ยูนิเซฟร้องไทยลงทุนเพิ่มในการพัฒนาเยาวชน

ผู้บริหารยูนิเซฟเยือนไทยพร้อมเรียกร้องให้เพิ่มการลงทุนในการพัฒนาเยาวชนอย่างเร่งด่วน เผยสถิติแรงงานปี 60 ร้อยละ 15 ของเยาวชนช่วงอายุ 15-24 ปี หรือ 1.3 ล้านคนในไทย ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา ไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะใดๆ โดย 2 ใน 3 คือเยาวชนหญิง ชี้หากไม่มีการลงทุนในภาคการศึกษา/อบรมทักษะ อย่างเร่งด่วน ประชากรนับล้านจะไม่ได้รับการเตรียมพร้อมและกลายเป็นแรงงานไร้ฝีมือในอนาคต

ภาพ เฮนเรียตตา เอช โฟร์ ผู้อำนวยการบริหาร องค์การยูนิเซฟ ได้กล่าวให้แรงบันดาลใจกับเหล่าเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการ Generation Unlimited: เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา (ภาพ:ยูนิเซฟ/2018/สุขุม ปรีชาพานิช)

22 ต.ค.2561 องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย รายงานว่า เฮนเรียตตา เอช. โฟร์ ผู้อำนวยการบริหาร องค์การยูนิเซฟ สรุปการเยือนประเทศไทยพร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยเพิ่มการลงทุนในการพัฒนาเยาวชนอย่างเร่งด่วน ระหว่างการเยือนประเทศไทย โฟร์ ยังได้เข้าร่วมเวที เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม (Generation Unlimited) ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งนักนวัตกรรมรุ่นใหม่ทั่วประเทศมารวมตัวกันในเวทีประชุมสามวันเพื่อออกแบบแนวทางแก้ปัญหาอันจะยกระดับการเรียนรู้และการพัฒนาเยาวชน

“ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายสำคัญเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญเช่นกันว่า จะสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มประชากรเยาวชนของประเทศให้ดีที่สุดอย่างไร ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายต้องทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มการลงทุนในเด็กและเยาวชน เพื่อก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ประเทศไทย 4.0” โฟร์ กล่าว

จากสถิติแรงงานปี 2560 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ประมาณร้อยละ 15 ของเยาวชนช่วงอายุ 15-24 ปี (ประมาณ 1.3 ล้านคน) ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา ไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะใดๆ โดยสองในสามของเยาวชนเหล่านี้คือเยาวชนหญิง หากไม่มีการลงทุนอย่างเร่งด่วนในภาคการศึกษาหรือการอบรมทักษะ ประชากรนับล้านจะไม่ได้รับการเตรียมพร้อมและกลายเป็นแรงงานไร้ฝีมือในอนาคต อันเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าและเสถียรภาพของประเทศไทย

ระหว่างการเยือนประเทศไทยเป็นเวลา 5 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฟร์ ยังได้พบปะผู้นำภาคธุรกิจชั้นนำหลากหลาย พร้อมกล่าวต่อไปว่า “ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยออกแบบแนวทางเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ และภาคเอกชนเองก็ควรเริ่มลงทุนในการส่งเสริมการศึกษาและสร้างเสริมศักยภาพของเยาวชน เพื่อช่วยให้พวกเขากลายเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ซึ่งยูนิเซฟยินดีที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนในการร่วมกันหาแนวทางในการเพิ่มการลงทุนในการพัฒนาเด็กและเยาวชนต่อไป”

และเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี ขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย นางโฟร์ได้เข้าเฝ้าและทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุด (Life-Time Achievement Award) แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเทิดพระเกียรติที่ทรงอุทิศพระองค์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กและเยาวชนในประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ขาดโอกาส โดยได้เข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลดังกล่าว ณ อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในระหว่างการมาเยือน โฟร์และโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ยังได้เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องการมอบโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะแก่เด็กและเยาวชน เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่พวกเขาในการสร้างอนาคตที่ดีสำหรับตนเองและประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องที่จะเสริมพลังความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มากขึ้น

โฟร์กล่าวถึงการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า “ดิฉันยินดีอย่างมากที่ได้ทราบว่ายูนิเซฟและรัฐบาลไทยต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในเรื่องของความจำเป็นในการลงทุนในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มากขึ้น การลงทุนในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาเด็กปฐมวัย การศึกษาและทักษะ จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเด็กและเยาวชนนับล้าน ๆ คนในประเทศไทยสำหรับตลาดแรงงานในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยได้ก้าวหน้า เลื่อนฐานะเป็นประเทศรายได้สูงต่อไป”

ในวันสุดท้ายของการมาเยือนประเทศไทย โฟร์ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมงานงาน “Art for the Future” ซึ่งประกอบไปด้วยสตรีทอาร์ต งานจิตรกรรม และกราฟฟิตี้เพื่อเด็ก ๆ บนถนนเจริญกรุง ซึ่งศิลปินหนุ่มสาวจำนวน 16 คนได้มาร่วมกันเรียกร้องให้ประชาชนไทยมาร่วมกันแก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อเด็กทุกคนในประเทศไทย โดยงานศิลปะดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงานครบรอบ 70 ปี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย นอกจากนี้ ภายในงานนางโฟร์ได้พูดคุยกับตัวแทนเยาวชนจากโครงการยูรีพอร์ต ประเทศไทย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนโดยองค์การยูนิเซฟ เพื่อรับฟังเสียงและรวบรวมความคิดเห็นจากเยาวชน ผ่านการส่งโพลสำรวจออนไลน์และกิจกรรมภาคสนามต่าง ๆ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท