒนธรรมทั้งในระดับบุคคลและองค์กร มีจุดยืนที่มั่งคงเช่นเดียวกันกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คือ “การทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์”

ผู้สื่อข่าวรายนงานเพิ่มเติมด้วยว่าวันเดียวกัน เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาเยาวชน นักเรียนปาตานี (PerMAS) ออกมาชี้แจงประเด็นนี้ด้วยว่า มหาวิทยาลัยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเนื้อหาในแถลงการณ์วันสันติภาพสากลและการรณรงค์ให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งย้ำด้วยว่ามหาวิทยาลัยต้องรักษาไว้ซึ่งเสรีภาพทางวิชาการ และเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของนักศึกษา

สำหรับกิจกรรมของ PerMAS ในการคัดค้านประกาศ กอ.รมน.ที่ให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราวนั้นเกิดขึ้นภายหลัง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 จัดแถลงข่าว ณ มณฑลทหารบกที่ 46 โดยกำหนดให้ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวนำอาวุธปืน และเครื่องกระสุนทุกชนิด รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือทุกประเภทมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 17-23  ก.ย. 2561 ณ ที่ว่าการอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี ภายหลังเกิดเหตุการณ์ซุ่มยิงทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บอีก 4 นายขณะที่ทั้งหมดกำลังเดินกลับฐานใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net