Skip to main content
sharethis

ประชุม ครม. 20 พ.ย. 2561 เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม. 28 ก.ค. 2541 เฉพาะในส่วนการรับพนักงานในปีแรก ภายในกรอบไม่เกิน 1,904 อัตรา โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรับไปปรับกรอบอัตรากำลังและแผนการสรรหาในระยะ 10 ปี ให้เริ่มตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป


ที่มาภาพประกอบ: Mark Fischer (CC BY-SA 2.0)

20 พ.ย. 2561 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (28 ก.ค. 2541) เฉพาะในส่วนการรับพนักงานในปีแรก ภายในกรอบไม่เกิน 1,904 อัตรา โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรับไปปรับกรอบอัตรากำลังและแผนการสรรหาในระยะ 10 ปี ให้เริ่มตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและนำกรอบอัตรากำลังฯ เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพร้อมกับแผนฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย (พ.ศ. 2561 – 2570) เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของอัตรากำลังในภาพรวมให้สอดคล้องกับภารกิจตามแผนฟื้นฟูการรถไฟแห่งประเทศไทย (พ.ศ. 2561 – 2570) ก่อนดำเนินการสรรหาพนักงานในปีแรก ทั้งนี้ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการด้วย

สำหรับอัตรากำลังในปีต่อ ๆ ไป หากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องเพิ่มอัตรากำลังเกินกว่าที่กำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี (28 กรกฎาคม 2541) ก็ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป

เผยความเห็นขอเพิ่มอัตรากำลังคน รฟท. เตรียมเข้า ครม. แล้ว หลังผลักดันมาตั้งแต่ ก.ย. 2560
สหภาพแรงงานรถไฟพบ รมว.คมนาคม ทวงถามกรณีเพิ่มพนักงาน
รฟท. จ่ายค่า ‘ทำงานวันหยุด-โอที’ กว่าพันล้าน เหตุขาดกำลังคน

ในวันเดียวกันนี้ (20 พ.ย.) การรถไฟแห่งประเทศไทยยังได้รายงานผลการดำเนินการโอนความรับผิดชอบการบริหารตลาดนัดจตุจักร ไปเป็นความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 โดยระบุว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตลาดนัดจตุจักร เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ค้ารายย่อยในตลาดนัดจตุจักร ตามสรุปผลการประชุม กขป.5 ครั้งที่ 8/2561 เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2561 และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนผู้มาใช้บริการ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เชิญผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้แทนกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมหารือเมื่อวันที่ 8 และ 14 พ.ย. 2561 เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางดำเนินการโอนความรับผิดชอบการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรไปเป็นความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร สรุปผลได้ดังนี้      

1. การรถไฟแห่งประเทศไทย ตกลงให้กรุงเทพมหานครเช่าที่ดิน เพื่อบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรทั้งหมดบนพื้นที่ขนาด 68 ไร่ 1 งาน 88 ตารางวา       

2. กำหนดอัตราค่าเช่าปีละ 169,423,250 บาท และระยะเวลาให้เช่าไม่เกินปี พ.ศ. 2571 และให้มีการพิจารณาทบทวนค่าเช่าร่วมกันทุก ๆ 3 ปี และมีการปรับเพิ่มไม่เกินอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย     

3. สัญญาเช่าต่าง ๆ จำนวน 32 สัญญาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย มีอยู่ในปัจจุบันนั้น โอนสิทธิและหน้าที่ให้กรุงเทพมหานครไปทั้งหมดเพื่อให้การบริหารจัดการตลาดมีประสิทธิภาพ        

4. ให้กรุงเทพมหานครเริ่มเข้าบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2561 เป็นต้นไป โดยกำหนดอัตราค่าเช่าแผงค้าละ 1,800 บาท/แผง/เดือน (ลดลงจากอัตราค่าเช่า 3,157 บาท)        

5. กรุงเทพมหานครยืนยันรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาว่าจ้างบริการงานรักษาความปลอดภัย จนสิ้นสุดสัญญาวันที่ 31 พ.ค. 2561 และสัญญาว่าจ้างงานทำความสะอาดและจัดเก็บขยะแบบครบวงจรที่จะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 31 พ.ค. 2565 ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยจะช่วยกรุงเทพมหานครเจรจาต่อไป        

6. ในการทำสัญญากับผู้เช่าทุกประเภทระหว่างกรุงเทพมหานครกับผู้เช่า กรุงเทพมหานครตกลงจะดำเนินการตรวจสอบผู้เช่าที่มีภาระหนี้สินค้างชำระกับการรถไฟแห่งประเทศไทย หากผู้เช่ารายใดยังคงมีภาระหนี้สินติดค้างกับการรถไฟแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานครจะไม่ทำสัญญากับผู้เช่ารายนั้น และการรถไฟแห่งประเทศไทย ขอสงวนสิทธิในพื้นที่เช่าจนกว่าผู้เช่ารายนั้นจะได้ชำระหนี้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยครบถ้วนแล้ว   

7. การรถไฟแห่งประเทศไทยและกรุงเทพมหานครจะจัดทำบันทึกข้อตกลงการแก้ไขปัญหาตลาด นัดจตุจักรร่วมกันตามตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 ก่อนจัดทำสัญญาเช่าที่ดินตามแบบมาตรฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทยต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาตลาดนัดจตุจักรตามสาระสำคัญและข้อเท็จจริงข้างต้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net