Skip to main content
sharethis

'สุเทพ เทือกสุบรรณ' เดินสายรับฟังความเห็นชาวเชียงใหม่ ตั้งเป้า 'รวมพลังประชาชาติไทย' ได้ ส.ส.อย่างน้อย 50 คน พร้อมจับมือทุกพรรคที่มีแนวทางปฏิรูปประเทศ ด้านรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ฝาก กกต. ดูการแบ่งเขตเลือกตั้งเหมาะสม ไม่เอื้อประโยชน์นักการเมือง คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม

สุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่มาภาพจากเฟสบุ๊ค Suthep Thaugsuban

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมาว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ปาฐกถาพิเศษ “ทำไมต้องปฏิรูปประเทศไทย” ที่เชียงใหม่ เพื่อเล่าแนวคิดการตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และรับฟังปัญหา นายสุเทพ ย้ำว่า สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจร่วมตั้งพรรค เพื่อให้เป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนควบคุม ส.ส.ได้และนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ ยืนยันจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขต ตั้งเป้าได้ ส.ส.อย่างน้อย 50 ที่นั่ง และประกาศจับมือกับทุกพรรคที่มีแนวทางปฏิรูปประเทศ มั่นใจได้ร่วมรัฐบาล แต่ขอยืนยันไม่รับตำแหน่งทางการเมือง

ด้าน นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะสมาชิกทีมกล้าเปลี่ยนเพื่อประชาชน ของนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ว่าที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะร่วมเวทีเสวนา โครงการจุดประกายผู้นำยุคใหม่ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา โดยได้อธิบายการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ให้กลุ่มนักศึกษาฟัง พร้อมเน้นย้ำการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ เป็นตัวกำหนดชะตากรรมประเทศ ซึ่งขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังรับสมัครสมาชิกพรรค และหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค นักศึกษาทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ อยากฝากอนาคตของประเทศชาติเอาไว้ในมือคนรุ่นใหม่ทุกคน

'ประชาธิปัตย์' ฝาก กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งให้ชอบธรรม

7 ต.ค. 2561 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ขณะนี้ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกระเบียบคณะกรรมการเลือกตั้งว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่และเปิดให้แสดงความคิดเห็นต่อรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น นับเป็นเรื่องที่ดี ที่ กกต. เปิดโอกาสให้พรรคการเมือง และ ประชาชนทั่วไป ได้แสดงความคิดเห็น เพื่อให้เขตเลือกตั้ง 350 เขต ทั่วประเทศไทยเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่มีการได้เปรียบ เสียเปรียบ ระหว่างผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. และ พรรคการเมืองต่างๆ ที่จะลงชิงชัยในการเลือกตั้งทั่วไป ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ เพราะที่ผ่านมาในอดีต กกต. จะเป็นผู้กำหนดแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งหลายเขตเลือกตั้งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้นักการเมืองบางคน พรรคการเมืองบางพรรค ครั้งนี้จึงน่าจะรอบคอบ โปร่งใส เป็นธรรม และลดคำครหาลงได้

นายองอาจยังฝากข้อควรพิจารณาให้ กกต. นำไปประกอบการทำงานว่า ให้เป็นไปตามหลักจำนวนราษฎร และ พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ตามที่กฎหมายบัญญัติอย่างเหมาะสม ไม่เอื้อประโยชน์ให้นักการเมือง พรรคการเมืองใด เป็นการเฉพาะ รวมถึง ไม่ทำให้นักการเมือง พรรคการเมืองใด เสียประโยชน์ เป็นการเฉพาะ และคำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม

“ในช่วงที่ผ่านมีข่าวสารปรากฏโดยทั่วไปจำนวนมากว่าการดูด ส.ส. นอกจากมีข้อตกลงแลกเปลี่ยนเรื่องอามิสสินจ้าง ตำแหน่ง หน้าที่ แล้วยังมีเรื่องการช่วยแบ่งเขตเลือกตั้งให้เกิดประโยชน์ กับ นักการเมืองที่ถูกดูดไปด้วย ดังนั้น กกต. จึงควรแบ่งเขตเลือกตั้งด้วยความรอบคอบระมัดระวัง ไม่ให้ถูกครหา เพราะถ้าเริ่มต้นแบ่งเขตเลือกตั้งแล้วมีปัญหา เรื่องความไม่โปร่งใสก็จะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อการเลือกตั้งตามมา จึงขอฝาก กกต.ให้แบ่งเขตเลือกตั้งอย่างถูกต้องชอบธรรมด้วย”นายองอาจ กล่าว

ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2]
 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net