Skip to main content
sharethis

พล.อ.ชวลิต เสนอนำประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยการถวายคืนพระราชอำนาจให้ ร.10 ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล แต่ 'จตุพร' ไม่แตะประเด็นนี้ ระบุเพียงแค่ ขอให้ คสช. ลาออกจากการเป็น 'กรรมการ' แล้วเป็น 'ผู้เล่นทางการเมือง' เหมือนคนอื่นๆ

ภาพจาก Banrasdr Photo

28 ก.ย. 2561 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้จัดงานแถลงข่าวทางออกประเทศไทยโดยได้เชิญ เผด็จ ภูรีปฏิภาณ คอลัมนิสต์นามปากกา ‘พญาไม้’ และจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ร่วมพูดคุยด้วย

พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นในเวลานี้ว่า เป็นเพราะคนไทยไม่ได้ปฏิบัติสิ่งที่พระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ได้มีพระราชกระแส หรือสั่งการไว้ เช่นเรื่องการเลิกทาส และการมอบอำนาจให้ประชาชน จึงทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะถดถอยไปสู่ความยากจน ไปสู่ความไม่ศิวิไลซ์ มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย คนยากคนจนไม่มีที่ดินทำกิน เหลือแต่คนรวยที่มีไม่กี่ตระกูลเท่านั้น

“ผมพูดสิ่งนี้เพราะไม่ต้องการให้ทะเลาะกัน เพราะผมปฏิเสธการใช้กำลังในการทะเลาะเบาะแวง ผมพูดสิ่งนี้ไม่ใช่ต้องการไล่คนใดคนหนึ่งออกไป หรือต้องการที่จะประณามใครคนหนึ่งคนใด ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ต้องการให้คนไทยร่วมมือร่วมใจกัน เหมือนอย่างที่เราเคยทำได้ แก้ไขปัญหาของบ้านเมืองที่สำคัญที่สุด ซึ่งในขณะนั้นบ้านเมืองมีความขัดแย้งขนาดที่ใช้ปืนเข้ายิงกัน ฆ่าฟันกัน คงจำได้ในสมัยที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กำลังจะครองประเทศใน 30 40 ปีที่ผ่านมา” พล.อ.ชวลิต กล่าว

ชวลิตเผยมีแผนพาไทยออกจากปัญหาใช้งบ 191 ล้านล้านบาทดำเนินการ 10 ปี

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สิ่งที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้คือการปฏิบัติตามพระราชประสงค์คือ มอบสิทธิ เสรีภาพกับประชาชน ให้เรียนรู้ และมอบอธิปไตยหรืออำนาจสูงสุดในการปกครองบ้านเมืองที่ผ่านสถาบันตุลาการ บริหาร และนิติบัญญัติ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เรียกว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน เสรีภาพเป็นของบุคคล และบุคคลมีความเสมอภาคเท่าทัดเทียมกัน อีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญทัดเทียมกับคือการใช้หลักหลักนิติธรรมในการปกครองประเทศ โดยเฉพาะในกระบวนยุติธรรม ซึ่งต้องถือว่าคนที่ทำผิด หากยังไม่มีการตัดสินว่าผิดจริงต้องถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่เอาคนไปขัง 8 ปี ยังไม่ยอมปล่อยเลย หลักนิติธรรมเป็นหลักที่ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างมาก และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การปกครองที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน

“เราได้มีการเตรียมการ หากว่ามีการเปลี่ยนแปลง เรามีแผนงานที่จะเสนอพระองค์ท่าน เพื่อที่จะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร หรือรัชกาลที่ 10 ของเรานั้นเอง โครงการนี้เราจะตอบแทนคุณแผ่นดิน 780 ปี เป็นโครงการที่ท่านจะเห็นว่ามีหลายส่วนประกอบกัน วัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงยกระดับความคิด และความเป็นอยู่ของประชาชน เพิ่มรายได้ให้ประเทศ และประชาชน มีอยู่ 7 หมวดมูลค่าทั้งสิ้น 191 ล้านล้านบาทดำเนินการ 10 ปี แต่ผมคิดว่าแค่ 2 ปีก็จบแล้ว แหล่งที่มาของเงินไม่ต้องห่วงเวลานี้มีแล้ว”พล.อ.ชวลิต กล่าว

พล.อ.ชวลิต ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีทั้ง 7 หมวดแบ่งเป็นโครงการย่อย 41 โครงการ เพื่อสุขภาพ และมนุษยชาติ เพื่อเศรษฐกิจโลก เพื่อเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อความมั่นคงของประเทศ เพื่อความั่นคงของชุมชน อาหาร พลังงาน การขนส่ง เพื่อสันติภาพ และเพื่อความเป็นสมาชิกของนานาชาติ ซึ่งมีรายละเอียดทั้งหมดแล้ว แต่คนที่นั่งอยู่ที่นี่ไม่ได้เป็นคนคิด แต่จากนี้ก็ต้องมีการปรึกษาหารือกัน

เสนอถวายคืนพระราชอำนาจ ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ให้พระมหากษัตริย์เป็นผู้ตัดสิน

ด้านเผด็จ ได้ถามพล.อ.ชวลิตว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนี้จะสามารถนำไปสู่แนวทางที่พล.อ.ชวลิตกล่าวถึงได้หรือไม่

พล.อ.ชวลิต ตอบว่า เวลานี้ทุกคนต่างต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ออกไปเร็วๆ จะได้เลือกตั้ง หลังจากนั้นก็จะได้จัดตั้งรัฐบาล แต่เวลานี้เรามีพรรคการเมืองหลายพรรคมาก อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งอีกครั้ง ฉะนั้นเรื่องการเลือกตั้งจะต้องคิดให้ดี เพราะถ้าเรายังใช้รูปแบบนี้อยู่ก็จะนำไปสู่การทะเลาะกันไม่มีที่สิ้นสุด

“เอาอย่างนี้ดีไหม แทนที่จะปล่อยให้มีการเลือกตั้งอย่างนี้ อย่างให้มีเลย พูดกันง่ายๆ ว่าเปลี่ยนระบบปัจจุบันนิดๆ หน่อยๆ ภายใต้กรอบของอำนาจอธิปไตยสูงสุด ซึ่งผู้ถืออำนาจอธิปไตยสูงสุดนี้ (ยกมือไหว้) ก็คือองค์รัฐธาธิปัตย์สูงสุด (ชี้นิ้วขึ้นเหนือหัว) รัฐธรรมนูญทุกฉบับเขียนว่า ประเทศไทยใช้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข แต่เขียนอย่างนี้ไม่ถูกต้องเขียนว่า ประเทศไทยใช้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐ ทำอะไรก็ได้ พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณที่จะใช้อำนาจสูงสุดแก้ไข ให้เปลี่ยนซะ แทนที่จะให้เลือกตั้ง ก็ให้มีรัฐบาลเฉพาะกาล ตามเวลาแห่งความยุ่งยากซึ่งจำเป็นต้องใช้อำนาจพิเศษ แต่อยู่ใต้กรอบของพระประมุข และแน่นอนที่สุดท่านต้องใช้อำนาจเพื่อพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องที่คาดหวังได้ เพราะเป็นอย่างนี้มาเป็นพันๆ ปี”พล.อ.ชวลิต กล่าว

พล.อ.ชวลิต ระบุต่อว่า ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น หากใช้วิธีตามรัฐธรรมนูญประเทศไทยจะไปไม่รอด โดยเสนอให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้วกลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 แก้ไขบางมาตราเพื่อทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมทั้งยกเลิก คสช. แต่ไม่ได้ยกเลิกไปไหน แค่ให้กับมาร่วมกันทำงานสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา สร้างรัฐบาลใหม่ขึ้นมาดำเนินการ พล.อ.ชวลิตกล่าวย้ำด้วยว่า นี่คือการดำเนินการตามหลักการนิติธรรม เพื่อให้เกิดความเสมอภาคเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 1-2 ปี

เผด็จ ถามต่อว่า หนทางที่จะไปสู่ตรงนั้นจะเกิดความขัดแย้ง หรือมีความวุนวายก่อนหน้าหรือไม่ พล.อ.ชวลิต เห็นว่า หากประชาชนได้รับทราบว่า อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต มีแผนงานที่ชัดเจนพร้อมอยู่แล้ว เมื่อพระองค์ท่านประกาศแผนงานก็สามารถทำงานได้ทันที ทุกสิ่งทุกอย่างจะไปด้วยดีอย่างแน่นอน

“ส่วน คสช. ก็ไม่ต้องกลัวข้อกล่าวหาว่าเลือนการเลือกตั้ง เพราะถึงตอนนั้นจะไม่มี คสช. แล้ว แต่จะมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่พระองค์ท่านทรงเลือกเองทุกอย่าง ใครเลือกไม่ได้ พระองค์ท่านทรงเลือกเอง แม้กระทั่ง สนช. ท่านทรงเลือกของท่านเอง ทุกอย่างพระองค์เป็นผู้ตัดสินด้วยพระองค์เอง” พล.อ.ชวลิต กล่าว

เผด็จ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ได้ยินนี้ ไม่คิดว่าจะได้ยินมาก่อน แต่ก็เห็นว่าถ้าพูดตามแนวทางที่พล.อ.ชวลิตพูดก็น่าจะนำไปสู่ความสมัครสมาน และเชื่อว่าปัจจุบันภายใตรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แม้จะได้รับการลงประชามติจากประชาชนแล้ว แต่พรรคการเมืองก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เป็นรัฐธรรมนูญที่จะใช้ปกครองต่อไป ทุกวันนี้มีหลายคนมาถามว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป ตนเองก็ยังไม่สามารถตอบได้

จตุพรชี้ หนทางข้างหน้าคือวิกฤติ แต่ขอเพียงแค่ให้ คสช. ออกจากผู้คุมกฎมาเป็นผู้เล่นอย่างเดียว

ด้านจตุพร ระบุว่า หนทางข้างหน้าหากเดินตามรัฐธรรมนูญสิ่งที่จะเจอคือ วิกฤติ เพราะตอนทำประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 นั้นเป็นการทำประชามติที่คนไม่สบายใจ ฝ่ายไม่รับร่างรัฐธรรมนูญถูกจับกุมดำเนินคดีจำนวนมาก และไม่สามาถรรณงค์แสดงความคิดเห็นได้ และที่สำคัญคือมีการออกแบบรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นธรรม

“พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตัวอย่างที่ดีที่สุด เพราะเมื่อตัดสินใจเลือกเล่นการเมืองก็ลาออกจากการเป็นผู้บัญชาการทหารบก ก่อนพ้นวาระ 5 ปี ฉะนั้นวันนี้เมื่อผู้มีอำนาจประกาศว่าสนใจทางการเมือง แล้วองคาพยพของตัวเองก็ไปสังกัดพรรคการเมือง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อำนาจของ คสช. ในปัจจุบันนี้ใหญ่กว่า กกต. คือสามารถถอด กกต. ได้ แต่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะต้องอยู่ในสภาวะรักษาการณ์ จะต้องอยู่ถอดใต้ กกต.” จตุพร กล่าว

จตุพร กล่าวต่อว่า แค่บอกว่าสนใจการเมืองไม่ใช่สิ่งที่ถือว่า จบแล้ว แต่ต้องสนใจประชาธิปไตยด้วย ต้องสนใจประเทศไทย และประชาชนด้วย ต้องมองให้เห็นว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะการขับเคลื่อนทางการเมืองโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 เห็นชัดแล้วว่าจะนำพาไปสู่ปัญหาในอนาคต ภายหลังการเลือกตั้งประเทศไทยจะกลายมีรัฐบาลผสมหลายพรรคมากที่สุด และการออกแบบบัตรเลือกตั้งใบเดียวจะไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งได้เสียงถึงครึ่งในทางปฏิบัติ

“การออกแบบรัฐธรรมนูญในประเทศไทยนั้นเป็นการออกแบบแก้จากประเทศพม่าอีกทีหนึ่ง ของพม่านี่เหนือชั้นแล้วเพราะเอากองทัพเข้าไปอยู่ในรัฐสภา 25 เปอร์เซ็นต์ การเลือกตั้งของไทยถูกออกแบบมาเพื่อแก้เกมแบบประเทศพม่าอีกทีหนึ่ง ฉะนั้นความเห็นของผมคือ เมื่อกรรมการมีความประสงค์จะเป็นผู้เล่น และส่งสัญญาณเข้าข้างผู้เล่นอย่างชัดเจน ประเทศมันเดินต่อไปไม่ได้” จตุพร กล่าว

จตุพร ระบุว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ประสงค์จะเล่นการเมือง จะต้องลาออกทั้งที แล้วหากรรมการที่เป็นคนกลาง ส่วนตัวเองก็มาทำหน้าที่เป็นผู้แข่งขันเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ทางออกที่ดีที่สุดของประเทศไทยตอนนี้คือทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง

“สิ่งที่สำคัญที่สุดเวลานี้คือ หนทางข้างหน้าถ้าเดินกันอย่างที่เป็นอยู่มันมีบทเรียนพฤษภา 2535 และบทเรียนอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเราไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นอีก” จตุพร กล่าว

พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ศูนย์รวมแห่งปัญหาพล.อ.ประยุทธ์ทราบดีว่าคืออะไร แต่สิ่งที่กำลังทำกันอยู่มีโอกาสที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งสูงมาก และรุนแรงมาก เวลานี้ผู้คนกำลังอดทนอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะมีความอดทนได้ขนาดไหน คิดว่าวันนี้สิ่งที่ง่ายที่สุดวันนี้ และจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อันดี และเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นหลังคือ ความเสียสละของพล.อ.ประยุทธ์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net