สนช.เห็นชอบให้ประกาศใช้ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 162 เสียง ให้สืบพยาน-ตัดสินคดีลับหลังจำเลยหนีศาลได้
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ก่อนมีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายด้วยเสียง 167 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง โดยไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย จากจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 172 คน
สำหรับร่างกฎหมายดังกล่าวมีจำนวน 9 มาตรา มีความสำคัญเป็นการแก้ไขกฎหมายเดิมเกี่ยวกับการไต่สวนมูลฟ้องที่ยังไม่เอื้อต่อการคุ้มครองสิทธิของจำเลย เนื่องจากจำเลยที่อาจไม่มีทนายและไม่สามารถแถลงให้ศาลทราบถึงข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่ศาลควรสั่งว่าคดีไม่มีมูล รวมถึงในชั้นพิจารณาคดี หากจำเลยไม่มาศาล ศาลไม่สามารถสืบพยานต่อไปได้ หรือจนกว่าจำเลยจะมา ทำให้คดีล่าช้า ส่งผลกระทบต่อหลักการอำนวยความยุติธรรมที่รวดเร็วและเป็นธรรม จึงมีการเพิ่มข้อกำหนดต่างๆ เพิ่มเติม อาทิ กรณีที่ศาลมีอำนาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลยได้ รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ดำเนินกระบวนการพิจารณากรณีจำเลยหลบหนีหรือไม่มารับฟังโดยไม่มีเหตุอันควร และครอบคลุมไปถึงกรณีจำเลยที่เป็นนิติบุคคลที่ถูกออกหมายจับแต่ยังจับตัวไม่ได้ รวมทั้งกำหนดเรื่องการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการส่งสำเนาฟ้องและหมายเรียกให้แก่จำเลยด้วยจำนวนไม่สูงเกินสมควร
ทั้งนี้ร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมประมลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป