Skip to main content
sharethis

แฮชแท็ก ‘ประเทศกูมี’ ติดที่หนึ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ ยอดวิวพุ่งเกินล้าน คนดังแห่ให้กำลังใจ คนส. เรียกร้องเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ยุติการข่มขู่หรือเรียกสอบปากคำ ฝ่ายรัฐบาลและคนไม่เห็นด้วยชี้ ประเทศเสียหาย เพลงล้างสมอง ด้านปอท. ระบุอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ. คอมฯ นำเข้าข้อมูลเท็จ เตรียมแจ้งผู้เสียหาย-เชิญศิลปินมาให้ข้อมูล

 

 

วันนี้ (26 ต.ค  61) มิวสิควิดีโอเพลง 'ประเทศกูมี' ของกลุ่มแร็ปเปอร์ 'Rap Against Dictatorship' ปล่อยได้ 5 วัน ยอดวิวในยูทูบแตะ 1,300,000 วิวและมีท่าทีว่าจะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เช้าวันนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ระบุว่ามิวสิควิดีโอนั้นเสี่ยงขัดคำสั่ง คสช. โดยจะให้ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ตรวจสอบเนื้อหา เชิญคนที่ปรากฎในคลิปมาให้ปากคำ พร้อมเตือนคนทำเพลงอย่าทำสุ่มเสี่ยงจะไม่เป็นผลดีต่อตัวเองและครอบครัว

 

แฮชแท็ก ‘ประเทศกูมี’ ติดที่หนึ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ คนดังแห่แสดงกำลังใจ

 

ท่าทีดังกล่าวได้นำไปสู่การถกเถียงในโลกโซเชียลอย่างเผ็ดร้อนจากทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเพลง แฮชแท็กคำว่า 'ประเทศกูมี' ติดเทรนด์อันดับหนึ่งในไทยของทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว และมีนักการเมือง นักวิชาการ และคนดังออกมาทวีตถึงเพลงนี้ เช่น จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ชอบเพลง “ประเทศกูมี” ครับ เพลง “ประเทศกูมี” ไม่ดียังไง ทำไมถึงว่าขัดคสช. น่าสนใจ แต่ถึงยังไงผมก็ยังชอบเพลงนี้ ร้องเป็นแต่เพลงแหล่ แร็ปไม่เป็น ไม่งั้นจะหัดร้องบ้าง"

ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทวีตว่า ‪เพลง #ประเทศกูมี สะท้อนความหวังและความสิ้นหวังของคน ‘รุ่นใหม่’ ในสังคมไทย ที่ต่างไปจากระเบียบสังคมที่คนรุ่นก่อนคุ้นเคย เข้าใจได้ที่หลายคนจะตื่นตระหนก แต่อย่าตกใจจนพาลปิดหูคนอื่นในสังคมที่พร้อมจะฟังเสียงเช่นนี้ละกัน

สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ทวีตว่า คงไม่ใช่ขัดคำสั่ง คสช แต่แมร่งขัดใจ ฟังแล้วจี๊ด #ประเทศกูมี

วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับหนังรุ่นเก๋า ออกมาทวีตว่า น้องๆชาวแร็ปเปอร์เขายังกล้าทำ Rap Against Dictatorship แต่พวกเราชาวคนทำหนังยังไม่มีใครกล้าทำ Film Against Dictatorship กันบ้างเลย #ประเทศกูมี

 

คนส. เรียกร้องเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ยุติการข่มขู่หรือเรียกให้มาสอบปากคำ

 

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า สะท้อนให้เห็นถึงการไม่ยอมรับในหลักการว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนซึ่งได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังไม่เป็นผลดีต่อการสร้างบรรยากาศเพื่อนำสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 และเห็นว่าเพลงและภาพประกอบของกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship เป็นการใช้ศิลปะเพื่อกระตุ้นความรู้สึกนึกคิดตามหน้าที่ของศิลปินในอารยะประเทศ และประเด็นที่พวกเขาหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยล้วนเป็นประเด็นที่สังคมติดตามให้ความสนใจมาโดยตลอด

คนส. ได้เรียกร้องให้ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยุติการข่มขู่ คุกคาม หรือพยายามเรียกตัวกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship มาให้ข้อมูล ปากคำ ตลอดจนการคุกคามในรูปแบบอื่นๆ พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตามกฎหมาย มากกว่าปฏิบัติตามลมปากของผู้มีอำนาจที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจ พร้อมกันนี้ คนส. ระบุว่า จะร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในการปกป้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship ทั้งในแง่มุมกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และการเคลื่อนไหวทางสังคมอย่างถึงที่สุด

 

ฝ่ายรัฐบาลและคนไม่เห็นด้วยชี้ ประเทศเสียหาย เพลงล้างสมอง

 

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า รัฐบาลรู้สึกเสียใจในเรื่องนี้ เพราะคิดว่าเยาวชนน่าจะใช้ความรู้ความสามารถด้านดนตรีในทางที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ต่อแผ่นดินเกิดของตัวเองมากกว่านี้ รวมถึงเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนคนอื่น ไม่อยากให้คนคิดว่าทำแบบนี้แล้วเท่ เป็นเรื่องดี หรือเป็นเรื่องสนุก .ไม่แน่ใจว่าเยาวชนที่ทำคลิปดังกล่าว ทำเพราะความตั้งใจของตัวเองหรือมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ และขอฝากเตือนไปว่า คนที่เสียหายที่สุดไม่ใช่รัฐบาล แต่คือประเทศไทย

ศศิวิมล อยู่คงแก้ว ภรรยา พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือ ผบ.หน่วยซีล ที่เดินทางไปร่วมภารกิจช่วยเหลือน้องทีมหมูป่าที่ถ้ำหลวง และยังเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงช่วยเหลือทีมหมูป่า โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “Sasivimon Youkongkaew” ที่มีผู้ติดตามกว่า 3 พันคน ตั้งค่าเข้าถึงเป็นสาธารณะ พูดถึงเพลง ประเทศกูมี ว่า “ประเทศกูมี” เรื่องราวดีๆมากมาย ทำไมไม่เอามาพูดว่ะ ฟังแล้วเดือด มันล้างสมองด้วยเสียงเพลง เกมการเมืองยุค 4.0

หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเชื่อมโยงกับกลุ่มคนเสียผลประโยชน์ ทั้งยังวิจารณ์ว่าคนรุ่นใหม่ คิดว่าเป็นขบถแล้วเท่

โดยศศิวิมล ได้ตอบกลับผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยว่า “วิธีสื่อสารแบบนี้มัน impact มากค่ะ ใช้นักร้องแร๊พ ดึงกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่รู้อดีตของประเทศชาติ พอฟังแล้วก็คล้อยตามไปด้วย และ “เวลาเห็นคนรุ่นใหม่คิดสร้างสรรค์สิ่งดีๆเพื่อสังคมและประเทศชาติ พี่ดีใจทุกครั้ง มันก็อยู่ที่คนรุ่นเราด้วยที่จะใส่อะไรเข้าไปในสมองเขา”

อย่างไรก็ตามล่าสุด โพสต์ดังกล่าวถูกลบออกไปจากเฟซบุ๊กของ ศศิวิมล แล้ว

 

ปอท. ชี้อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คอมฯ นำเข้าข้อมูลเท็จ เตรียมแจ้งผู้เสียหาย-เชิญศิลปินมาให้ข้อมูล

 

เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ต.ค. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้กำกับกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ในฐานะรองโฆษก บก.ปอท. กล่าวถึงกรณีการแพร่คลิปเพลงแร็พ ‘ประเทศกูมี’ ว่า เบื้องต้น พ.ต.อ.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รักษาการแทนผู้บังคับการ ปอท. ได้สั่งการให้ฝ่ายสอบสวนประชุมพิจารณาว่าเข้าข่ายข้อกฎหมายใด และให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบว่าผู้ปรากฎในคลิปเป็นใคร เพราะว่าเนื้อหาค่อนข้างให้ร้ายประเทศไทย ทำให้ประเทศเสียหายอยู่หลายเรื่อง

จากการตรวจสอบน่าจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ” เพราะความเสียหายที่ปรากฎในเนื้อเพลงอาจกระทบกระเทือนกับเศรษฐกิจ อาจทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ส่วนจะเข้าข้อกฎหมายอื่นใดขอให้ฝ่ายสอบสวนพิจารณา

“หากพิจารณาแล้วเข้าความผิดตามมาตรา 14 (2) ในเรื่องการร้องทุกข์กล่าวโทษก็จะแจ้งให้บุคคลที่ได้รับความเสียหายเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ และจะต้องเชิญกลุ่มศิลปินที่อยู่ในคลิปเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา ส่วนกรอบระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยค่อนข้างมาก และผู้บังคับบัญชาสั่งการลงมา” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้แม้กลุ่มศิลปิน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงว่าเนื้อหาของเพลงเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลใดนั้น หากมีการดำเนินคดี ก็เป็นสิทธิของพวกเขาที่จะให้การว่ารู้สึกอย่างไร ข้อเท็จจริงในส่วนของเขาเป็นอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าผิดหรือไม่

สำหรับภาพที่ปรากฎในมิวสิควิดีโอในบางส่วนที่มีการฟาดหุ่นซึ่งแขวนอยู่บนต้นไม้ ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ที่นักศึกษมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงโดยรัฐบาลในขณะนั้นจะเข้าข่ายเรื่องการก่อความรุนแรงหรือไม่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ แต่จากภาพรวม อาจเข้าข่ายความผิดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ส่งต่อโพสต์ก็อาจเข้าข่ายความผิด มาตรา 14 (5) ซึ่งจะมีโทษอัตราเดียวกันกับผู้โพสต์ คือ จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ได้เช่นกัน โดยหลังการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างเข้มงวดก็มีจำนวนผู้กระทำผิดที่ลดลง

 

แถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) 
เรื่อง “การคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของพลเมือง กรณีกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship”

ตามที่มีการเสนอข่าวว่า พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล จะเรียกกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. ตรวจสอบว่าเพลงดังกล่าวเนื้อหาเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช. หรือไม่ และจะเชิญตัวมาให้ปากคำว่ามีเจตนาที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือขัดคำสั่ง คสช. ด้วยหรือไม่นั้น รวมถึงการห้ามแชร์คลิปเพลงดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการไม่ยอมรับในหลักการว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนซึ่งได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 อีกทั้งยังไม่เป็นผลดีต่อการสร้างบรรยากาศเพื่อนำสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562

คนส. เห็นว่าการสื่อความเห็นของกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship ในบทเพลงและภาพประกอบนั้น เป็นการใช้ศิลปะเพื่อกระตุ้นความรู้สึกนึกคิดตามหน้าที่ของศิลปินในอารยประเทศ และประเด็นที่พวกเขาหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยล้วนเป็นประเด็นที่สังคมติดตามให้ความสนใจมาโดยตลอด ไม่สมควรที่ พล.ต.อ. ศรีวราห์ จะก้าวล่วงใช้อำนาจอย่างครอบจักรวาลเพียงเพราะเป็นความเห็นส่วนตัว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็ควรจะได้พิจารณาด้วยว่าคำสั่งการนั้นเป็นคำสั่งที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเป็นสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 แล้ว ไม่ควรจะมีอำนาจอื่นใดเหนือบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ

คนส. ขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยุติการข่มขู่ คุกคาม หรือพยายามเรียกตัวกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship มาให้ข้อมูล ปากคำ ตลอดจนการคุกคามในรูปแบบอื่นๆ พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ได้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นโดยสุจริต มากกว่าปฏิบัติตามลมปากของผู้มีอำนาจที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจ

พร้อมกันนี้ คนส. จะร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในการปกป้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship ทั้งในแง่มุมกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และการเคลื่อนไหวทางสังคมอย่างถึงที่สุด

ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิและเสรีภาพของพลเมือง
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.)
26 ตุลาคม 2561

 

อ้างอิงจาก ข่าวสด1, ข่าวสด2, มติชน

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net