จั๊ด ธีมะ ยุติ 'ฟ้าทะลายโจร' ช่อง Bluesky หลังวิจารณ์ 'ประเทศกูมี'

หลังคนวิจารณ์เล่าข่าว 'ประเทศกูมี' ดีกรีไม่เหมือนที่จัดกับช่อง one31 ล่าสุดจั๊ด ธีมะ กาญจนไพริน ยุติจัดรายการ พร้อมอำลา Bluesky แต่ยืนยันหลักการเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือ "เล่าเรื่องยากให้ง่าย เล่าเรื่องง่ายให้มีมุมคิด เรื่องคนชั่วต้องโจมตี เรื่องคนดีต้องสรรเสริญ" เผยวาทะเมื่อ 29 ต.ค. ก่อนลาโรง 'ฟ้าทะลายโจร' เตือน คสช. อย่าตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับคนรุ่นใหม่ ถ้าหวังดีต่อชาติต้องเอาเขามาเป็นพวกให้ได้ ขออย่าคิดสั้นๆ ใช้อำนาจเต็มที่ เพราะจะยิ่งสร้างขั้วตรงข้าม

1 พ.ย. 2561 กรณี จั๊ด ธีมะ กาญจนไพริน เล่าข่าวเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ในรายการ "ข่าวเย็นช่องวัน" ทางช่อง one31 และในรายการ "ฟ้าทะลายโจร" ทางช่อง Bluesky หรือฟ้าวันใหม่ โดยมีเนื้อหาและจุดยืนในบางช่วงแตกต่างกันจนถูกวิจารณ์อย่างหนักนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.25 น. ในเฟสบุ๊คเพจ JudgeJudd เขาได้โพสต์บทความ "อำลา “ฟ้าทะลายโจร”" เปิดเผยว่ายุติการจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ Bluesky แล้ว โดยระบุว่า

"เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ.2554 ในวันที่ผมยังเป็นดีเจ พิธีกร รายการบันเทิง หากยังจำกันได้ ช่วงเวลาดังกล่าวชาติเราประสบกับมหาอุทกภัย ไม่ทราบว่าอะไรดลใจให้ผมอัดคลิปโพสต์ลงยูทูบ วิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐบาลขณะนั้นว่าไร้ประสิทธิภาพ

ส่งผลให้หลังจากนั้นไม่กี่วัน งานที่มีทั้งหมดถูกระงับ เป็นการตกงานอย่างสมบูรณ์แบบครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มทำงานในฐานะดีเจเมื่อครั้งยังเป็นนิสิตปีสามเมื่อปี พ.ศ.2546

เคว้งคว้างอยู่เดือนกว่าๆ พฤศจิกายน 2554 ผมได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ติดต่อทาบทามให้ไปจัดรายการที่สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ชื่อ “บลูสกายชาแนล” ผู้ที่โทรหาผมในตอนนั้นคือคุณเถกิง อดีต ผอ.บลูสกาย ผ่านการแนะนำของคุณกรณ์ จาติกวณิช

ในฐานะคนตกงาน ผมตกลงรับงานทันที

จากวันนั้นถึงวันนี้ นับเวลาได้เจ็ดปี “ฟ้าทะลายโจร” ถือเป็นรายการที่ผมทำหน้าที่พิธีกรต่อเนื่องยาวนานที่สุดในชีวิต และเป็นหนึ่งในรายการที่ผมรักมากเป็นอันดับสองรองจากรายการป๊อปอัพไลฟ์ซึ่งเป็นรายการทีวีรายการแรกที่ผมจัด...

เจ็ดปีที่ว่านั้นทรงคุณค่า เป็นช่วงเวลาที่หล่อหลอมให้ผมกลายเป็นคนข่าว สร้างเสริมประสบการณ์การประกาศและวิเคราะห์ข่าว เพิ่มพูนความรู้รอบตัวมากมายที่เกี่ยวเนื่องกับข่าว มากไปกว่านั้นยังทำให้ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับงานการเมืองในรัฐสภา ในฐานะผู้ช่วย ส.ส.กรณ์ จาติกวณิช และโฆษกผู้นำฝ่ายค้าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

หลังยุบสภาเมื่อปลายปี พ.ศ.2556 การเมืองนอกสภาร้อนแรง เกิดการชุมนุมใหญ่ ผมได้มีส่วนร่วมในฐานะผู้ปราศรัย ในมุมของนักสื่อสาร การไฮด์ปาร์คท่ามกลางผู้ชมเรือนแสนเรือนล้านถือเป็นประสบการณ์ที่อาจจะไม่อาจหาได้อีกแล้วในชีวิต

เจ็ดปีที่สถานีบลูสกาย หล่อหลอมให้ผมค้นพบสไตล์การจัดรายการที่ผลักดันเอาศักยภาพสูงสุดออกมา พัฒนากลายเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้คนจดจำ นั่นคือการจัดรายการสาระผ่านการนำเสนอแบบบันเทิงเชิงเสียดสี...

กาลเวลาผ่านไป สถานการณ์เปลี่ยน บริบทแวดล้อมของชีวิตเปลี่ยน ผมได้รับโอกาสให้จัดรายการข่าวบนสถานีทีวีดิจิทัลและทีวีออนไลน์ การจัดรายการที่บลูสกายกลับกลายเป็นปัญหาที่ทั้งผู้ใหญ่และผู้ชมมากมายต่างตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือและเป็นกลางในการรายงานข่าว เพราะขาหนึ่งของผู้ประกาศข่าวยังเกาะเกี่ยวกับสถานีข่าวที่ชัดเจนว่าสนับสนุนพรรคและฝั่งฟากทางการเมืองฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ

นอกจากนั้นยังมีเหตุปัจจัยอันละเอียดอ่อนอื่นๆอีกมากมายที่ไม่อาจอธิบายได้หมดจดผ่านช่องทางนี้ แต่ทั้งหมดทั้งปวงประกอบกันส่งผลให้ในท้ายที่สุด ผมจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะขอยุติการจัดรายการ “ฟ้าทะลายโจร” นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

เสียดายและเสียใจอย่างไม่อาจหาคำอธิบายใดๆ มาอุปมาพรรณาให้เห็นภาพได้...

อย่างไรก็ตาม ผมยังยืนยันในความไม่มีอยู่จริงของความเป็นกลางในวงการสื่อสารมวลชน บรรณาธิการ ผู้ประกาศ รวมไปถึงทีมข่าวทุกคนต่างก็มีฝั่งฟากทางการเมืองที่รักในใจ และพร้อมจะใช้ทุกโอกาสที่มีในการสอดแทรกข่าวที่ส่งผลบวกต่อขั้วที่ตัวชอบ และข่าวที่ส่งผลลบต่อขั้วที่ตัวเกลียด...เป็นเช่นนี้ทุกที่ ทุกสถานี

อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปหลายต่อหลายครั้งถึงหลักการในการรายงานข่าวว่าต้อง “เล่าเรื่องยากให้ง่าย เล่าเรื่องง่ายให้มีมุมคิด เรื่องคนชั่วต้องโจมตี เรื่องคนดีต้องสรรเสริญ” มาวันนี้หลักการที่ว่ายังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ผมไม่ได้นิยมในพรรคการเมืองหรือระบอบการปกครองแบบใดแบบหนึ่ง หากแต่นิยมในตัวปัจเจกบุคคลมากกว่า...

ผู้ใดเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถรอบด้านในการบริหารประเทศ มีอุดมการณ์หนักแน่นไม่โอนอ่อนผ่อนไปตามสถานการณ์ มีนโยบายที่เน้นการสร้างวินัยไม่ใช่ตามใจฐานเสียง มีจิตสาธารณะ ทำงานเพื่อชาติตลอดเวลาแม้ในยามที่ไม่มีอำนาจหรืองบประมาณ ที่สำคัญ ไม่เคยทุจริตงุบงิบงบประมาณสักบาทเข้ากระเป๋า...ผู้นั้นย่อมสมควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้เป็นผู้นำของรัฐชาติ

ไม่ว่าจะจัดรายการที่ไหน หลักการในย่อหน้าด้านบนจะไม่เปลี่ยนไป ในทางการเมือง ผมจะทำทุกทางเพื่อสนับสนุนให้คนดีได้มีอำนาจ เพื่อควบคุมไม่ให้คนชั่วเข้ามากอบโกย ล้างผลาญ ในทางการสื่อสาร ผมจะนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ กำจัดขยะในวงการสื่อ ข่าวงมงายไร้สาระจะพยายามตัดออกหรือเล่าผ่านๆ ข่าวดีมีคุณค่าจะถูกขยาย และเชิญชวนให้เกิดการคิดวิเคราะห์ต่อยอด

เหนือสิ่งอื่นใด บลูสกายเป็นสถานีข่าวการเมืองที่ไร้การเมืองภายใน ผมได้รับอิสระในการทำข่าวอย่างเต็มที่ โดยมีทีมงานที่น่ารักรู้ใจและไว้วางใจได้อย่างสนิทใจ ไม่มีวาระซ่อนเร้นให้ต้องขุ่นข้องหมองใจ เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองที่ผมใช้ชีวิต ทำงาน กิน นอน ได้อย่างสบายใจ ตัวตนเป็นอย่างไรก็เป็นไปเช่นนั้น

ขอบคุณทุกโอกาส ทุกการสนับสนุน และทุกมิตรภาพอันอบอุ่นจากทุกผู้ทุกคนที่สถานีแห่งนี้

ท้ายที่สุด ขอบพระคุณอย่างที่สุดจากใจสำหรับทุกการติดตาม ทุกการติชม จากคุณผู้ชม ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา...

จำใจ จำจาก จำลา จนกว่าจะพบกันใหม่ครับ..."

 

เสียงวิจาณ์เกิดหลังพูดถึง 'ประเทศกูมี' ออกช่อง one31 ดีกรีไม่เท่า "บลูสกาย"

สำหรับการจัดรายการของธีมะเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ทางช่อง one31 นอกจากเขาจะวิจารณ์เนื้อเพลงแล้วยังพูดในทำนองว่า เป็นสิทธิของบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างสุจริต "สิ่งที่ประเทศกูควรต้องมีคือ การเปิดโอกาสให้สังคมนั้นได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างสุจริต โดยไม่ไปปิดกั้น หรือเอากฎหมายไปลงโทษเขา ให้เขาวิพากษ์วิจารณ์มา แล้วอะไรที่มันมี น้อมรับไว้แล้วบอกสิว่าจะแก้ไขอย่างไร อะไรที่มันไม่มีก็แก้ให้มันถูกต้องว่าสิ่งที่คุณพูดมันไม่มี แต่ไม่ใช่เอาอำนาจไปอุดปากเขา"

ส่วนการจัดรายการในช่องฟ้าวันใหม่ มีการเพิ่มดีกรีวิจารณ์เนื้อหาเพลงมากขึ้น เนื้อหาส่วนมากคล้ายกับที่จัดทางช่อง one31 แต่มีบางช่วงบางตอนที่ทำให้เขาถูกวิจารณ์เนื่องจากเขากล่าวว่า "นี่ไม่ใช่การทำเพลงของเด็กธรรมดาๆ นะครับ คุณผู้ชมครับ เพราะว่ามันมีทุนหนุนหลัง และมากไปกว่านั้นก็คือเราไม่สามารถลบคลิปนี้ออกได้ละ เพราะว่ามันมีการใส่เข้าไปในเทคโนโลยีบล็อกเชน คลิปนี้จะอยู่ไปถาวร ทางการไทยลบออกไม่ได้ บอกเลยครับ เขามีคนช่วยจากต่างประเทศ และสิ่งที่ผมพูดคือสิ่งที่เป็นจริง เป็นขบวนการ"

ฟัง 'จั๊ด ธีมะ' เตือน คสช. ไม่ควรใช้อำนาจกฎหมายไปจัดการคนแต่งเพลง 'ประเทศกูมี'

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าทั้งนี้ในช่วงท้ายรายการฟ้าทะลายโจร ทางช่อง Bluesky เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นั้น ธีมะเองนอกจากจะกล่าวด้วยว่าการรับสารทางการเมืองต้องฟังแล้วคิดตามแล้ว เขายังแสดงความไม่เห็นด้วยถ้า คสช. จะใช้อำนาจกฎหมายไปเล่นงานคนแต่งเพลง "อย่างไรก็ตามการรับสารทางการเมือง เราต้องถอดตัวเองออกมา ลอยตัวอยู่เหนือสารนั้นแล้วมองลงไปว่า สิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด อย่าตีรวม อย่าตีรวม อย่างเช่น 'ประเทศกูมี' ผมเชื่อว่าหลายคนฟังเอาไปด่าต่อเลยทั้งๆ ที่ฟังแล้วไม่ได้คิดตามว่าเนื้อหาบางประกันนั้นบิดเบือน และไม่ได้เป็นไปตามความเป็นจริง" 

"เนื้อหาที่ถูกต้องมีไหม มี สิ่งที่เพลงๆ นี้ดังเพราะคณะรัฐประหารอยู่นานเกินไป และต้องนำประเทศไปสู่การเลือกตั้งได้แล้ว ซึ่งอันนี้ถูก ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด สิ่งที่สำคัญก็คือ คุณไม่ควรแล้วนะที่จะต้องเอาอำนาจกฎหมายไปจัดการพวกเขา เพราะจะยิ่งทำให้แกนตามของพวกเขาลุกฮือขึ้นมา ก็คือปล่อยไป"

เขากล่าวด้วยว่า "คสช.ต้องพึงตระหนักว่ากระแสตอนนี้ ย่ำแย่ ผมใช้คำนี้นะครับ กระแสของรัฐบาลท่านตอนนี้ย่ำแย่ จะทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด ผมกังวลว่าประเทศไทยต่อไปอีก 10-15 ปีนั้นเราจะอยู่กันลำบาก ผมก็คงจะต้องตั้งใจทำงานแล้วก็เก็บตังค์ (หัวเราะ) เผื่อว่าอีกสัก 10-15 ปีไม่รู้เราจะมีที่ยืนกันหรือเปล่า ผมไม่ได้พูดเกินไปนะครับ เพราะผมรู้สึกว่าสิ่งที่ คสช. กำลังพลาดมากตอนนี้คือการทำให้ตัวเองเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มคนรุ่นใหม่ เอาเป็นว่ากลุ่มคนเกิดหลังปี 2540 เป็นต้นไปส่วนใหญ่แล้วไม่เอาท่านเลย ไม่เอาท่านด้วยอะไรก็ไม่รู้ ไม่เอาเลยนะฮะ"

"กลุ่มคนเหล่านี้นั้น เริ่มที่จะกลายเป็นกลุ่มคนที่ขึ้นมารันประเทศในฐานะผู้บริหารชั้นแรก ชั้นต้น ชั้นกลาง และอีกประมาณ 10-15 ปี คนเหล่านี้จะผงาดขึ้นมาเป็นคนรันประเทศ ในขณะที่พวกเรานั้นร่วงโรย แล้วผมเชื่อว่าในช่วงที่ผมอายุสัก 50 ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบเพลง 'ประเทศกูมี' จะผงาดขึ้นมาบริหารประเทศนี้ ซึ่งตอนนั้นเราอาจจะทำอะไรไม่ได้ นอกเหนือจากใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ คุณเห็นด้วยกับผมไหมล่ะ"

"ดังนั้นถ้า คสช. อยากจะวางอะไรยาวๆ เพื่อประเทศนี้ ได้เวลาแล้วครับที่ท่านต้องทำอะไรกับคนรุ่นใหม่ อย่าไปตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพวกเขา ถ้าท่านหวังดีต่อประเทศนี้ในระยะยาว ท่านต้องเอาเขามาเป็นพวกให้ได้ ผมไม่ทราบว่าทำยังไง แต่ขออย่าให้ท่านคิดสั้นๆ เพียงแค่ช่วงอยู่ในอำนาจเท่านั้น เพราะว่าช่วงที่ท่านอยู่ในอำนาจแล้วใช้เต็มที่อย่างนี้ จะยิ่งสร้างขั้วตรงข้ามที่พวกเขาเหล่านั้นในอนาคตจะขึ้นมาเป็นท่าน แล้วเมื่อถึงตอนนั้นแล้วประเทศเราจะลำบากมากนา ผมไม่อยากให้ประเทศไทยตกไปอยู่ในทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง บางทีหลีกเลี่ยงไม่พ้นแล้วมั้งเนี่ย เพราะทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นมันจะหยุดนิ่งทางเศรษฐกิจ ทุกอย่างจะไปไม่ได้ เพราะจะไม่มีใครทำอะไร วันๆ แย่งอำนาจกัน" ธีมะกล่าวในรายการเมื่อวันที่ 29 ต.ค.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท