Skip to main content
sharethis

อัยการฟ้องคดีนำข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมฯ 9 คน แชร์โพสต์ปม 'ยาเสพติดระบาดหนัก' จากเฟสบุ๊กแฟนเพจ 'กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ' ขณะที่ศาลไม่ให้ประกันตัว 5 ราย

5 พ.ย.2561 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด กอง 9 ถนนรัชดา อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องจำเลย 9 คน ในคดีแชร์โพสต์เฟสบุ๊กจากแฟนเพจ “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ” สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ระหว่างเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ทยอยแจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาหลายราย โดยเป็นการระบุความผิดฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จที่กระทบความมั่นคงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ตามมาตรา 14 (5) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560

ศูนย์ทนายฯ รายงานต่อว่า หลังจากอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง จำเลยได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ต่อมาเวลา 12.30 น. ศาลได้อ่านคำฟ้องต่อจำเลย และถามคำให้การจำเลย โดยมีจำเลยให้การรับสารภาพ 5 คน โดยญาติจำเลยได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เป็นการวางหลักทรัพย์ประกันเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท 3 คน และมีคำสั่งให้ไปพบพนักงานคุมประพฤติในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย. 61) ส่วนจำเลยอีกหนึ่งคน วางหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ประเมินราคา 100,000 บาท ซึ่งจำเลยทั้ง 5 คน ศาลได้มีคำสั่งให้มาฟังคำสั่งพิพากษาวันที่ 12 ธ.ค. 61 เวลา 9.00 น.

ขณะที่จำเลยอีกหนึ่งคนที่ให้การรับสารภาพ ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยไม่วางหลักทรัพย์ตามที่ยื่นคำร้อง แต่มีคำสั่งให้เบิกตัวเลยมาสอบถาม ความยินยอมในการติดอุปกรณ์ติดตามตัว (มีลักษณะเป็นกำไลข้อเท้า EM ‘Electronic Monitoring Center’) และจะพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้ และมีคำสั่งให้ฝากขังจำเลยทั้ง 5 คน โดยแบ่งเป็นชาย 2 คน ถูกฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และผู้หญิง 3 คน ถูกฝากขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

ในส่วนของจำเลยที่เหลือ 4 คน ซึ่งให้การปฏิเสธนั้น ได้ยื่นประกันตัวโดยไม่วางหลักทรัพย์ ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยไม่วางหลักทรัพย์ตามที่ยื่นคำร้อง แต่มีคำสั่งให้เบิกตัวเลยมาสอบถาม ความยินยอมในการติดอุปกรณ์ติดตามตัว (มีลักษณะเป็นกำไลข้อเท้า EM ‘Electronic Monitoring Center’) และจะพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้ เวลา 9.00 น.

สำหรับคดีนี้ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า เป็นคดีที่เกี่ยวกับการใช้เสรีภาพในการแสดงออก เพื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล โดยจำเลยกดแชร์โพสต์เรื่องยาเสพติด โดยมีเนื้อหาการโพสต์ว่า

“ยาเสพติดระบาดหนักในหลายชุมชน จนท.ทหารหลายพื้นที่ ทำงานเป็นคนดูแลความสงบให้แก่พวกขายยา (กล่าวลอยๆ) โดยทำงานร่วมกับตำรวจท้องที่ ลองดูสิ เยอะจริงๆ ยกตัวอย่างแถวบ่อนไก่ก็ตำรวจ-ทหารเป็นหูเป็นตาให้ผู้ค้าเองด้วย ป.ป.ส.มาสืบเองก็คงมีข้อมูลแล้ว แต่ก็ไม่ทำอะไร ประชาชนในชุมชนอยู่กันอย่างหวาดระแวง ลักเล็กขโมยน้อยเกิดขึ้นประจำ นี่หรือคือยุคที่ คสช.อ้างว่าสงบสุข แต่ยาเสพติดกลับทะลักเข้ามาทำลายอนาคตของประเทศ

ทหารนอกแถวมีมากมาย แต่ควบคุมให้มีวินัยไม่ได้
เพราะ คสช.เองก็มีอำนาจด้วยวิธีการที่ผิดๆ และขาดวินัย

น่าสงสัยต่ออีก ใครปล่อยให้ยาเสพติดทะลักเข้ามา 
ประโยชน์ไปตกที่ใคร เงินไปไหน อืม”

ในเอกสารคำฟ้องของฝ่ายโจทก์ระบุว่าข้อความข้างต้น

“ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างหนักในหลายชุมชนในปัจจุบัน เกิดขึ้นจากการที่มีเจ้าหน้าที่ทหารที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบในพื้นที่ต่าง ๆ ร่วมกับตำรวจในท้องที่ ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับผู้ค้ายาเสพติดเสียเอง จึงทำให้ยาเสพติดกลับทะลักเข้ามาทำลายอนาคตของประเทศ

เหตุเพราะ คสช. เองก็มีอำนาจและวิธีการที่ผิด ๆ และขาดวินัย ซึ่งเป็นความเท็จเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารมีหน้าที่รักษาความสงบในเขตพื้นที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตท้องที่เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ปราบปรามการกระทำผิดและดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่เจ้าหหน้าที่ทหารและตำรวจจะร่วมมือกันเป็นหูเป็นตาให้กับผู้ค้ายาเสพติดเสียเอง”

สำหรับพฤติการณ์การจับกุมจำเลย คนึงนิตย์ 1 ในจำเลย เปิดเผยว่า ได้รับหมายเรียกตำรวจท่องเที่ยวที่มาพบเธอที่บ้าน ในขณะนั้น ตำรวจแจ้งว่าเธอถูกเรียกในฐานะพยานเท่านั้นไม่ใช่ผู้ต้องหา ถ้าไป ปอท. จะกันเป็นพยาน พร้อมกับนำภาพข้อความในเพจของกูต้องได้ 100 ล้านฯ ให้เธอดู โพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 61 และระบุว่าเพจดังกล่าวนี้มี วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นแอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ ๆ”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net