Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ถึงแม้ในใจจะรู้อยู่ว่าเส้นแบ่งเขตเมืองไทยนั้นเกิดขึ้นจากการที่ชาติตะวันตกมาตกลงเออออกันเองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเป็นเพียงเส้นสมมติที่รวมกลุ่มคนอันหลากหลายเข้าด้วยกัน ถึงแม้จะรู้อยู่กับอกว่าความเป็นชาติไทยนั้นถูกสร้างขึ้นหมาดๆ ในสมัยแปลก พิบูลสงคราม ที่พึงต้องการให้มีความเป็นศิวิไลซ์ไปเทียบกับชาวตะวันตกในยุคอาณานิคม เนื่องจากจนถึงสมัยสฤษดิ์ ธนะรัชต์และถนอม กิตติขจร ที่ต้องการสร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยเพื่อต่อต้านไวรัสของลัทธิคอมมิวนิสต์และแนวคิดต่อต้านความเป็นตะวันตกจากญี่ปุ่นที่คืบคลานเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  แม้จะมองเห็นกระบวนการการสร้างแนวความคิดวาทกรรมการเป็นชาติที่ถูกจินตนาการขึ้นอย่างชัดเจนเพียงใด แม้บางคนจะมองคนอย่างพวกเราเป็นพวกกบฏเพียงเพราะพูดถึงการสร้างประวัติศาสตร์ที่ถูกปฏิเสธจากหนังสือเรียนของพวกนักข่มขืนทางจริยธรรม1ที่พยายามอย่างไม่ลดละในการสอดใส่ค่านิยมและการเล่าเรื่องที่พวกเขาเห็นว่าถูกต้อง การสร้างประวัติศาสตร์นี้อาจทำให้คนไทยบางคนตากระตุกเพราะไม่สามารถรับความจริงที่ชาติเราไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นเพียงการสร้างขึ้นจากการพัฒนาแนวความคิดคตินิยมจากหลายปัจจัยและเหตุผล

แม้จะรู้ทั้งรู้ เราเองก็ยังติดกับความเป็นชาตินี้ดิ้นไปไหนไม่ได้ รักบ้านหลังนี้อยู่ดี เพราะภาษาที่พูด ไม่มีภาษาไหนแซ่บกว่าภาษาไทยเวลาเม้าท์ชาวบ้าน ไม่มีภาษาไหนถูกนำมาสร้างคำแสลงน่ารักได้ทุกๆปี อรรถรส! เพราะอาหารที่กินไม่มีอะไรจี๊ดจ๊าดได้ใจเท่าส้มตำปูปลาร้ากับข้าวเหนียวไก่ย่าง ไม่มีก๋วยเตี๋ยวประเทศไหนอร่อยเท่าประเทศไทย เพราะคนไทยที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็มีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันอยู่ เรามีความหวังว่าพี่น้องชาวไทยจะเปิดใจคุยกันด้วยความไม่อคติ เราอยากเห็นวันที่พี่น้องชาวไทยได้มานั่งล้อมวงกันแล้วคุยถึงความหวังที่บ้านเราจะดีขึ้น เราจะเดินเล่นตามทางได้อย่างสบายใจว่าเนี่ยแหละบ้านที่เราทั้งหมดเป็นเจ้าของ ถึงแม้เราจะมองต่างกัน แต่ก็ไม่ว่ากัน เราพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกันแล้วพัฒนาแนวคิดไปในทางที่ดีกว่าด้วยกัน มุมมองความคิดที่แตกต่างไม่ได้ทำให้เราผิดใจกันสักนิดว่าเรารักบ้านหลังนี้ของเราน้อยลง

การที่ศิลปิน RAP AGIANST DICTATORSHIP กลุ่มนี้ได้นำเสนอการแสดงออกทางสัญลักษณ์ที่หยิบยื่นการคลี่คลายความอึดอัดแน่นอกต่อบ้านเมืองให้กับหลายๆคนนั้นมาจากความรักประเทศชาติของเราอย่างลึกซึ้งกระทั่งย่อมเสี่ยงติดคุก ยอมเป็นศัตรูกับรัฐบาลที่ไม่มีที่ว่างให้สิทธิมนุษยชน ความกล้าหาญนี้ควรได้รับการยอมรับและรับฟัง เนื้อหาในเพลงไม่ได้เกินเลยจากความเป็นจริง หากเป็นกระจกสะท้อนความเหลวแหลกที่เกิดขึ้นในสังคม จริงอยู่ที่เพลงนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อการเยียวยา เพราะบ้านเรายังไปไม่ถึงจุดนั้น สิ่งที่เราต้องการคือการจัดการต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นแล้วจึงจะมุ่งหน้าสู่หนทางการเยียวยาได้

บางคนวิจารณ์ว่าศิลปินกลุ่มนี้ออกมาด่าประเทศทำไม ทำให้ประเทศเสียหาย เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คนไทยควรยอมรับว่าบ้านนี้เมืองนี้ไม่ใช่เมืองพุทธที่ไร้มลทินอีกต่อไป ประเทศเราเป็นเพียงประเทศหนึ่งในโลกกว้างใบนี้ที่มีทั้งดีและเลว เหตุการณ์การสังหารหมู่อันไร้หัวใจที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ 14 ตุลา(2516) พฤษภาทมิฬ (2519) 6 ตุลา (2535) ตากใบ (2547) เมษาโหด (2553) ที่เกิดขึ้นเพียงเพราะพี่น้องเหล่านั้นเรียกร้องเสรีภาพ สิทธิที่มนุษย์พึงมี เพียงเพราะพวกเขาเห็นต่างจากกลุ่มคนที่มีกระบอกปืน พวกเขาสมควรตายเชียวหรือ พวกเขาควรถูกเอาร่างไร้ชีวิตมาแขวนและตีด้วยเก้าอี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ต่างกับสิ่งของอย่างนั้นหรือ พวกเขาไม่ใช่เพื่อนมนุษย์ที่มีหัวใจ มีความหวัง ความฝัน ความรักอย่างพวกคุณหรอกหรือ ทำไมพี่น้องชาวไทยบางคนถึงยอมให้ผลประโยชน์ ความสุขสบาย หรือแม้แต่แนวคิดชาตินิยมที่สร้างขึ้นมาบิดเบือนความเป็นมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าไปได้ คำถามนี้เป็นคำถามที่เราทุกคนควรตรึกตรองอย่างลึกซึ้งว่าทำไมผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งเปิดทางให้กระบอกปืนได้ถูกใช้เพื่อละเลงเลือดพี่น้องชาวไทยด้วยกันลงบนผืนแผ่นดินไทยยังคงลอยนวลจากการตัดสินบนพื้นฐานของความยุติธรรมไปจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร

ความอึดอัดคับข้องใจเกินบรรยายจากความไร้หัวใจของเพื่อนร่วมชาติทำให้ศิลปินผู้กล้าหาญเหล่านี้เลือกใช้เพลงฮิปฮอปในการแสดงออก การสร้างเพลงนี้ขึ้นมามีนัยยะที่ลึกซึ้งเกินกว่าการออกมาด่ารัฐบาลเพียงเพื่อความมันส์สะใจอยู่หลายขุม แนวเพลงฮิปฮอปที่มีการสะท้อนสังคมเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศอเมริกาจากกลุ่มแรปที่ชื่อว่า N.W.A. การพัฒนาแนวเพลงนี้เกิดขึ้นมาจากความคับข้องใจต่อสภาวะความกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกของสังคมคนดำในอเมริกาที่ถูกทิ้งไว้ชายขอบโดยไม่มีใครรับฟัง2 เพลงประเทศกูมีก็เกิดขึ้นมาในลักษณะเดียวกัน การเลือกนำเสนอเพลงนี้ผ่านแนวเพลงฮิปฮอปเป็นการรำลึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ชาติไทย การสะท้อนสภาวะของการกดขี่ความเป็นมนุษย์ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน และจุดประกายความหวังให้กับเหล่าพี่น้องชาวไทยที่หัวใจยังสูบฉีดเลือดเพื่อหล่อหลอมชาติในอุดมคติที่เราใฝ่ฝันถึง ไม่ว่าจะในเร็ววันหรือในยุครุ่นลูกหลานต่อไป

 

หมายเหตุ

1.ยืมแนวคิดนักข่มขืนจริยธรรมจากหนังสือ Genderism โดยโตมร สุขปรีชา

2.เรื่องราวของศิลปินกลุ่มนี้มาจากภาพยนตร์อิงชีวประวัติเรื่อง Straight Outta Campton (2015)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net