Skip to main content
sharethis

อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอ กกต.ติดตาม 'พลังประชารัฐ' ลงพื้นที่ จับตาใช้งบรัฐหาเสียง เตรียมเปิดตัว 'หมอพลเดช' 15 ต.ค. นี้ 'เพื่อชาติ' ถกข้อบังคับ 'จตุพร-ยงยุทธ' ไม่ร่วมขอแค่เชียร์ แกนนำ นปช. ร่วมสังเกตุการณ์ 'อนาคตใหม่' คิกออฟปั่นจักรยานทั่วประเทศหาสมาชิกพรรค


14 ต.ค. 2561 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่พบปะประชาชน และสมาชิกพรรคในวันที่ 15 ต.ค. 2561 ที่ตลาดคลองลัดมะยม เพื่อนำความคิดเห็นไปจัดทำนโยบายพรรคว่าการดำเนินกิจกรรมของนายสนธิรัตน์ เป็นการชุมนุมเกิน 5 คน และเป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างชัดเจน ที่สำคัญยังมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีย่อมมีการแอบแฝงใช้ตำแหน่งในรัฐบาลให้ความช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงขอฝากไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งติดตามอย่างใกล้ชิด

“ทำไมพรรคพลังประชารัฐทำได้ แต่พรรคการเมืองอื่นทำไม่ได้ เป็นการเอาเปรียบกันอย่างน่าไม่อาย การที่รัฐมนตรีในรัฐบาลลงทำกิจกรรมทางการเมืองในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ด้วยการลงไปทำกิจกรรมในพื้นที่ที่ได้รับงบประมาณจากโครงการประชารัฐ ซึ่งเป็นเงินจากภาษีประชาชน ไม่ใช่เงินส่วนตัว เป็นการเอาเปรียบกันอย่างยิ่ง ใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลนับแสนๆ ล้านบาท ทุ่มเทลงไปยังทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน แล้วก็นำชื่อโครงการประชารัฐที่ใช้เงินหลวง ไม่ใช่ใช้เงินส่วนตัว มาตั้งเป็นชื่อพรรคการเมือง ถือว่าน่าละอาย” นายชวลิต กล่าว

'พลังประชารัฐ' เปิดตัว 'หมอพลเดช' 15 ต.ค. นี้
 

เว็บไซต์แนวหน้า รายงานว่านายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ว่าที่กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงในวันที่ 15 ต.ค. ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะมี 4 รัฐมนตรีไปร่วมด้วยว่า เป็นกิจกรรมภาคประชาสังคมมีตัวมีแทนกลุ่มเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ถือเป็นกิจกรรมชุมชน ไม่ใช่กิจกรรมที่พรรคจัดขึ้น หลังจากนี้ทุกสัปดาห์ เราจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มคนต่างๆ หากในอนาคตเมื่อพลังประชารัฐได้รับอนุมัติจัดตั้งพรรคเป็นทางการแล้ว จะเชิญตัวแทนกลุ่มคนเหล่านี้มาร่วมกันร่างนโยบายพรรค

และในวันนั้นจะเปิดตัว นพ.พลเดช ปิ่นประทีป อดีต รมช.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาเป็นแกนหลักในงานด้านประชาสังคมและนายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย จะมาช่วยงานเรื่องที่เกี่ยวกับคนพิการ

ทั้งนี้การทำงานของพรรคเป็นการทำงานเริ่มจากฐานรากขึ้นมาข้างบน และมีนโยบายลงไป เบื้องต้นมีกลุ่มคนจากทุกๆภาคของประเทศไทยมาร่วมขับเคลื่อน อย่างคนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวจะทำงานกันทุกสัปดาห์และดึงเพื่อนๆ เข้ามาขยายกิจกรรมออกไป เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในรูปแบบคนรุ่นใหม่ และอีกกลุ่มเป็นที่ติดต่อมายังพรรคเพื่อร่วมกันทำงาน

'เพื่อชาติ' ถกข้อบังคับ 'จตุพร-ยงยุทธ' ไม่ร่วมขอแค่เชียร์ แกนนำ นปช. ร่วมสังเกตุการณ์


สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่าพรรคเพื่อชาติ ประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 2/2561 เพื่อรับรองข้อบังคับพรรคเพื่อชาติในส่วนของสัญลักษณ์พรรค และแก้ไขนโยบายพรรคบางข้อ ที่ต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับ รัฐธรรมนูญ ปี 2560 โดยมีแค่สมาชิกพรรคชุดแรก จำนวน 500 คนเข้าร่วมประชุมเท่านั้น โดยในวันนี้ มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตแกนนำพรรคพลังประชาชน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และสมาชิกคนอื่นของ นปช.เช่นนายสงคราม กิตเลิศไพโรจน์, นายสุริยา ชินพันธุ์, นายรังสี เสรีชัย, นายยศวริศ ชูกล่อม, นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. มาร่วมสังเกตการณ์แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย

โดยนายจตุพร กล่าวถึง การเปิดตัวที่จะสนับสนุนพรรคเพื่อชาติในการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ พร้อมย้ำจุดยืนของทั้งนายจตุพร และนายยงยุทธ ว่าเป็นเพียงแรงสนับสนุนและกองเชียร์ให้กับพรรคเพื่อชาติเท่านั้น และไม่ได้เป็นแกนนำหรือแคนดิเดตในตำแหน่งสำคัญของพรรคตามที่ได้มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เห็นว่าพรรคเพื่อชาติมีเจตนาและอุดมการณ์ทางการเมืองที่เน้นทำเพื่อชาติและเพื่อประชาชน แต่ขณะเดียวกันพรรคไม่ใช่ของกลุ่ม นปช. เพราะพรรคมีการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 อีกทั้งพรรคเพื่อชาติ เพื่อไทย และเพื่อธรรมไม่ใช่เนื้อเดียวกัน จึงขอให้แยกแยะ พร้อมไม่ห่วงว่าฐานเสียงจะแย่งคะแนนกันเองของทั้ง 3 พรรค และพรรคเพื่อชาติจะไม่คาดหวังที่นั่งในสภาอย่างที่หลายพรรคคาดการณ์เพราะประชาชนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ส่วนอนาคตจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ มองว่าเรื่องนี้ยังอีกไกล

ด้านนายยงยุทธ กล่าวในการประชุมใหญ่พรรคเพื่อชาติ ครั้งที่ 2/2561 ว่าจะใช้ประสบการณ์ในงานการเมืองที่เคยทำมาส่งเสริมให้พรรคเพื่อชาติประสบความสำเร็จและเป็นพรรคเพื่อประชาชน ซึ่งก่อนตัดสินใจที่จะมาลงสนับสนุนพรรคเพื่อชาตินั้นได้คิดและนำรายชื่อพรรคมาพิจารณาว่าพรรคใดเหมาะสมกับอุดมการณ์ซึ่งพรรคเพื่อชาติตรงกับอุดมการณ์จึงมาสนับสนุน ทั้งนี้ ไม่กลัวหากถูกครหาเพราะได้ไตร่ตรองอย่างละเอียดแล้ว และย้ำว่าไม่คาดหวังตำแหน่งทางการเมืองและในพรรคจะเป็นเพียงแค่ภารโรงและกองเชียร์ที่นั่งชมอยู่บนอัฒจันทร์ และหากพรรคต้องการคำปรึกษาก็ยินดี

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะมีบุคคลทางการเมืองสำคัญหลายคนซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของนายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร มานั่งเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ทุกอย่างอยู่ที่มติของกรรมการบริหารพรรค แต่ใครจะมาเป็นก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ต้องเข้าใจปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก

พร้อมกันนี้ นายยงยุทธ กล่าวว่าก่อนตัดสินใจกลับสู่สนามการเมืองได้มีโอกาสพูดคุยกับนายทักษิณหลายๆ เรื่อง ส่วนงานการเมืองโดยเฉพาะการลงมาอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อชาติไม่ขอตอบ เพราะไม่อยากให้นำไปโยงเป็นประเด็นทางการเมือง สร้างความแตกแยกได้

'อนาคตใหม่' คิกออฟปั่นจักรยานทั่วประเทศหาสมาชิกพรรค


เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานว่าวันนี้ (14 ต.ค.) เวลา 7.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ร่วมด้วยนายภูวกร ศรีเนียน นายคริส โปตระนันท์ และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ร่วมปั่นจักรยานในแคมเปญ “Bike for the Future” หาเพื่อนร่วมทาง สร้างอนาคตใหม่ ทั่วไทย โดยมีจุดเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังภาคตะวันออก และจะมีโครงการปั่นจักรยานไปยังทุกภาคของประเทศไทย รวมระยะทางกว่า 7,300 กิโลเมตร เพื่อรับสมัครสมาชิก โดยเตรียมใบสมัครไปกับคาราวานจักรยาน 6,000 ใบ และพร้อมเติมตลอดเวลาหากมีเสียงตอบรับดี

นายธนาธรกล่าวว่า การปั่นจักรยานเพื่อรับสมัครสมาชิก เป็นความพยายามของพรรคอนาคตใหม่ในการทำการเมืองแบบใหม่ที่สร้างสรรค์ เพื่อพิสูจน์ว่าการมีส่วนร่วมทางการเมือง การทำกิจกรรมทางการเมือง ทำได้หลากหลาย และเข้าถึงง่ายกว่าที่เคยมี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติที่มีต่อพรรคการเมืองและนักการเมือง รวมถึงกลับมาเชื่อมั่นในประชาธิปไตยอีกครั้ง

ทั้งนี้ นายธนาธรและนางสาวพรรณิการ์ ได้ร่วมปั่นจักรยานในระยะแรก จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปถึงจุฬาลงกรณ์มหาสิทยาลัย เรื่องจากมีภารกิจเข้าร่วมกิจกรรมรำลึก 14 ตุลาฯ ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แต่คณะนักปั่นจักรยานจะปั่นต่อไปถึงบางแสน โดยจะถึงบางแสนในช่วงเย็นวันนี้ และขบวนคาราวานจักรยานจะปั่นไปในภูมิภาคต่างๆจนถึงวันที่ 5 ธ.ค. 2561 นี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net