กกต. บอกพรรคการเมือง ถ้าจะระดมทุน-รับบริจาค ต้องไปขออนุญาต คสช. ก่อน

เลขาธิการ กกต. แจ้งไม่ห้ามหากพรรคการเมืองระดมทุนหรือรับบริจาคเงิน แต่ไปขอ คสช. ก่อน ยันไม่ออกคำสั่งห้ามเป็นลายลักษณ์อักษร แต่จะมีหนังสือเวียนไปทุกพรรค หากอนาคตใหม่ยังสังสัยให้มาถาม ส่วนรองเลขาธิการ กกต. เผยได้ผู้ตรวจการเลือกตั้งครบ 77 จังหวัดแล้ว

11 ต.ค. 2561 สืบเนื่องจาก วานนี้ (10 ต.ค.61) พรรคอนาคตใหม่ได้รับการติดต่อ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่าทางพรรคไม่สามารถที่จะเปิดให้มีการระดมทุนพรรคจากการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งเปิดรับบริจาคเงินจากสมาชิกพรรคการเมืองได้ เนื่องจากถือว่าเป็นการขัดต่อประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วประชุมหรือดำเนินกิจการใดๆ ซึ่งกกต. ได้มีมติ สั่งห้ามพรรคการเมืองที่มีอยู่เดิม รวมทั้งพรรคที่เกิดขึ้นใหม่ รับการบริจาคเงิน หรือทำกิจกรรมระดมทุนด้วย

ซึ่งต่อมา ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงว่า คำสั่งดังกล่าวของ กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการจำกัดสิทธิที่เกิดกว่าเหตุ และเห็นว่าการเปิดรับบริจาค หรือระดมทุนด้วยการจัดกิจกรรมนั้น ไม่ได้เป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง หรือความสงบของชาติ พร้อมขอให้ กกต. ทบทวนคำสั่งดังกล่าว หรือไม่ก็ให้มีคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรออกมา เพื่อที่ทางพรรคจะได้ดำเนินการยื่นฟ้องเพิกถอนคำสั่งได้ แต่ยังหวังว่า กกต. จะไม่เป็นเครื่องให้ คสช. ใช้บีบพรรคการเมือง

ล่าสุดวันนี้ สำนักข่าวไทย รายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีการรับเงินบริจาคของพรรคการเมือง และการระดมทุนของพรรคการเมืองว่า ต้องเป็นไปตามประกาศ คสช.ที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองประชุมหรือดำเนินกิจการใด ๆ ในทางการเมือง แม้หัวหน้า คสช. จะมีคำสั่งที่ 53/2560 และ 13/2561 คลายล็อคเรื่อง การดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง แต่ประกาศคสช.ที่ 57/2557 ยังมีผลอยู่ 

“การจะดำเนินการอื่นใดที่นอกเหนือจากการคลายล็อค 6 ข้อตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2561 จะต้องขออนุญาตจาก คสช. เช่นกรณีการประชุมของกรรมการบริหารพรรคเพื่อเลิกกิจการพรรคที่ไม่ได้อยู่ในการคลายล็อคทั้ง 6 ข้อ ซึ่งมีพรรคขออนุญาตเพื่อดำเนินการเลิกกิจการของพรรค กรณีการรับเงินบริจาคหรือระดมทุนซึ่งไม่ได้ห้าม แต่ต้องขออนุญาต อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กกต. จะออกหนังสือเวียนแจ้งให้พรรคการเมืองต่าง ๆ ทราบอีกครั้งว่าหากพรรคจะดำเนินกิจการทางการเมือง นอกเหนือจากการคลายล็อคทั้ง  6  ข้อจะต้องขออนุญาตคสช.ก่อน” เลขาธิการ กกต. กล่าว

ส่วนกรณีที่พรรคอนาคตใหม่มองว่า กกต. เป็นเครื่องมือของ คสช. ยุบพรรคการเมือง นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า เราเป็นเครื่องมือของกฎหมาย หากกฎหมายให้ทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น และในฐานะเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ไม่ต้องการให้พรรคการเมืองทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว ขอให้ทุกพรรคการเมืองอดทน เพราะเท่าที่ทราบ คสช. กำลังพิจารณาเรื่องการปลดล็อค ข่าวว่าคงอีกไม่นาน อยากให้มีพรรคการเมืองเหลืออยู่ทุกพรรคจนถึงการเลือกตั้ง เพราะเป็นสีสันประชาธิปไตย

 “ส่วนกรณีพรรคอนาคตใหม่ท้าให้ กกต. ออกหนังสือคำสั่งห้ามรับบริจาคหรือระดมทุนอย่างเป็นทางการ เราคงไม่ออกคำสั่งลักษณะดังกล่าว เพราะ กกต. จะมีหนังสือเวียนชี้แจงพรรคการเมืองอยู่แล้ว และหากทางพรรคอนาคตใหม่ยังมีข้อสงสัยให้ถามมา” เลขาธิการ กกต. กล่าว

ตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งครบ 77 จังหวัดแล้ว จำนวน 603 ดำรงตำแหน่ง 5 ปี

สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆ ของ กกต. ในวันนี้ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ณัฎฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. ได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ให้ทราบว่าอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ได้ลงนามในคำสั่ง กกต.ที่ 64/2561 เรื่องการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งแล้ว โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 29 พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. 2560 และ ข้อ 20 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยผู้ตรวจการเลือกตั้ง 2561 ประกอบมติ กกต.เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม และ 8 ตุลาคม เห็นควรให้แต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ทั้ง 77 จังหวัด รวม 603 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นไป และให้บัญชีรายชื่อดังกล่าว มีระยะเวลา 5 ปี นับแต่มีคำสั่ง และให้สำนักงาน กกต.จังหวัดแจ้งให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งรับทราบและเตรียมเข้ารายงานตัวเพื่อฝึกอบรม 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ในขณะนั้นได้ประกาศรายชื่อ ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดละ 8 คน รวม 616 คน และได้ให้สำนักงาน กกต.จังหวัดทั่วประเทศปิดประกาศเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเสนอข้อมูล หรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และพฤติการณ์ของผู้ได้รับการคัดเลือกมายัง กกต. ซึ่งการพิจารณาของ กกต.ชุดปัจจุบันก็ได้มีการคัดเลือกไว้ 603 คน ทำให้ทุกจังหวัดไม่ได้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งจำนวนไม่เท่ากัน แต่จะไม่น้อยกว่า 5-8 คน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท