Skip to main content
sharethis

ตัวแทนชาวชุมชน 19 ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางนครปฐม-หัวหิน พบผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ตามความคืบหน้าขอใช้พื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์ หลังไม่ได้คำตอบเรื่องที่อยู่ใหม่มาตั้งแต่เดือน เม.ย. เพราะถูกการรถไฟ อิตาเลียนไทย ซิโน-ไทย แจ้งรื้อภายใน พ.ย. นี้ กระทบชาวบ้าน 4 พันคน 

ตัวแทนผู้เดือดร้อนยื่นหนังสือให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

31 ต.ค. 2561 ที่ศาลากลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตัวแทนชาวชุมชน 19 ชุมชนผู้เดือดร้อนจากโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางนครปฐม-หัวหิน เข้าพบผู้ว่าราชการ จ. ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ขอใช้ที่ดินสาธารณะ

หนังสือระบุว่า โครงการรถไฟทางคู่มีผลกระทบกับประชาชนริมทางรถไฟ 19 ชุมชน มีผู้เดือดร้อนประมาณ 1,200 หลังคาเรือน ประมาณ 4,000 คน ที่กำลังถูกเวนคืนที่ และไล่รื้อบ้านภายในเดือน พ.ย. 2561 จะเป็นผลให้ผู้อยู่อาศัยในที่รางรถไฟมานานต้องย้ายออก ไร้ที่อยู่ ซึ่งจะกระทบต่อชีวิต การงาน การศึกษา

เอกสารที่ยื่นให้กับทางจังหวัด (ดูภาพขนาดใหญ่ที่นี่)

นอกจากนั้น การแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยภายใต้คณะกรรมการแก้ไขปัญหารถไฟทางคู่เมืองหัวหินระดับจังหวัดมีกระบวนการที่ล่าช้า ติดเงื่อนไขราชการในการขอใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์ (ทุ่งเลี้ยงสัตว์) ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชาวบ้านยังถูกบีบคั้น กดดันจากการรถไฟแห่งประเทศไทยที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัดและ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) สองบริษัทผู้รับเหมาที่แจ้งว่าจะต้องทำการรื้อถอนในเดือน พ.ย. ปีนี้ แต่ชาวบ้านยังไม่มีที่ดินรองรับ จึงขอให้ทางผู้ว่าฯ แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยต่อมารองผู้ว่าฯ สองคนได้ออกมารับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน

พงษ์ศักดิ์ คำทรัพย์ คณะกรรมการการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย จ.ประจวบคีรีขันธ์กล่าวว่า ปัญหาของผู้เดือดร้อนตอนนี้คือถูกกดดันจากการไล่รื้อที่มีสี่ชุมชนต้องออกจากพื้นที่ในเดือน พ.ย. นี้ แต่หน่วยงานรัฐล่าช้ามาตั้งแต่เดือน เม.ย. ไม่มีคำตอบให้ชาวบ้าน ซึ่งคิดว่าน่าจะติดขัดหน่วยงานรัฐในพื้นที่ที่จะขอใช้ ผู้เดือดร้อนจึงมาหาผู้ว่าฯ

พงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า แนวคิดเดิมที่อดีตปลัด อ.หัวหิน สมพร ปัจฉิมเพชร วางไว้คือให้หน่วยงานรัฐหาที่อยู่ใหม่ แล้วให้ชาวบ้านย้ายไปอยู่เลย แล้วขั้นตอนขอใช้พื้นที่ก็ให้ทางราชการจัดการไปควบคู่กัน ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐได้ไปสำรวจที่ดินสาธารณะประโยชน์ได้มาสี่พื้นที่ แต่อีกสามพื้นที่เป็นพื้นที่ทหารและพื้นที่ป่า ก็เหลือพื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์ที่เงื่อนไขการขอใช้นั้นง่ายกว่าที่ของทหาร

พงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยมานานกว่า 30-40 ปีแล้ว ปัจจุบันชาวบ้าน 19 ชุมชนถูกยกเลิกสัญญาเช่าจากการรถไฟแห่งประเทศไทยทั้งหมดเมื่อห้าปีที่แล้ว ตอนนี้อยู่กันแบบบุกรุกตามอัตภาพ

“ขอให้หน่วยงานของรัฐ ภายใต้นโยบายรัฐที่มีผลกระทบต่อชุมชนและสังคมให้มีแผนรองรับไว้เลย ที่ผ่านมาเร่งด่วน แล้วตอนนี้ที่ทำได้อย่างเดียวคือรัฐต้องช่วยเหลือผู้เดือดร้อนโดยอนุญาตให้ใช้ที่ดินโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทิ้งภาระให้กับผู้เดือดร้อน และเป้นปัญหาสังคมที่ไม่ได้รับการแก้ไข ชาวบ้านก็ต้องไปบุกรุกที่อื่นอยู่ หรืออาจมีปัญหาเรื่องยาเสพติด ผู้พิการ” พงษ์ศักดิ์กล่าว

วิทยา สุดสาคร ตัวแทนผู้เดือดร้อนที่เข้ายื่นหนังสือให้ข้อมูลว่า พื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์มีเนื้อที่ราว 2,600 ไร่ ในพื้นที่ดังกล่าวก็มีโรงพยาบาล และวิทยาลัยในพื้นที่ได้ขอใช้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่

'ซิโน-ไทย' จ่ายชดเชยชาวหัวหินกระทบรถไฟทางคู่ ผู้แทนชุมชนหวั่นไม่แฟร์-ยังไม่มีที่ไป

โครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน เป็นรถไฟทางคู่ช่วงสายใต้ ระยะทางราว 170 กม. มีสถานีจำนวน 28 สถานี โดยก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มหนึ่งทางขนานไปกับทางรถไฟที่มีอยู่เดิมไปตลอดสายทาง รางกว้าง 1 เมตร เป็นแบบใช้หินโรยทาง ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณโทรคมนาคมสำหรับทางคู่ เริ่มต้นที่สถานีนครปฐม จ.นครปฐม สิ้นสุดที่สถานีหนองแก จ.ประจวบคีรีขันธ์มีงบประมาณ 20,145.59 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรถไฟ ลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มทางเลือกในการเดินทาง กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค

เส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน (ที่มา: ร.ฟ.ท.)

โครงการดังกล่าวรับดำเนินการโดยบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัดและ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2561 – 31 ม.ค. 2564 รวม 36 เดือน ที่ผ่านมามีการจ่ายค่าชดเชยในบางชุมชนไปแล้ว เมื่อ 18 ก.ย. ที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งโต๊ะจ่ายเงินผู้ได้รับผลกระทบในส่วนของชาวบ้านชุมชนหนองแกตะวันออก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net