Skip to main content
sharethis

รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง เผย พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมไลฟ์สดสั้นๆ คุยกับ ปชช.แบบไม่เครียด แจงไม่เกี่ยวกับประเด็นหาเสียง เป็นแค่เรื่องการทักทาย 'บก.ลายจุด' ขอสมัครเป็นแอดมิน แลกกับเลิกอายัดบัญชี

17 ต.ค.2561 ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเฟสบุ๊กแฟนเพจ 'ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha' อย่างเป็นทางการไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้ (17 ต.ค.61) มียอดถูกใจ 2.27 แสนแล้ว ขณะที่ยอดผู้กดติดตามต่างกัน 1 หมื่น คืออยู่ที่ 2.28 แสนแล้ว 

เตรียมไลฟ์สดสั้นๆ คุยกับ ปชช.แบบไม่เครียด

วันนี้ ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเตรียมการให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กว่า การเปิดช่องทางสื่อสารใหม่ๆ ถือเป็นการทำงานที่ต้องทันกับสถานการณ์ และยุคนี้เป็นยุคดิจิตอล จึงไม่แปลกที่นายกฯจะใช้ช่องทางใหม่ๆ สื่อสารกับประชาชน และการไลฟ์สดถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำได้ แต่จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ คุยกับประชาชนแบบไม่เครียด

พุทธิพงษ์ กล่าวว่า โดยจะเป็นลักษณะเสนอสิ่งที่นายกฯอยากสื่อถึงประชาชน อย่างกรณีนายกฯไปทำงานไม่ว่าในต่างประเทศหรือต่างจังหวัด อาจพบเห็นสิ่งที่อยากสื่อกับประชาชนหรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่างๆ นำมาแนะนำให้กับประชาชนรับทราบ หรือกลับมาแล้วผลักดันโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้นบ้าง เช่น สวนสาธารณะ การตกแต่งร่มต่างๆ อย่างที่นายกฯเคยพูดสมัยไปฝรั่งเศส มุมมองดังกล่าวเป็นประโยชน์และมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงเวลานายกฯไปปฏิบัติภารกิจ เพราะบางครั้งกำหนดการอาจไม่มีจังหวะให้ไลฟ์สดได้

เมื่อถามว่านายกฯจะไปเบลเยี่ยม วันที่ 18-19 ต.ค.นี้ จะมีไลฟ์สดกลับมาหรือไม่ พุทธิพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดและช่วงเวลา ต้องดูในเรื่องที่นายกฯสนใจและเป็นประโยชน์กับคนไทยด้วย นอกจากนี้ต้องดูในเรื่องของเวลา หากไปประเทศที่ช่วงเวลาตรงกันข้ามกับไทย ก็อาจไม่เหมาะจะไลฟ์สดเข้ามา ต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน เพราะภารกิจที่จะเดินทางไปทำเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า ทั้งนี้ การไลฟ์สดเป็นแนวคิดและกรอบที่วางไว้เบื้องตน มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามถึงกระแสตอบรับที่นายกฯเปิดเพจทั้งเฟสบุ๊ก อินสตาแกรมและทวิตเตอร์ พุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระแสตอบรับก็เป็นไปอย่างที่นายกฯพูด ผลสัมฤทธิ์เราไม่ได้มองว่ามีจำนวนคนเข้ามาติดตามมากน้อย แต่มองที่คุณภาพหลังเปิดช่องทางสื่อสารว่าประชาชนได้ติดตามและส่งปัญหา ข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เข้ามาอย่างไร เท่าที่ดูช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาถือว่าเป็นประโยชน์ ประสบความสำเร็จ เป็นช่องทางสื่อสารตรงระหว่างนายกฯกับประชาชน

“2-3 วันที่ผ่านมา ช่องทางที่เปิดขึ้นมีจุดแข็งที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาที่ประชาชนประสบ รวมทั้งข้อแนะนำหรือขอร้องนายกฯให้ช่วยเหลือ ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ เริ่มตอบส่วนตัวกับประชาชนบ้างแล้ว หรือบางข้อเสนอแนะ นายกฯนำมาเป็นข้อมูล รวมทั้งส่งให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา หลังจากนี้นายกฯคงสั่งการในประเด็นปัญหาที่ได้รับข้อมูลมา หลังจากกลั่นกรองตรวจสอบข้อมูลแล้ว ถือว่าเป็นตามเจตนารมณ์ที่เปิดช่องทางสื่อสาร ถือเป็นการตอบรับที่ดี และจะเร่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ” พุทธิพงษ์ กล่าวและว่า ส่วนของคณะทำงานก็ช่วยนายกฯในระดับหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ทั้งหมดนายกฯจะเป็นคนดูและเล่นเอง ยืนยันว่าทีมงานไม่ได้ทำให้ แต่นายกฯทำเอง

แจงไม่เกี่ยวกับประเด็นหาเสียง เป็นแค่เรื่องการทักทาย

เมื่อถามว่าในเชิงการเมืองถือเป็นการชิงความได้เปรียบในช่วงนี้หรือไม่ และมีเหตุผลอะไรถึงเปิดช่องทางสื่อสารใหม่ พุทธิพงษ์ กล่าวว่า สาเหตุที่นายกฯเลือกมาเปิดช่องทางสื่อสารใหม่ เนื่องจากนายกฯต้องการหาช่องทางสื่อสารกับประชาชน ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมประชาชนในการบริโภคสื่อนั้นเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่ใช่สื่อออนไลน์และโซเชี่ยลเป็นหลัก นายกฯจึงต้องการให้ทันยุคสมัย คณะทำงานโดยเฉพาะตนเมื่อได้รับแต่งตั้งเข้ามาดูแลด้านการสื่อสารก็พิจารณาแล้วว่า การเปิดทวิตเตอร์ เฟสบุ๊กหรืออินสตาแกรม สื่อสารได้โดยตรงและทันสมัย

ส่วนข้อวิจารณ์ถึงความได้เปรียบทางการเมืองนั้น รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวยืนยันว่า จนถึงเวลานี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นการเมืองสำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จะเห็นได้ว่า 2-3 โพสต์ที่นายกฯเสนอออกมานั้น ไม่เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับประเด็นหาเสียง เป็นแค่เรื่องการทักทาย และเปิดโอกาสให้ประชาชนติดตามและเสนอปัญหาเท่านั้น ไม่มีอะไรที่จะไปเกี่ยวกับการหาเสียง ถือเป็นเรื่องปกติในการใช้โซเชี่ยลของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งนักการเมืองทุกคนก็มีกันอยู่แล้ว บางคนก็แค่อัพเดตเรื่องราวของตัวเองเท่านั้น เรื่องนี้ทุกคนติดตามได้ว่าเป็นอย่างไรต่อไป

บก.ลายจุด ขอประยุทธ์เลิกอายัดบัญชีธนาคาร

วันเดียวกัน PEACE NEWS รายงานว่า ที่หน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนราชดำเนิน สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้จดจัดตั้งพรรคเกียน เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าจาก พล.อ.ประยุทธ์ กรณีขอให้ยกเลิกอายัดบัญชีธนาคาร เพราะได้รับผลกระทบมากว่า 4 ปี พร้อมแสดงออกเชิงสัญญาลักษณ์ด้วยการแต่งตัวเป็นคนตกงาน ใส่รองเท้าขาด ถือกระเป๋าเอกสาร พร้อมหอบเอกสารประวัติส่วนตัวมาสมัครงาน โดยมี นายสาธิต สุทธิเสริม นิติกรชำนาญการ ศูนย์บริการประชาชน รับเรื่อง

สมบัติ กล่าวว่า คดีความที่ตนไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช.นั้นสิ้นสุดแล้ว และได้เสียค่าปรับไปเรียบร้อย แต่บัญชียังถูกอายัด แม้เงินจะมีจำนวนไม่มาก แต่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในการจัดตั้งพรรค เพราะตนจะเป็นหัวหน้าพรรคไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากจะไม่คืนบัญชี ขอให้นายกฯตอบคำถามให้ได้ว่า มีเหตุผลอะไรที่ต้องอายัดบัญชีเอาไว้ ทั้งที่เรื่องของตนไม่ใช่ความผิดทางอาญา ไม่มีการฟอกเงิน ที่สำคัญคดีความจบแล้ว และการกระทำเช่นนี้ ตนสามารถฟ้องร้องนายกฯตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้ 

ขอสมัครเป็นแอดมิน

“ทราบว่านายกฯเปิดเพจเฟสบุ๊กส่วนตัว มีคนกดถูกใจจำนวนมาก เกรงว่า จะดูแลไม่ทั่วถึง จึงเสนอตัวมาสมัครเป็นแอดมิน คอยดูแลเพจให้ในฐานะผู้ที่เล่นโซเชียลในยุคแรกๆ มีคุณสมบัติครบถ้วน มีความรู้ ความสามารถ และเชี่ยวชาญการใช้โซเชียล มีประสบการณ์ถูกปรับทัศนคติมาแล้ว จึงขอให้นายกฯรับไปพิจารณา” สมบัติ กล่าว พร้อมย้ำว่า ขอให้นายกฯ คิดให้ดีว่า จะคืนบัญชีหรือจะรับตนเป็นแอดมินเพจ หากยังไม่สามารถตอบได้ตนจะเดินทางมาติดตามทวงถามเป็นระยะ ซึ่งตั้งใจว่าจะเดินทางมาทุกสัปดาห์ หรือ อาจจะตามไปทวงถามตามงานต่าง ๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปก็ได้

ส่วน เพจ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นั้น สมบัติ กล่าวว่า ข้อความที่ประชาชนมาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลามในเพจนั้น ไม่ตรงกับรูปภาพหรือ ข้อความของโพสต์เลย ปรากฎการณ์เช่นนี้ เรียกได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ถูกประชาชนยึดเพจไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร จะปิดเพจก็ไม่ได้ อาจจะเสียหายแบบกลับมาไม่ได้อีกเลย จะลบก็ลำบากมาก 

“ผมอยากจะใช้คำว่า พล.อ.ประยุทธ์ในโลกออนไลน์ถูกล้อมกรอบเรียบร้อยแล้ว จึงจำเป็นต้องได้คนแบบผมไปช่วยกู้สถานการณ์เพจประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมขอรับประกันว่า จะเกิดความบันเทิงอย่างสูงสุด แน่นอน โดยจะไม่ขอรับเงินเดือน แต่ขอให้ยกเลิกการอายัดบัญชีของผมแทน" สมบัติ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net